TLD-003-2105
นายแห้ว (ชื่อตัวละคร)
นายแห้วเป็นตัวละครในบทละครเรื่องวงศเทวราช (ฉบับบทพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) เป็นวานรรับใช้ใกล้ชิดสังขปัด*วานรขุนทหารของวงศเทวราช*เจ้าเมืองสมุทคีรี*
เมื่อพระเจ้าโยเสฟ*เจ้าเมืองกรอบซเกต*กับกวินไวต์*มเหสีเสด็จไปร่วมพิธีอภิเษกสยุมพรของวงศเทวราช สังขปัดหลงรักกวินไวต์จึงได้เขียนสารฝากรักส่งไปให้แต่ยังไม่สมปรารถนา ก็หวนคิดถึงนางเวฬู*มเหสีของท้าวสุวิทธิไชย*เจ้าเมืองสุบรรณบรรพต*ที่เดินทางมาร่วมงานก่อนหน้านี้ จึงเขียนสารรักไม่ลงชื่อผู้เขียนให้นายแห้วนำไปใส่ตู้ไปรษณีย์ส่งไปวังที่ท้าวสุวิทธิไชยประทับอยู่
รุ่งขึ้นนายแห้วไปเดินกรายแถวหน้าวังเพื่อสืบข่าว เห็นตุหวันประสา*เสนาผู้ใหญ่ก็ทำทีเข้าไปชวนพูดคุยและไต่ถามถึงทุกข์สุขของท้าวสุวิทธิไชย ตุหวันประสาสงสัยจึงแสร้งบอกว่าตนได้รับจดหมายจากบุรุษไปรษณีย์แล้วและนำไปส่งให้นางเวฬูตามที่สลักชื่อนางเป็นผู้รับ นางสั่งให้ปิดเป็นความลับ แล้วสั่งให้ตนสืบหาผู้เขียนจดหมายโดยจะให้รางวัลอย่างงาม นายแห้วได้ฟังดังนั้นก็ดีใจคิดว่าเป็นโอกาสที่ตนจะทำความดีความชอบให้สังขปัด จึงบอกว่าขณะนี้สังขปัดเศร้าโศกคิดถึงนางเวฬูมาก ขอให้ตุหวันประสาช่วยให้นายตนสมหวัง แล้วสังขปัดจะให้ทุกอย่างตามที่ต้องการ ตุหวันประสารับคำ นัดให้นายแห้วมาฟังข่าวตอนเย็น
ถึงตอนบ่ายนายแห้วไปตามนัด ตุหวันประสานำสารนัดพบของนางเวฬูมาให้ นายแห้วรีบกลับไปหาสังขปัด สังขปัดวางแผนจะไปพบนางตอนค่ำแต่ก็ถูกนางเวฬูซ้อนกลเทน้ำหมากและสิ่งโสโครกจนเลอะเทอะเปรอะเปื้อนขนกลายเป็นสีแดงทั้งตัว สังขปัดเหาะไปล้างขัดถูในแม่น้ำแล้วเหาะกลับพลับพลา ชวนนายแห้วและนางหนูวอก*มาที่ท่าน้ำ นายแห้วเห็นต้นมะยม เคยรู้มาว่าใช้ล้างน้ำหมากได้ นายแห้วและนางหนูวอกจึงช่วยกันเก็บมะยมมาเคี้ยวพ่นกายสังขปัด แล้วขัดถูให้สีแดงหมดไป แต่เมื่อเช็ดขนแห้ง ขนสีแดงกลับกลายเป็นสีเหลือง
เมื่อสังขปัดเมาสุราอาละวาดในคืนงานสโมสรสันนิบาตเลี้ยงฉลองและในคืนงานบอลลีลาศหลังจากพิธีอภิเษกสยุมพร สังขปัดถูกจับมัดส่งกลับพลับพลาถึง 2 ครั้ง นายแห้วและนางหนูวอกก็เฝ้าปรนนิบัติพยาบาลด้วยความภักดีดังคำประพันธ์ที่ว่า
นางวอกเข้าไปช่วยเลียหัตถ์ นายแห้วจับหมัดแล้วขบให้
หยอดน้ำหยอดเข้ากันไป ตั้งใจรักษาพยาบาล
เมื่อสังขปัดฟื้นขึ้นก็คิดเผาเมืองสมุทคีรีเพื่อลักพากวินไวต์ไปอยู่ด้วย จึงสั่งให้นายแห้วและนางหนูวอกนำน้ำมันยางมาชโลมกายของตนแล้วเอานุ่นมาติดให้ทั่วตัว ส่วนหางให้พันด้วยผ้าขี้ริ้วรัดให้แน่นแล้วชโลมน้ำมันให้ชุ่มโชก เสร็จแล้วสังขปัดก็เหาะไปจุดไฟที่ปลายหางลุกทั่วกายกระโดดไปเผาปราสาทราชวังต่าง ๆ เมื่อไฟไหม้ทั่วเมืองแล้วก็เหาะไปแช่ตัวอยู่ในแม่น้ำ แต่ไม่หายปวดแสบปวดร้อนจึงเหาะกลับพลับพลาให้ทั้งสองวานรปรนนิบัติพยาบาล
ขณะนอนป่วยอยู่ สังขปัดรู้ว่าวงศเทวราชเสด็จคืนนครก็ให้บรรดาวานรหามไปเฝ้าโดยมีนายแห้วและนายวอกตามไปพิทักษ์รักษาด้วย สังขปัดเห็นวงศเทวราชมีมเหสีมากก็ขอให้ยกให้บรรดาขุนทหาร เมื่อวงศเทวราชไม่ยอม สังขปัดก็อาละวาด ครั้นเห็นวงศเทวราชจะแผลงศรก็กลัวตาย จึงตะกายหนีขึ้นไปสิ้นกำลังสิ้นชีวิตกลางอากาศ วงศเทวราชแผลงศรเป็นเพลิงไปเผาศพสังขปัดเพราะคิดถึงความดีความชอบแต่หนหลัง
ส่วนนายแห้วและนางหนูวอกเมื่อสิ้นนายก็เศร้าโศก พากันออกจากเมืองไปอยู่ป่า นายแห้วปรึกษานางหนูวอกว่า ตนใคร่จะตอบแทนคุณนายโดยจะรับนางหนูวอกซึ่งเป็นม่ายไว้เป็นเมีย นางหนูวอกเห็นดีด้วย นายแห้วจึง “ไปตามกิ่งพฤกษาหาที่รัก ทำบุญโดยสาพิภักดิ์อยู่กลางไพร”
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory