TLD-003-1931
เทวันธกุมาร (ชื่อตัวละคร)
เทวันธชาดก ปัญญาสชาดก
เทวันธกุมารเป็นตัวละครในเรื่องเทวันธชาดกในปัญญาสชาดก เป็นพระโพธิสัตว์ เป็นโอรสพระเจ้ากาสิกราช*กับนางวิมลาเทวี*แห่งเมืองพาราณสี
เมื่อเทวันธกุมารประสูติมีเมฆฝนมืดครึ้มไปทุกทิศจึงได้รับการขนานนามว่าเทวันธ เทวันธกุมารกอปรด้วยมงคลลักษณะทั้งปวง มีความเมตตากรุณาแก่ทุกคน อีกทั้งยังเป็นผู้รู้ธรรมอย่างแจ่มแจ้งจึงเป็นที่รักและศรัทธาของชนทั่วไป เทวันธกุมารรู้ข่าวจากม้าทรงของพระเจ้ากาสิกราชว่าพระเจ้ากาสิกราชถูกนันทยักษ์*จับกินแล้วนันทยักษ์ได้แปลงเป็นพระองค์
ในเวลานั้นเทวันธกุมารยังไม่มีความสามารถที่จะต่อสู้กับนันทยักษ์ได้จึงต้องอาศัยม้าช่วยคิดแผนการหนีจากนันทยักษ์ เทวันธกุมารมีม้าเป็นเพื่อนคู่คิดนับแต่นั้นมา แม้ม้าจะถูกนันทยักษ์ฆ่าตายแต่ด้วยบุญญาธิการของเทวันธกุมาร ทำให้พระอินทร์ใช้ฤทธิ์นำหัวราชสีห์มาต่อหัวให้ม้าคืนชีพกลับมาใหม่เพื่อให้เทวันธกุมารมีผู้ช่วยในการเดินทางต่อไปอย่างปลอดภัยจากภยันตราย พระอินทร์จึงให้เทวันธกุมารขอพรได้ 4 ประการ เทวันธกุมารขออย่าให้ศัตรูทำอันตรายได้ ขอให้มีกำลังปราศจากโรคและไม่ตายก่อนสิ้นอายุ ขอให้มีชัยเหนือนันทยักษ์และได้ครองราชสมบัติของพระบิดา และขอให้สัตว์ที่ตายแล้วฟื้นคืนชีพเพียงตนได้รดน้ำลงไป พรทั้ง 4 ประการที่ได้จากพระอินทร์ทำให้เทวันธกุมารทำการต่างๆ ประสบความสำเร็จเสมอ
เมื่อครั้งที่จันทนเทวี*ลักลอบได้เสียกับอภัยราชกุมาร*แล้วเกรงอาญาจากเทวันธกุมาร จึงร่วมกันคิดกำจัดเทวันธกุมารด้วยการออกอุบายว่าจันทนเทวีอยากดื่มน้ำอ้อยและน้ำผึ้ง รวมทั้งอยากได้ดอกบัว โดยให้เทวันธกุมารไปตัดอ้อยต้นเท่าต้นหมากที่มีฝูงลิงใหญ่ดูแล ให้ไปนำน้ำผึ้งหลวงที่มีฝูงหมีดุร้ายรักษาและให้ไปนำดอกบัวจากสระน้ำที่มีกุมภัณฑ์ 4 ตนเฝ้าในป่าหิมพานต์ เทวันธกุมารหลงเชื่อกลอุบายจึงทำตามที่จันทนเทวีขอร้องแต่ด้วยเทวันธกุมารมีม้า พรพระอินทร์ และมีความรอบรู้ในธรรมจึงรอดพ้นอันตรายมาได้ เมื่อฝูงลิงใหญ่และฝูงหมีจะเข้ามาทำร้าย ม้าหัวราชสีห์ได้แผดสีหนาทจนทั้งหมดตกใจกลัวสลบไป เทวันธกุมารนำน้ำมารดให้ฟื้นขึ้นมา ฝูงลิงใหญ่และฝูงหมีที่ดุร้ายจึงยอมเป็นทาสของเทวันธกุมาร
ส่วนกุมภัณฑ์ถามเทวันธกุมารถึงความหมายของธรรมและอธรรม เทวันธกุมารได้อธิบายอย่างลึกซึ้งว่าธรรมหมายถึง กายสุจริต วจีสุจริต และมโนสุจริต ส่วนอธรรมหมายถึง กายทุจริต วจีทุจริต และมโนทุจริต กุมภัณฑ์ทั้ง 4 ตนซาบซึ้งในธรรมของเทวันธกุมารจึงยอมเป็นทาส
เมื่อจันทนเทวีและอภัยราชกุมารเห็นเทวันธกุมารรอดพ้นอันตรายได้ทั้ง 3 ครั้ง จึงวางอุบายทำแพยนต์ที่มีหลาวซ่อนอยู่แล้วลวงให้เทวันธกุมารนั่งบนแพนั้นอาบน้ำ เมื่ออภัยราชกุมารกระตุกเชือก แพก็คว่ำลงแต่เทวดารักษาปราสาทผลักหลาวให้ล้มไปและเมื่อเทวันธกุมารรู้ว่าเป็นแผนการของอภัยราชกุมาร จึงสั่งสอนให้กลับตัว อภัยราชกุมารซาบซึ้งในความกรุณาของเทวันธกุมารมากที่ให้อภัยตนทั้งๆ ที่ทำผิดร้ายแรง
เมื่อเทวันธกุมารมีบริวารทั้งลิง หมีและกุมภัณฑ์จึงคิดกลับไปจัดการกับนันทยักษ์ที่แปลงเป็นพระเจ้ากาสิกราช ในที่สุดกุมภัณฑ์ 4 ตนสามารถฆ่านันทยักษ์ได้สำเร็จ เมืองพาราณสีจึงกลับมาสงบสุขโดยมีเทวันธกุมารเป็นพระราชา บรรดาอำมาตย์ปุโรหิตทั้งหลายเห็นว่าพระเจ้าเทวันธกุมารสมควรจะอภิเษกมเหสีจึงส่งสารให้พระยาร้อยเอ็ดเมืองส่งธิดามาให้เลือกเป็นคู่แต่พระเจ้าเทวันธกุมารไม่พอใจนางใดและประสงค์ที่จะแสวงหาคู่ด้วยตนเองจึงได้ออกจากเมืองพาราณสีพร้อมกับม้าหัวราชสีห์ จนได้พบอสังเขยย*ดาบสที่แนะนำให้ไปเมืองโกสัยรัฐ* เพราะธิดาของพระเจ้ายสบดี*นามว่าสุวรรณเกสรา*มีความงามพร้อมเหมาะสมกับพระเจ้าเทวันธกุมารแต่หนทางที่จะไปมีอุปสรรคต่างๆ ต้องข้ามภูเขาสูง ต้องเผชิญกับนางยักษ์ที่มีกลมารยาล่อลวงคนให้หลงเชื่อเพื่อจับกินและแม่น้ำใหญ่ที่มีปลาโลมาคอยกัดกินผู้ที่ข้ามน้ำนั้น อสังเขยยดาบสจึงได้สอนมณีจินดามนตร์*ให้พระเจ้าเทวันธกุมารเพื่อใช้ป้องกันอันตรายจากสัตว์ร้ายทั้งหลาย
