TLD-003-1462
ดาบสโพธิสัตว์ 16 (ชื่อตัวละคร)
สังกัปปราคชาดก นิบาตชาดก
ดาบสโพธิสัตว์เป็นตัวละครในเรื่องสังกัปปราคชาดก ติกนิบาต ในนิบาตชาดก
ในสมัยพระเจ้าพรหมทัตแห่งกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติในตระกูลพราหมณ์ผู้มั่งคั่ง เมื่อเจริญวัยก็ได้ไปศึกษาศิลปศาสตร์ในเมืองตักสิลา เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วก็กลับบ้าน ได้แต่งงานมีบุตร ครั้นบิดามารดาสิ้นชีวิตก็ปลงศพและทำบุญบริจาคทานอุทิศส่วนกุศลให้ตามประเพณี
ต่อมาพราหมณ์โพธิสัตว์เกิดความเบื่อหน่ายในกิเลสกามจึงบริจาคทานแล้วเข้าไปบวชเป็นดาบสอยู่ในป่าหิมพานต์ บำเพ็ญฌานจนได้อภิญญาและสมาบัติ วันหนึ่งดาบสโพธิสัตว์ใคร่ฉันอาหารที่มีรสเปรี้ยวเค็ม และคิดว่าถ้าให้ชนทั้งหลายมีโอกาสถวายอาหาร พวกเขาก็จะได้บุญ ตายไปจะได้ไปเกิดสุคติภูมิ ดาบสโพธิสัตว์เที่ยวจาริกมาจนถึงเมืองพาราณสี เข้าไปพักอยู่ ณ โคนต้นไม้ในอุทยาน รุ่งขึ้นก็ออกภิกขาจารเรื่อยมาจนถึงประตูวัง พระเจ้าพรหมทัตทอดพระเนตรเห็นดาบสมีอิริยาบถอันงามก็เลื่อมใส จึงให้อำมาตย์ไปนิมนต์เข้ามาในวัง ถวายภัตตาหาร แล้วตรัสถามอัตถปริศนา พระดาบสก็วิสัชนาจนทรงสิ้นสงสัย พระเจ้าพรหมทัตเกิดความปีติโสมนัส จึงนิมนต์ให้ดาบสโพธิสัตว์พักอยู่ในอุทยานเพื่อจะได้ทรงบำเพ็ญกุศล มีรับสั่งให้นายอุทยานคอยดูแลปรนนิบัติ
พระดาบสพักอยู่ในอุทยานได้ถึง 12 พรรษา เมื่อปัจจันตประเทศเกิดจลาจล โจรผู้ร้ายกำเริบ พระเจ้าพรหมทัตจะเสด็จไปปราบ จึงตรัสสั่งให้พระราชเทวีปฏิบัติพระดาบสแทนพระองค์ ฝ่ายดาบสโพธิสัตว์นั้นเมื่อพระเจ้าพรหมทัตไม่อยู่ ก็ไม่เข้าวังตามวันเวลาที่เคย ใคร่ฉันอาหารเวลาใดก็เข้าไปในวังตามใจชอบ
วันหนึ่งพระราชเทวียังไม่เห็นดาบสโพธิสัตว์มาฉันภัตตาหาร จึงสรงน้ำด้วยเครื่องหอม และประดับกายด้วยเครื่องทรงอลังการ ให้นางพนักงานคอยดูหนทางที่พระดาบสจะมา ฝ่ายดาบสโพธิสัตว์เมื่อต้องการภัตตาหารก็เหาะมา ครั้นพระราชเทวีได้ยินเสียงผ้าเปลือกไม้ก็ตกพระทัย รีบลุกขึ้น พระภูษาเนื้อเกลี้ยงที่นุ่งไว้เพียงหย่อน ๆ ก็หลุดลุ่ย ดาบสโพธิสัตว์มองผ่านพระแกลเข้าไปเห็นก็เกิดกิเลสอันควบคุมมิได้
ครั้นรับภัตตาหารแล้วก็รีบกลับอุทยานทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้จะนั่งฉันในวังให้เรียบร้อยก่อนกลับ เมื่อไปถึงบรรณศาลาก็วางภัตตาหารไว้ใต้เตียง นอนรำพึงถึงสรีระอันงามของพระราชเทวี ไม่เป็นอันฉันอาหาร จนอาหารขึ้นราบูดเน่า แมลงวันไต่ตอม ครั้นพระเจ้าพรหมทัตทรงปราบจลาจลในปัจจันตชนบทเรียบร้อยแล้วก็เสด็จกลับในวันที่ 7 ก่อนจะเข้าวังได้เสด็จไปเยี่ยมดาบสโพธิสัตว์ที่อุทยานก่อน เห็นบรรณศาลาเต็มไปด้วยหยากเยื่อก็คิดว่าพระดาบสคงจากไปแล้ว แต่เมื่อเข้าไปเห็นพระดาบสนอนนิ่งอยู่ก็คิดว่าป่วย มีรับสั่งให้ราชบุรุษทำความสะอาดบรรณศาลาและนำภัตตาหารที่บูดเน่าไปทิ้ง แล้วตรัสถามอาการป่วยของดาบสโพธิสัตว์ พระดาบสทูลว่าตนถูกศรยิง พระเจ้าพรหมทัตคิดว่าพระดาบสอาจถูกศัตรูของพระองค์มาประทุษร้ายพระดาบสเพราะทำอะไรพระองค์ไม่ได้ ทรงพลิกร่างพระดาบสดูบาดแผลก็ไม่พบ
ดาบสโพธิสัตว์จึงลุกขึ้นนั่งทูลว่าตนเป็นผู้ยิงลูกศรเข้าสู่หัวใจตนเองจนเป็นบาดแผลที่ใคร ๆ ก็ไม่อาจเห็นได้ เพราะลูกศรนี้คือกามกิเลสซึ่งทำให้ร่างกายรุ่มร้อนดังถูกเพลิงเผา ครั้นแล้วดาบสโพธิสัตว์ก็ทูลให้พระเจ้าพรหมทัตเสด็จออกไปประทับอยู่นอกบรรณศาลา ส่วนตนนั่งเจริญกสิณบริกรรมภาวนาทำฌานสมาบัติให้เกิดขึ้น แล้วจึงออกจากบรรณศาลาเหาะขึ้นไปบนอากาศแสดงทศพิธราชธรรมถวาย แล้วทูลลากลับไปป่าหิมพานต์ เจริญฌานอยู่ ณ ที่นั้น เมื่อสิ้นชีวิตก็ได้ไปเกิดในพรหมโลกด้วยอำนาจแห่งรูปาพจรฌาน
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory