TLD-003-1621
ติวอ๋อง, พระเจ้า (ชื่อตัวละคร)
พระเจ้าติวอ๋องเป็นตัวละครในเรื่องห้องสิน พระนามเดิม ลิ้วอ๋อง* เป็นพระราชบุตรที่สามของพระเจ้าตีอิด*
วันหนึ่งพระเจ้าตีอิดและพระราชบุตรทั้งสามกับขุนนางไปชมดอกโบตั๋น ณ สวนงือหึง* ขื่อตำหนักสวนหักลงมาลิ้วอ๋องเอามือรับขื่อตำหนักเอาไว้ ขุนนางทั้งปวงจึงทูลขอให้ตั้งลิ้วอ๋องเป็นอุปราช เมื่อพระเจ้าตีอิดใกล้จะสิ้นพระชนม์ได้มอบราชสมบัติให้ลิ้วอ๋อง แล้วให้บุนไทสือ*กับอึ้งปวยฮอ*เสนาบดีผู้ใหญ่เป็นผู้จัดแจงการบ้านงานเมือง
เมื่อพระเจ้าตีอิดสิ้นพระชนม์แล้วลิ้วอ๋องขึ้นครองราชย์มีพระนามว่าพระเจ้าติวอ๋อง ต่อมาขุนนางได้ทูลพระเจ้าติวอ๋องให้ไปคำนับเทพธิดาหนึงวาสี* พระเจ้าติวอ๋องเห็นชอบด้วยจึงเดินทางไปคำนับตามธรรมเนียม ครั้นได้ทอดพระเนตรเห็นรูปเทพธิดาหนึงวาสีที่ทำไว้งดงาม จึงคิดว่าตนมีมเหสีนางกำนัลจำนวนมากแต่ก็ไม่งามเหมือนกับรูปเทพธิดาหนึงวาสี พระเจ้าติวอ๋องจึงเขียนโคลงชมรูปเทพธิดาหนึงวาสีว่ามีความงดงาม หากเป็นสตรีมีรูปงามเช่นนี้จะรับไปเป็นมเหสีครองเมือง เชียงหยง*ขุนนางผู้ใหญ่เห็นเข้าจึงทูลว่าไม่เหมาะสมขอให้ลบโคลงนั้น พระเจ้าติวอ๋องไม่ยอมลบแล้วก็เสด็จกลับวัง
เมื่อเทพธิดาหนึงวาสีกลับลงมาจากการไปเฝ้าฮกฮี*และยาติฮินหวน*ซึ่งเป็นเทพยดาผู้ใหญ่สามองค์บนสวรรค์ ได้เห็นโคลงของพระเจ้าติวอ๋องก็โกรธว่าพระเจ้าติวอ๋องดูหมิ่น จึงขี่หงส์เพ๊กเฮีย*มาที่เมืองจิวโก๋* พิจารณาแล้วเห็นว่าพระเจ้าติวอ๋องยังจะครองราชย์สมบัติได้อีก 28 ปีจึงจะสิ้นบุญ เทพธิดาหนึงวาสีกลับมาแล้วเรียกปีศาจทั้งหลายมาเฝ้า เทพธิดาหนึงวาสีให้ปีศาจเฮาหลี* (เสือปลา) ฮิบี๋* (ไก่) และปีแป* (พิณ) ไปช่วยทำเล่ห์กลอุบายให้พระเจ้าติวอ๋องหลงอยู่ด้วยกามคุณและจงทำให้เสียเมืองให้ได้ แต่อย่าให้ราษฎรเป็นอันตราย
หลังจากพระเจ้าติวอ๋องกลับมาจากศาลเทพธิดาหนึงวาสีแล้วก็คิดถึงรูปเทพธิดาหนึงวาสีจนไม่สนใจราชกิจ ฮิวฮุนฮุยต๋ง*จึงเสนอให้คัดเลือกหญิงงามเข้าวังแต่เชียงหยงทัดทานไว้ ต่อมาฮิวฮุนฮุยต๋งยุยงพระเจ้าติวอ๋องให้ขอนางขันกี*บุตรีของเชาฮู*แต่เชาฮูไม่ยอม พระเจ้าติวอ๋องจึงให้ซ่องเฮ่าเฮ้า*กับกีเซียง*ไปปราบเชาฮู
ต่อมากีเซียงมีจดหมายไปเกลี้ยกล่อมเชาฮูให้ยอมถวายนางขันกี เชาฮูก็ยอมจึงพานางขันกีมาถวาย แต่ในระหว่างเดินทางนางขันกีถูกปีศาจเฮาหลีฆ่าแล้วเข้าสิงร่าง เมื่อได้เข้าเฝ้านางขันกีจึงยั่วยวนพระเจ้าติวอ๋องจนพระเจ้าติวอ๋องหลงใหลไม่ออกว่าราชการ แล้วทูลยุยงให้พระเจ้าติวอ๋องฆ่าขุนนางผู้ใหญ่หลายคน เช่น โต้ไทสือ* ป่วยเป๊ก* ให้ทำที่ลงโทษด้วยเสาทองแดงเผาไฟเรียกว่าเผาหลก ปลูกพระที่นั่งลกไต๋ แล้วให้พระเจ้าติวอ๋องลงโทษนางเกียงฮองเฮา* เมื่อเกียงฮองเฮาตายพระเจ้าติวอ๋องจึงตั้งนางขันกีเป็นมเหสีแทน
