TLD-003-2266
บุษบา 6 (ชื่อตัวละคร)
บุษบาเป็นตัวละครในบทละครเรื่องอิเหนา เป็นธิดาของท้าวดาหา* กับประไหมสุหรี ท้าวกุเรปัน*หมั้นหมายนางบุษบาให้เป็นคู่ตุนาหงันของอิเหนา*ตามประเพณีของวงศ์เทวา
เมื่อนางบุษบาเกิด มีเหตุอัศจรรย์คือดอกไม้บานและมีกลิ่นหอมตลอดเวลา ดนตรีบรรเลงเอง แล้วสิ่งต่างๆ ก็หายไปเหลือเพียงกลิ่นหอม นางจึงได้ชื่อว่า “บุษบา” ความงดงามของนางบุษบาทำให้ผู้พบเห็นครั้งแรกตกตะลึง บางคนถึงกับสิ้นสติ เช่นตอนที่ช่างเขียนพบนางบุษบาขณะที่นางยังโศกเศร้าก็ถึงกับตะลึง วาดรูปนางไม่ทัน ฝ่ายจรกา*และวิหยาสะกำ*เมื่อได้เห็นรูปนางบุษบาต่างก็ตกตะลึงและสลบไป แม้อิเหนาเมื่อแรกเห็นนางบุษบาก็ถึงกับเพ้อคลั่ง
ในตอนแรกอิเหนายังไม่เคยเห็นนางบุษบา เมื่อไปหลงรักนางจินตะหรา*จึงบอกเลิกการหมั้นกับนางบุษบา ทำให้ท้าวดาหากริ้วมาก เมื่อจรกามาขอนางบุษบา ท้าวดาหาจึงยกให้ ต่อมาท้าวกะหมังกุหนิง*ได้ส่งสารมาสู่ขอนางบุษบาให้วิหยาสะกำ แต่ท้าวดาหาปฏิเสธ ท้าวกะหมังกุหนิงจึงยกทัพมาตีเมืองดาหา*เพื่อชิงนาง อิเหนาจำต้องยกทัพมาช่วยท้าวดาหารบตามคำสั่งของท้าวกุเรปัน*ผู้เป็นบิดา เมื่อรบชนะอิเหนาได้พบนางบุษบา อิเหนาถึงกับเพ้อด้วยความลืมตัวและคร่ำครวญด้วยความเสียดาย
เมื่อท้าวดาหาจัดพิธีแต่งงานให้นางบุษบาและจรกา อิเหนาวางแผนปลอมเป็นจรกา ลักพานางไปไว้ในถ้ำทอง นางโกรธแค้นอิเหนาที่ไปหลงรักนางจินตะหรา ทิ้งตุนาหงันตน จนทำให้เกิดศึกกะหมังกุหนิง แต่ในที่สุดทั้งสองก็เข้าใจกันและครองรักอย่างเป็นสุขในถ้ำทอง ต่อมาอิเหนาไปแก้สงสัยที่เมืองดาหา องค์ปะตาระกาหลา* อัยกาต้นวงศ์เทวาโกรธที่อิเหนาทำตามอำเภอใจ จึงบันดาลให้เกิดลมหอบนางบุษบาพร้อมพี่เลี้ยง 2 นางไป แล้วปลอมตัวนางบุษบาเป็นชาย โดยมอบกริชจารึกชื่อให้ว่ามิสาอุณากรรณ* แต่เรียกกันว่าอุณากรรณ* และสาปว่าแม้นางบุษบาและอิเหนาได้พบกันก็ขอให้จำกันไม่ได้จนกว่ากษัตริย์เชื้อสายวงศ์เทวาทุกองค์จะได้มาพบกันจึงจะจำกันได้ ปะตาระกาหลาชี้ทางให้อุณากรรณไปเมืองประมอตัน* ระตูประมอตัน*รักใคร่เอ็นดูอุณากรรณจึงรับเป็นโอรสบุญธรรม อุณากรรณอยู่ที่เมืองประมอตันอย่างมีความสุข ต่อมาปะตาระกาหลาบอกให้ออกตามหาอิเหนาซึ่งกำลังโศกเศร้าถึงนาง อุณากรรณจึงยกทัพติดตามอิเหนา ระหว่างการติดตามมีระตูเมืองต่างๆ ขอสวามิภักดิ์ อุณากรรณได้พบปันหยี* (อิเหนา) ซึ่งบวชและใช้ชื่อว่าอายันกัศมาหรา* ทั้งสองจำกันไม่ได้ อุณากรรณรู้สึกเพียงว่านักบวชผู้นี้เหมือนอิเหนามาก ต่อมาอุณากรรณเดินทางไปเมืองกาหลัง* ท้าวกาหลัง*รับเป็นโอรสบุญธรรม อุณากรรณจึงอยู่ที่เมืองกาหลังโดยแสดงบทบาทเป็นชาย เช่น เกี้ยวผู้หญิง และได้แสดงความกล้าหาญโดยการทำศึกกับระตูจะมาหรา*
ต่อมาเมื่ออิเหนาลาสึกและเดินทางมาถึงเมืองกาหลังในนามปันหยี อุณากรรณจึงมีโอกาสใกล้ชิดกับปันหยี อุณากรรณเกรงว่าปันหยีจะรู้ว่าตนเป็นหญิงจึงไปบวชเป็นแอหนัง (ชี) ที่เขาตะหลากัน* ใช้ชื่อว่าติหลาอรสา* ปันหยีปลอมเป็นเทวดาลวงนางแอหนังว่าจะส่งนางขึ้นสวรรค์แต่กลับพามาเมืองกาหลัง เมื่อปันหยีลักกริชที่จารึกชื่ออุณากรรณได้ ก็เข้าใจว่านางเป็นชายาของอุณากรรณ ส่วนแอหนังเมื่อกริชหายไปก็ตกใจมาก ประสันตา*พี่เลี้ยงของอิเหนาสงสัยว่าแอหนังคือนางบุษบาจึงจัดการเชิดหนังและพากย์เรื่องราวของอิเหนาและนางบุษบา แอหนังได้ดูหนังก็ร้องไห้ ความจริงจึงปรากฏ อิเหนาก็แสดงตัวและไปสึกชี ทั้งสองจึงอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ตอนท้ายเรื่องมีพิธีอภิเษก นางบุษบาได้รับตำแหน่งเป็นประไหมสุหรีฝ่ายซ้ายของอิเหนา แม้อิเหนาจะมีชายาตามตำแหน่งถึง 10 คน แต่ก็รักนางบุษบามากที่สุด ดังคำประพันธ์ที่ว่า
เมื่อนั้น อิเหนาเฝ้าชมไม่แหห่าง ไปมาหาสู่ทั้งสิบนาง มิได้ว่างเว้นสวาทขาดวัน มีพระทัยใสโสมนัสสา องค์ระเด่นบุษบาสาวสวรรค์ ยิ่งกว่านางทั้งเก้าเหล่านั้น ด้วยร่วมวงศ์เทวัญกันมา ทั้งเป็นเพื่อนยากลำบากลำบน ต้องซุกซนซอกซอนนอนกลางป่า จักแหล่นจะตายวายชีวา เพราะเที่ยวหาน้องนุชจนสุดฤทธิ์
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory