TLD-003-2149
นีนนา (ชื่อตัวละคร)
นีนนาเป็นตัวละครในนวนิยายแปลเรื่องความพยาบาท เป็นภรรยาของ เคานต์ ฟาบิโอ โรมานี* มีบุตรสาวชื่อดาราน้อย* อาศัยอยู่ในเมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี นีนนาเป็นเด็กสาวอายุ 15 ปี งดงามมีเสน่ห์ ดังคำพรรณนาของฟาบิโอที่ได้เห็นเธอครั้งแรกว่า
หน้านั้นได้งามเปล่งประดุจดวงดาวเปล่งออกมาจากก้อนเมฆแห่งผม ... หน้านั้นที่มีแก้มอันเปล่งประดุจผลมะปราง ... งามบริบูรณ์ที่จะหาตำหนิมิได้เลย ... ดวงตาทั้งสองข้างวาวและดำประดุจมณีนิล ... หน้านั้นที่มีปากบางเล็กและยิ้มยั่วยวนใจ ! ข้าพเจ้าจ้องมองแล้วจ้องมองอีก รู้สึกเสียวตัวและใจวาบ ๆ ; อ้อ ! ความงามนี่เองทำให้มนุษย์เป็นบ้าคลั่งไปได้หมด
บิดาของนีนนาเป็นขุนนางชาวเมืองฟลอเรนซ์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในอดีต แต่ต้องสิ้นเนื้อประดาตัวเพราะเล่นการพนัน เขาได้ส่งบุตรสาวไปอยู่คอนแวนต์ตั้งแต่เด็ก
เมื่อรู้ว่าฟาบิโอมหาเศรษฐีหนุ่มพอใจเธอ จึงยินดียกนีนนาให้แต่งงานด้วย ฟาบิโอรักและลุ่มหลงนีนนามาก ทั้งสองมีบุตรสาวชื่อดาราน้อย นีนนาคุ้นเคยสนิทสนมกับกีโด*เพื่อนรักของฟาบิโอซึ่งไปมาหาสู่กันเป็นประจำ
3 ปีต่อมาในฤดูร้อนเกิดโรคอหิวาต์ระบาดในเมืองเนเปิลส์ ผู้คนล้มตายจำนวนมาก กีโดจึงมาอาศัยอยู่ที่บ้านของฟาบิโอบนเนินสูง วันหนึ่งนีนนาได้ข่าวจากบาทหลวงมาแจ้งว่าฟาบิโอสามีเป็นโรคอหิวาต์ตาย และศพถูกนำใส่โลงไปไว้ในห้องเก็บศพของตระกูลโรมานี เมื่อฟาบิโอฟื้นจากสลบก็กลับไปที่บ้านในตอนค่ำ ได้เห็นนีนนาและกีโดพลอดรักกัน ทั้งยังกล่าวเย้ยหยันดูแคลนฟาบิโอที่รู้ไม่เท่าทันว่าทั้งสองลอบมีความสัมพันธ์เป็นสามีภรรยากันหลังจากการแต่งงานยังไม่ถึง 3 เดือน กีโดกล่าวกับนีนนาตอนหนึ่งว่า
“จริงหรือไม่ในข้อนี้ หล่อนเป็นคนนำก่อน หล่อนยั่วยวนใจให้กำหนัดด้วยนัยน์ตา ด้วยถ้อยคำ จนถึงด้วยสัมผัส หล่อนได้ยินยอมทุกสิ่งทุกประการ ”
เมื่อฟาบิโอรู้แจ้งใจในทุกสิ่งทุกอย่างก็โกรธแค้นเป็นที่สุด คิดจะแก้แค้นด้วยความพยาบาทให้สาสมที่คนทั้งคู่ซึ่งเป็นที่รักและไว้วางใจได้ทรยศต่อเขา
ต่อมานีนนาได้พบกับฟาบิโอ แต่เธอจำไม่ได้ เพราะฟาบิโอมีบุคลิกท่าทางเปลี่ยนไป มีหนวดเคราและผมขาวโพลน ทั้งยังสวมแว่นตาดำ กีโดเป็นผู้นัดหมายให้นีนนาไปพบฟาบิโอในชื่อใหม่ว่า ซินญอร์ คอนเต เซซาเร โอลิวา* มหาเศรษฐีสูงอายุชาวอิตาเลียนซึ่งเพิ่งกลับมาอยู่เนเปลิส์หลังจากไปอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานาน เธอรู้เพียงว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทกับบิดาของฟาบิโอ และมีน้ำใจงามฝากเครื่องประดับเพชรพลอยไปให้เธอในฐานะภรรยาม่ายของฟาบิโอ นีนนาแสดงท่าทีพอใจฟาบิโอจนกีโดรู้สึกหึง แต่ฟาบิโอก็พูดจนกีโดไว้วางใจว่าเขาอายุมากแล้วและไม่สนใจผู้หญิง นีนนาเชิญฟาบิโอไปเยี่ยมเธอที่บ้านในวันรุ่งขึ้น นีนนาให้ดาราน้อยบุตรสาวมารู้จักกับฟาบิโอซึ่งเด็กหญิงเข้าหาฟาบิโออย่างสนิทสนมไว้วางใจ
เมื่อฟาบิโอได้พบกับเจ้าวีวิสสุนัขของเขา มันก็แสดงท่าทางคุ้นเคยจนนีนนาประหลาดใจ แต่ฟาบิโอก็พูดชี้แจงเหตุผลจนทั้งนีนนาและกีโดเชื่อ นีนนายอมให้ฟาบิโอไปเยี่ยมเยียนเธอที่บ้านได้ทุกเมื่อ ทั้งยังแสดงความสนิทสนมโดยการ “เล่นตา” และ “ตั้งต้นเกี้ยว” ฟาบิโอ ฟาบิโอสังเกตว่านีนนามิได้เอาใจใส่ดาราน้อยเท่าที่ควร เขาสังเกตเห็นความผิดปกติของดาราน้อย มีนัยน์ตาโรยแสดงอาการว่าไม่สบายเธอก็ไม่สนใจ เมื่อกีโดต้องไปกรุงโรมเพื่อรอรับมรดกจากลุงซึ่งป่วยหนัก ได้ขอให้ฟาบิโอช่วยดูแลนีนนา ทำให้ฟาบิโอและนีนนาสนิทกันยิ่งขึ้น
ต่อมาดาราน้อยป่วยหนัก ฟาบิโอไปเยี่ยมก่อนเธอสิ้นใจและได้รู้ว่าเขาเป็นบิดา ต่อมานีนนาหมั้นกับฟาบิโอ ฟาบิโอบอกว่าอีกราว 3 เดือนจึงจะแต่งงานกัน นีนนากำชับเขามิให้บอกกีโด นีนนารู้จากฟาบิโอว่ากีโดจะกลับเนเปิลส์เพราะได้รับมรดกจากลุงที่สิ้นชีวิตแล้ว แต่ฟาบิโอแนะนำว่าถ้าเธอไม่อยากรำคาญใจเมื่อกีโดรู้ว่าเธอหมั้นกับเขาแล้วก็ให้นีนนาหลบไปอยู่ที่อื่นสักพัก นีนนาจึงไปที่สำนักคอนแวนต์และจะรักษาศีลโดยหวังว่าผลบุญจะทำให้มีความสุขในชีวิตแต่งงานครั้งใหม่ ฟาบิโอจัดงานเลี้ยงต้อนรับกีโดที่โรงแรมก่อนที่กีโดจะไปพบนีนนาที่บ้าน เมื่อได้จังหวะเหมาะฟาบิโอประกาศในงานว่าเขากำลังจะแต่งงานกับนีนนา กีโดตกใจและโกรธจัด เข้าทำร้ายและบริภาษฟาบิโอ จนมีการนัดดวลกันในวันรุ่งขึ้น กีโดถูกยิงที่หน้าอก ก่อนจะสิ้นใจกีโดได้รู้ว่าโอลิวาคือฟาบิโอ กีโดถามว่านีนนารู้หรือไม่ ฟาบิโอบอกว่าจะบอกเธอในวันแต่งงาน
หลังจากกีโดตาย ฟาบิโอไปคอนแวนต์บอกข่าวนีนนา นีนนาแสดงอาการให้เห็นว่าดีใจ ครั้นถึงวันแต่งงานของนีนนากับฟาบิโอ มีงานเลี้ยงเต้นรำในตอนค่ำ เจ้าบ่าวเจ้าสาวเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน นีนนาได้เต้นรำกับบรรดาบุคคลชั้นสูง ฟาบิโอนัดแนะเวลาให้นีนนาออกไปพบกันข้างนอกเพื่อเดินชมจันทร์ก่อนจะถึงเวลารับประทานอาหาร นีนนาก็กลับไปเต้นรำต่อ ส่วนฟาบิโอกลับไปห้องพักโกนหนวดเครา และถอดแว่นตาออก เหน็บกริชซ่อนไว้ในเสื้อแล้วออกไปพบกับนีนนาตามเวลาที่จุดนัดหมาย นีนนาเริ่มสงสัยเมื่อฟาบิโอพาเธอขึ้นรถม้าเช่าแทนที่จะเดิน ฟาบิโอบอกว่าไม่อยากให้เธอเหนื่อย ปลอบโยนว่าจะพาไปที่เก็บสมบัติ
เมื่อฟาบิโอพาเข้าไปในห้องเก็บศพนีนนาตกใจกลัว และเมื่อฟาบิโอเปิดเผยตัวตนและดวงตาให้เห็นว่าเขาคือฟาบิโอ นีนนาก็ถึงกับแทบสิ้นสติ ร้องไห้ปนสะอื้นพูดว่า
ไม่จริง ไม่จริง ! ... มันเป็นไปไม่ได้ ! คงเป็นการเท็จทั้งสิ้น ทำอุบายอะไรกันเช่นนี้ ... เป็นความจริงไม่ได้แท้ ! จริง ! โอพระผู้เป็นเจ้า ! ชั่วร้าย ร้ายกาจเหลือเกิน
ฟาบิโอเล่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาซึ่งทำความกดดันเคียดแค้นให้นีนนามากยิ่งขึ้น เมื่อฟาบิโอเผลอนีนนาก็ฉวยชักเอากริชในเสื้อฟาบิโอจะแทงเขาให้ตายแต่ไม่สำเร็จ
ในที่สุดนีนนาเสียสติเพ้อพูดกับกีโดเหมือนเขามาปรากฏกายให้เธอเห็น ในขณะนั้นเองหินก้อนใหญ่ก็หล่นลงมาจากหลังคาห้องเก็บศพทับนีนนาจนเกือบมิดทั้งตัว ฟาบิโอเล่าว่า
ไม่เห็นอะไรเลยนอกจากมือขาวข้างหนึ่ง – มือข้างที่สวมแหวนแต่งงาน - ในขณะที่ก้มลงดูอยู่นั้น มือยังเต้นสั่นริกระริ้ว ... ตีดิน ... แล้ว ... นิ่ง ! อ๊ย – น่า – สยดแสยง - - ในเดี๋ยวนี้ข้าพเจ้าหลับตานึกเห็นจำมือขาวนั้นได้ อือฮือ ! มือนั้นอุธรณ์ มือนั้นเรียกร้อง มือนั้นขู่คำราม มือนั้นอ้อนวอน พร้อมอยู่ในมือนั้น ! เมื่อข้าพเจ้าตาย มือนั้นจะกวักให้ข้าพเจ้าไปยังหลุม ! เศษผ้าเครื่องแต่งตัวอันมีค่านั้นได้แพลมออกมานอกก้อนหินหน่อย – เห็นโลหิตไหลซึมออกมาใต้ก้อนหิน - - - หินก้อนใหญ่อย่างที่มนุษย์คนใดไม่สามารถจะผลักเลื่อนที่ได้แม้แต่นิ้วเดียว - - - หินที่ได้ตราความบาปของหล่อนลงไว้ !
แม้นีนนาจะตายไป แต่ฟาบิโอก็ไม่ยอมยกโทษให้แม้เขาจะต้องทุกข์ทรมานใจเพียงใด เขาได้แต่ขอให้พระเยซูประทานอภัยให้เธอ
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory