กุสนาฬีเป็นตัวละครในเรื่องกุสนาฬีชาดก เอกนิบาต ในนิบาตชาดก เป็นพระโพธิสัตว์ เป็นเทวดาประจำกอหญ้า
ในแผ่นดินพระเจ้าพรหมทัต*แห่งเมืองพาราณสี พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นเทวดาสถิตอยู่ที่กอหญ้าคาในอุทยาน ในอุทยานนั้นมีไม้มงคลต้นหนึ่งชื่อต้นสมุขกพฤกษ์เป็นต้นไม้ที่ใหญ่กว่าต้นไม้ทั้งหลาย เป็นที่เคารพสักการะของพระราชา ต้นไม้นี้มีรุกขเทวดาประจำอยู่ รุกขเทวดาองค์นี้เป็นมิตรสนิทของเทวดาโพธิสัตว์ที่ประจำอยู่ที่กอหญ้า
วันหนึ่งพระเจ้าพรหมทัตประทับอยู่ที่ปราสาทเสาเดียว ปราสาทนั้นเกิดสั่นไหวไม่มั่นคง พระองค์จึงสั่งให้ช่างไม้หาเสาไม้มาเปลี่ยน ช่างไม้เหล่านั้นไม่สามารถหาไม้ที่มีแก่นแน่นหนามั่นคงได้ นอกจากไม้สมุขกพฤกษ์ในอุทยาน แต่ก็ไม่กล้าตัดเพราะเป็นไม้มงคลที่พระราชาทรงเคารพนับถือ พระเจ้าพรหมทัตอนุญาตให้ตัดไม้นั้นมาทำเสาปราสาทได้ และจะหาไม้ต้นอื่นมาเป็นไม้มงคลแทน
รุกขเทวดารู้ว่าวิมานของตนจะถูกโค่นก็อุ้มบุตรทั้งหลายซึ่งยังเป็นทารกออกหาต้นไม้ที่อาศัยใหม่ก็หาไม่ได้ จึงกอดบุตรร้องไห้คร่ำครวญอยู่ กุสนาฬีเทวดาได้รู้เหตุนั้นจึงปลอบรุกขเทวดาว่าตนจะหาทางช่วย รุ่งขึ้นกุสนาฬีเทวดาแปลงเป็นกิ้งก่าวิ่งนำนายช่างไม้ไปที่โคนไม้มงคล แอบไต่ขึ้นไปกลางค่าคบ แล้วโผล่หน้าออกมาให้เห็นเหมือนกับว่าต้นไม้นั้นมีโพรง แล้วก็คลานขึ้นไปเกาะอยู่ที่ยอดไม้ ส่ายหัวไปมา นายช่างไม้ลองเอามือเคาะต้นไม้นั้นดู ก็รู้สึกว่าเป็นโพรงจึงกลับไป รุกขเทวดาแห่งสมุขกพฤกษ์จึงกล่าวสรรเสริญกุสนาฬีเทวดาว่าขึ้นชื่อว่ามิตรแม้จะเสมอกันหรือด้อยกว่า ผู้มีปัญญาก็ควรคบหาเพราะมิตรอาจจะช่วยให้พ้นทุกข์ได้ เหมือนตนมีมิตรเป็นกุสนาฬีเทวดาผู้มีศักดิ์น้อยนั้น