ต่อมาพระเจ้าติวอ๋องให้ประหารงกจงฮู* และเกียงฮวนฌ้อ* ทั้งยังจำขังกีเซียงไว้ไม่ให้กลับเมือง เมื่อกองจูเป๊กอิบโค้*บุตรของกีเซียงนำของมีค่ามาถวายพระเจ้าติวอ๋องเพื่อช่วยกีเซียงผู้เป็นบิดาให้พ้นผิด นางขันกีได้ทำอุบายให้พระเจ้าติวอ๋องฆ่ากองจูเป๊กอิบโค้ แล้วเชือดเอาเนื้อมาทำไส้ขนมเปียไปให้กีเซียงกิน กีเซียงรู้ว่าเป็นเนื้อบุตรแต่ต้องยอมกิน
เมื่อพระเจ้าติวอ๋องหลงใหลอยู่ด้วยการเสพสุราและหลงนางขันกี กับนางฮีบี บ้านเมืองจึงเกิดจลาจล เกียงจูแหยจึงคิดกับบุนอ๋องจะไปปราบซ่องเฮ่าเฮ้า เมื่อบุนอ๋องตายเกียงจูแหยจึงตั้งกีฮวด*เป็นบูอ๋อง เมื่อขุนนางนำความมาทูลพระเจ้าติวอ๋อง พระเจ้าติวอ๋องคิดว่ากีฮวดสู้บุญพระองค์ไม่ได้ แม้ขุนนางจะทูลว่ากีฮวดมีเกียงจูแหยเป็นผู้มีสติปัญญา และมีนายทหารฝีมือดี แต่พระเจ้าติวอ๋องก็มิได้สนพระทัย ต่อมาพระเจ้าติวอ๋องพยายามลวนลามนางกาสี*ภรรยาของบูเสงอ๋อง* นางกาสีจึงฆ่าตัวตาย เมื่อนางอึ้งกุยหุย*น้องบูเสงอ๋องมาต่อว่านางขันกี แล้วเข้าตบตีนางขันกี พระเจ้าติวอ๋องก็ถีบนางอึ้งกุยหุยตกจากพระที่นั่งเตียะแซเหลาถึงแก่ความตาย
เมื่อพระเจ้าติวอ๋องรู้ว่าบูอ๋องกบฏจึงให้บุนไทสือ*ไปปราบจนบุนไทสือเสียชีวิตในแดนเมืองไซรกี* พระเจ้าติวอ๋องจึงให้นายทหารคนอื่นไปรบแต่ก็พ่ายแพ้ เกียงจูแหยกับบูอ๋อง*จึงนำทัพมาตีเมืองไซรกี เกียงจูแหยสามารถฆ่านางขันกี นางฮีบี และนางอึ้งกุยหยินได้ แล้วตัดศีรษะเสียบประจานไว้หน้าค่าย พระเจ้าติวอ๋องรู้เรื่องก็ตกพระทัยสิ้นสติและกันแสง คิดแค้นเกียงจูแหยจนอาเจียนเป็นโลหิต พระเจ้าติวอ๋องเสด็จไปทอดพระเนตรสถานที่ฆ่าพระมเหสี เสาทองแดง และสระใหญ่ใส่อสรพิษ เหล่าปีศาจที่ตายก็มาปรากฏกายให้เห็นแล้วทวงชีวิตพระเจ้าติวอ๋อง พระเจ้าติวอ๋องกลัวจึงเสด็จขึ้นไปบนพระที่นั่งเตียะแซเหลา ครั้นเกียงจูแหยเชิญเสด็จพระเจ้าจิวบูอ๋องพาทหารบุกเข้าพระราชวัง พระเจ้าติวอ๋องทอดพระเนตรเห็นพระราชวังก็ทรงอาลัยยิ่งนัก สั่งให้นำฟืนมาใส่ใต้พระที่นั่งแล้วสั่งให้จุดเพลิง เพลิงลุกติดพระที่นั่งเตียะแซเหลา พระเจ้าติวอ๋องสิ้นพระชนม์ในกองเพลิง ดวงวิญญาณก็ลอยไปสู่ฮ่องสินไต้
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory