TLD-003-2274
บุษบาส่าหรี (ชื่อตัวละคร)
บุษบาส่าหรีเป็นตัวละครในบทละครเรื่องดาหลัง เป็นธิดาระตูปันจะรากัน* มีคู่หมั้นชื่อสุหรากันตา*ซึ่งเป็นโอรสของระตูสัจอุหนู*
ระตูปันจะรากันพานางบุษบาส่าหรีไปเที่ยวป่าในโอกาสที่ไปแก้บน ระหว่างที่ระตูปันจะรากันและพระมเหสีขึ้นไปนมัสการพระฤๅษีบนภูเขาเพื่อทำพิธีแก้บน นางบุษบาส่าหรีรออยู่ในรถประเทียบ นางเผยม่านออกชมนกชมไม้อย่างเพลิดเพลิน มิสามะงาหรัด* (ประสันตา*) พี่เลี้ยงของปันหยี*(อิเหนา*) เดินสำรวจป่าผ่านมาเห็นกองทัพจึงเข้าไปถาม ได้เห็นนางบุษบาส่าหรี มิสามะงาหรัดแปลกใจมากเพราะนางเหมือนกับนางเกนบุษบาส่าหรี*มาก “ดังตีพิมพ์เดียวเอามาใส่” จึงรีบไปบอกปันหยี
ปันหยีกำลังเศร้าโศกถึงชายาคือนางเกนบุษบาส่าหรีซึ่งถูกท้าวกุเรปัน*พระบิดาสั่งฆ่า ปันหยีตามไปดูก็เห็นจริงว่านางบุษบาส่าหรีเหมือนชายาที่เสียชีวิตไปแล้ว ปันหยีดีใจมากอุ้มนางกลับไปพลับพลาของตน ระตูปันจะรากันรู้เรื่องก็โกรธมากเตรียมจะไปฆ่าผู้อุกอาจ พระฤๅษีเข้าฌานดูรู้ว่าผู้ก่อเหตุคืออิเหนาโอรสท้าวกุเรปันจึงห้ามไว้ ระตูปันจะรากันลอบไปดูพบทั้งคู่ “งามสมควรกันเป็นหนักหนา ดังสุริยากับพระจันทร์อันแจ่มใส”
ระตูปันจะรากันจึงยกนางบุษบาส่าหรีให้ปันหยี แล้วพากันเดินทางไปเมืองปันจะรากัน ระหว่างทางปันหยีได้เมืองต่าง ๆ มาเป็นเมืองขึ้นหลายเมือง รวมทั้งเมืองของระตูสัจอุหนูซึ่งไม่ยอมสวามิภักดิ์จึงต้องรบกัน ปันหยีรบชนะฆ่าทั้งระตูสัจอุหนูและโอรสคือสุหรากันตา เมื่อทั้งหมดมาถึงเมืองปันจะรากัน ระตูปันจะรากันจัดการอภิเษกปันหยีกับนางบุษบาส่าหรีและนางกัติกาส่าหรี* ต่อมาปันหยีถูกหลอกไปเมืองมะงาดา* เพื่อไปถอนหลักศิลา* ได้พานางทั้งสองไปด้วย ปันหยีลงเรือไปให้ นางทั้งสองรออยู่ในป่านอกเมือง ระตูมะงาดา* ส่งคนมาฆ่าไพร่พลของปันหยีแต่พี่เลี้ยงปันหยีรู้ตัวจึงพานางทั้งสองและไพร่พลกลับกรุงกุเรปัน* นางบุษบาส่าหรีและนางกัติกาส่าหรีได้รับการต้อนรับอย่างดี ทั้งสองคนอยู่ที่กรุงกุเรปันหลายปีโดยไม่ทราบข่าวของปันหยีเลย นางทั้งสองจึงพาผู้ติดตามรวม 40 คน หนีออกจากกรุงกุเรปัน ปลอมตัวเป็นผู้ชาย ประกอบอาชีพร้องรำเรียกกันว่า “อ้าโมะ” แสดงตามเมืองต่าง ๆ เพื่อสืบหาปันหยี ทั้งคู่กลายเป็นหนุ่มน้อยรูปงามร้องรำเก่ง มีคนจ้างหาไปแสดงทุกวัน เมื่อไม่ได้ข่าวปันหยีก็เดินทางไปเมืองอื่น
ผ่านมาถึง 5 เมืองก็ไม่ได้ข่าว เมื่อมาถึงเมืองประมอตัน*ลูกสาว 2 คนของปาเตะ*เสนาบดีผู้ใหญ่มาหลงรักอ้าโมะทั้งพี่ทั้งน้อง นางทั้งสองเกรงจะเกิดภัยจึงหนีไป ลูกสาวปาเตะเสียใจถึงกับฆ่าตัวตาย ปาเตะโกรธมากส่งคนออกตามล่า นางทั้งสองหนีไปได้และตั้งใจจะเดินทางไปเมืองดาหา* แต่เทวดาดลใจให้เดินทางไปทางเมืองกาหลัง* เพื่อให้พบกับกุดาวิราหยา* (จะหรังกะหนังโหละ* อนุชาอิเหนา) ทั้ง 3 คน ได้พบกันแล้วเดินทางไปสืบหาปันหยีด้วยกัน กุดาวิราหยาบอกใคร ๆ ว่า อ้าโมะทั้งสองคนเป็นน้องต่างมารดา ทั้ง 3 คนเดินทางมาถึงเมืองปัตหรำ*ก็ร้องเพลงอ้างชื่อปันหยีในเรื่องที่แสดง ชาวเมืองที่หวังดีจึงแอบมาเตือนว่าอย่าออกชื่อปันหยีเพราะทางการห้าม แล้วก็เล่าเรื่องที่นางจินตะหราวาตี* (นางจินตะหรา*) พาปันหยีมาเป็นสามี และปันหยีหนีไปขณะนางตั้งครรภ์ เมื่อรู้ว่าปันหยีหนีไปแล้ว กุดาวิราหยาจึงชวนนางทั้งสองตามไป แต่ทั้งนางบุษบาส่าหรีและนางกัติกาส่าหรีขออยู่แก้แค้นก่อน เพราะนางโกรธที่นางจินตะหราเป็นต้นเหตุที่ทำให้ปันหยีพลัดพรากกับกุดาวิราหยา อ้าโมะทั้งสองรออยู่ไม่นานก็ได้รับเชิญไปแสดงหน้าที่นั่งเพราะระตูปัตหรำ*อยากให้ธิดาได้ดูการแสดงจะได้คลายความเศร้าโศก
อ้าโมะได้โอกาสจึงขับเพลงเปรียบเปรยตามเรื่องที่รู้จากชาวเมืองกล่าวถึงสตรีที่ถูกสามีทอดทิ้ง ผูกเรื่องเป็นนิทานร้องว่า รักเจ้ามิให้หมองใจเอย รักฤๅจะทิ้งไว้ จนท้องน้องได้ห้าเดือน ความรักใครจะมีเหมือน ไปไล่เนื้อแล้วเชือนหนีเอย รักฤๅจะทิ้งไว้ นางจินตะหราได้ยินก็ร้องไห้และเกิดสงสัย แต่ระตูปัตหรำเห็นว่าอ้าโมะทั้งสองมาจากป่าย่อมไม่รู้เรื่อง คงขับลำไปตามนิทานเท่านั้น จึงสั่งให้หยุดการแสดง อ้าโมะและกุดาวิราหยาก็ออกจากเมืองไป ทั้งสามคนไปถึงเมืองหมันหยาปาเอ็ด*จึงได้พบกับปันหยีซึ่งได้เป็นกษัตริย์ครองเมืองอยู่ ปันหยีต้อนรับอนุชาและสองชายาด้วยความยินดี นางทั้งสองจึงได้อยู่ที่เมืองหมันหยา พร้อมกับชายาอีกองค์ของปันหยีคือนางหยังหยังส่าหรี* ธิดาระตูหมันหยา*
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory