ท้าวกุเรปันเป็นตัวละครในบทละครเรื่องดาหลัง เป็นกษัตริย์ครองกรุงกุเรปัน* เป็นเชษฐาองค์ใหญ่ของวงศ์เทวา มีอนุชาอีก 3 องค์ คือ ท้าวดาหา* ท้าวกาหลัง* และท้าวสิงหัดส่าหรี* ท้าวกุเรปันมีโอรส 2 องค์ คือ ระเด่นมนตรี* หรืออิเหนา* ซึ่งเกิดจากประไหมสุหรี และระเด่นจะหรังกะหนังโหละ*โอรสของมะเดหวี ท้าวกุเรปันจัดการหมั้นธิดาของท้าวดาหาให้แก่โอรส โดยหมั้นนางบุษบาก้าโละ*ให้แก่ระเด่นมนตรี และหมั้นนางบุษบาวิลิส*ให้แก่จะหรังกะหนังโหละ
ระเด่นมนตรีไปประพาสป่าได้พบหญิงสาวชาวไร่ชื่อเกนบุษบาส่าหรี*ซึ่งสวยงามมาก ระเด่นมนตรีขอนางจากมารดา แล้วสร้างพลับพลาไว้ประทับร่วมกับนางในป่า เช้าขึ้นก็มาเฝ้าพระบิดา ค่ำลงก็กลับไปพลับพลาทุกวัน ท้าวกุเรปันส่งสารถึงอนุชาคือท้าวดาหาเพื่อนัดหมายการวิวาห์ของระเด่นมนตรีและบุษบาก้าโละ พร้อมทั้งสั่งให้ระเด่นมนตรีเตรียมการไปกรุงดาหา* ระเด่นมนตรีไม่กล้าทูลเรื่องนางเกนบุษบาส่าหรี แต่ก็ไม่เตรียมการตามรับสั่ง เมื่อท้าวกุเรปันถามก็ทูลว่าลืม งานวิวาห์ต้องเลื่อนไปถึง 3 ครั้ง ท้าวกุเรปันสงสัยสาเหตุที่ระเด่นมนตรีขัดพระบัญชาถึง 3 ครั้ง จึงซักถามเสนาผู้ใหญ่ เมื่อรู้ความจริงเรื่องนางเกนบุษบาส่าหรีก็กริ้วมาก เพราะเห็นว่านางเป็นคนชั้นต่ำไม่คู่ควรกับโอรสของพระองค์ ท้าวกุเรปันจึงสั่งให้ตำมะหงงเสนาผู้ใหญ่ไปฆ่านาง โดยทำอุบายให้ระเด่นมนตรีไปล่าเนื้อ
ครั้นระเด่นมนตรีรู้ว่าพระบิดาเป็นผู้สั่งประหารนางเกนบุษบาส่าหรีก็เศร้าโศกเสียใจและโกรธแค้นมาก ไม่ยอมกลับกรุงกุเรปัน พาไพร่พลของตนหนีไปโดยปลอมตนเป็นโจรป่าชื่อว่าปันหยี* อนุชาจะหรังกะหนังโหละอาสาออกไปตามก็ไม่พบ เนื่องจากไปตามในป่าแต่ระเด่นมนตรีหนีไปทางน้ำ เมื่อกลับมาทูลพระบิดา ท้าวกุเรปันคิดได้ว่าตนทำผิดไปเสียแล้ว จึงปรารภกับจะหรังกะหนังโหละว่า “พ่อนี้เบาใจไม่ทันคิด พ่อผิดเองแล้วเป็นข้อใหญ่”
ท้าวกุเรปันส่งสารถึงท้าวดาหาแจ้งเรื่องที่อิเหนาหนีไป และขอเลื่อนการวิวาห์ออกไปก่อน แต่ท้าวดาหากริ้วมาก ท้าวกุเรปันส่งสารถึงท้าวกาหลังและท้าวสิงหัดส่าหรี เล่ารายละเอียดทั้งหมด อนุชาทั้งสองเห็นพ้องกันว่าท้าวกุเรปันผิดเพราะความวู่วาม
ท้าวกุเรปันได้ทราบข่าวอิเหนาอีกครั้งเมื่ออิเหนาหลงกลระตูมะงาดา* ถูกหลอกให้ลงเรือไปถอนหลักศิลา*ที่เมืองบาณุหลัน* เมื่อถอนสำเร็จแล้วขณะเดินทางกลับในตอนกลางคืน ระตูมะงาดาให้ทหารมาถอดสลักในเรือ เรือจึงจมอิเหนาพลัดกับไพร่พลไม่มีใครรู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ท้าวกุเรปันจึงสั่งให้จะหรังกะหนังโหละยกทัพไปตีเมืองมะงาดา* พร้อมทั้งส่งสารไปถึงท้าวสิงหัดส่าหรีให้ส่งโอรสคือจินตระวันหนา*ให้ยกทัพมาช่วย
ในตอนท้ายของเรื่องดาหลัง อิเหนา จะหรังกะหนังโหละ บุษบาก้าโละ และจินตระวันหนาอยู่ที่เมืองกาหลัง* พี่น้องเหล่านี้จึงส่งสารถึงพระบิดาของตนให้ไปพบกันที่เมืองกาหลัง