พระเจ้าเทวันธกุมารพร้อมกับม้าคู่ใจเดินทางผ่านอุปสรรคต่างๆ ตามคำบอกของอสังเขยยดาบส โดยมีเทวดาช่วยอนุเคราะห์และการใช้มณีจินดามนตร์จนถึงเมืองโกสัยรัฐได้อาศัยอยู่กับยายเฒ่าผู้เฝ้าอุทยาน พระเจ้าเทวันธกุมารร้อยกรองดอกไม้ให้ยายเฒ่านำไปถวายนางสุวรรณเกสราเพื่อให้นางสนใจถามหาตัวผู้ทำ ซึ่งผลเป็นดังความตั้งใจเพราะนางสุวรรณเกสราไต่ถามยายเฒ่าจนรู้ว่าผู้ร้อยดอกไม้ชื่อเทวันธกุมาร นางสุวรรณเกสราจึงออกไปดูตัวพระเจ้าเทวันธกุมาร พระเจ้าเทวันธกุมารเห็นนางสุวรรณเกสราก็พอใจรูปโฉมของนางและเมื่อทดสอบสติปัญญาของนางด้วยการทำปริศนาต่างๆ นางสามารถโต้ตอบได้อย่างเท่าทัน พระเจ้าเทวันธกุมารจึงพานางสุวรรณเกสราออกจากเมืองกลางดึก โดยให้นางทิ้งสารทูลพระบิดามารดาว่าอีก 7 ปีจะกลับมา
เมื่อพระเจ้าเทวันธกุมารพานางสุวรรณเกสรานั่งม้าเหาะกลับเมืองพาราณสี ได้ให้นางพักอยู่ที่นอกเมืองเพราะตั้งใจจะจัดขบวนมารับให้สมเกียรติแต่นางยักษ์ตนหนึ่งปรารถนาที่จะมีสามีจึงทำร้ายนางสุวรรณเกสราและแปลงตัวเป็นสุวรรณเกสราแทน เมื่อพระเจ้าเทวันธกุมารมารับนางสุวรรณเกสราแปลงเข้าเมืองก็สงสัยกิริยาท่าทางที่แปลกไปและสังเกตเห็นว่านางเป็นยักษ์แปลงมาจึงยังไม่จัดการราชาภิเษกแต่ให้อำมาตย์สร้างศาลาแสดงธรรมขึ้นหลังหนึ่งแล้วประกาศหาผู้แสดงธรรม หากผู้ใดแสดงธรรมได้จะมอบทรัพย์ให้
นางสุวรรณเกสราซึ่งอาศัยอยู่กับตายายนอกเมืองได้ยินคำประกาศของราชบุรุษก็รู้ว่าเป็นอุบายที่พระเจ้าเทวันธกุมารสืบหานางจึงให้ตายายไปแจ้งราชบุรุษว่าตนแสดงธรรมได้ เมื่อนางสุวรรณเกสราแสดงธรรมเสร็จสิ้นแล้ว พระเจ้าเทวันธกุมารรู้สึกคุ้นเสียงจึงเข้าไปที่หลังม่านและได้พบนาง พระเจ้าเทวันธกุมารสั่งให้กุมภัณฑ์ทั้งสี่จัดการลงโทษนางยักษ์ที่แปลงเป็นนางสุวรรณเกสรา และมอบให้เป็นภรรยาของกุมภัณฑ์ทั้งสี่ เมื่อครบ 7 ปีพระเจ้าเทวันธกุมารพานางสุวรรณเกสรากลับเมืองโกสัยรัฐเพื่อขอขมาพระเจ้ายสบดี พระเจ้ายสบดีพอใจจึงอภัยให้และอภิเษกให้ทั้งสองครองเมืองโกสัยรัฐ พระเจ้าเทวันธกุมารจึงให้อำมาตย์ที่ตามมากลับไปแจ้งแก่อภัยราชกุมารกับจันทนเทวีว่าให้ขึ้นครองเมืองพาราณสีแทน พระเจ้าเทวันธกุมารครองเมืองโกสัยรัฐด้วยทศพิธราชธรรม มีเดชานุภาพแผ่ไพศาล มีโอรส 2 องค์คือ สาครกุมาร*และสหัสสระกุมาร* และธิดา 1 องค์คือ สุวรรณประภา*
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory