TLD-003-2337
ประทุมวดี 2 (ชื่อตัวละคร)
ประทุมวดีเป็นตัวละครในเรื่องลิลิตเพชรมงกุฎ เป็นธิดาท้าวทันตราช*แห่งเมืองกรรณนคร*
เพชรมงกุฎโอรสท้าวรัตน์นฤเบศร์*ออกประพาสป่ากับพุฒศรี*พี่เลี้ยงและไพร่พล ทั้งสองไล่ตามกวางเผือกเพื่อจับไปถวายพระบิดามารดาจนพลัดหลงกับกองทัพ ได้เดินป่ามาจนถึงศาลาท่าน้ำก็เข้าพัก
ขณะนั้นนางประทุมวดีออกมาเล่นน้ำในสระกับเหล่านางสนมกำนัล ได้สบเนตรกับเพชรมงกุฎ ทั้งสองเกิดความปฏิพัทธ์ซึ่งกันและกัน นางประทุมวดีใช้ดอกบัวสื่อแสดงปริศนาเกี่ยวกับตัวนางโดย “...เด็ดโกเมศกุสุมา ทำปริศนาแนะให้ แกว่งดอกไม้เหนือเศียร เวียนเจ็ดรอบเสร็จสรรพ์ เอาบุษบันบรรทับ กับอุระเชยชิด แล้วจุมพิตบุบผา ทัดกรรณาแห่งนาง ชำเลืองหางเนตร์ค้อน สะท้อนฤทัยถวิล...” แล้วนางก็จากไป เพชรมงกุฎปลุกพี่เลี้ยงที่หลับอยู่แล้วเล่าเรื่องให้ฟัง พุฒศรีเฉลยปริศนาว่าการที่นางแกว่งดอกไม้เหนือเศียรเวียน 7 รอบเพื่อสื่อว่านางอยู่ในปราสาท 7 ชั้น การที่นางเอาดอกไม้ทัดหูก็เพื่อสื่อว่านางอยู่ที่เมืองกรรณนคร การที่นางนำดอกไม้มาขบก็เพื่อสื่อว่าพระบิดาของนางคือท้าวทันตราช และการที่นางจุมพิตดอกไม้ก็เพื่อสื่อว่านางใคร่จะได้อยู่ร่วมอภิรมย์กับเพชรมงกุฎ
เมื่อรู้นัยความหมายแล้วเพชรมงกุฎก็ขอให้พุฒศรีช่วยให้ตนได้สมรัก พุฒศรีวางแผนโดยทั้งสองปลอมตนเป็นพราหมณ์เดินทางไปขออาศัยอยู่กับคนธา*หญิงชราที่ทำหน้าที่เฝ้าอุทยานและร้อยดอกไม้ไปถวายนางประทุมวดี เมื่อถึงกำหนดที่ยายคนธาจะร้อยมาลัยไปถวาย เพชรมงกุฎได้อาสาช่วยยายคนธากรองดอกไม้
ฝ่ายนางประทุมวดีเห็นมาลัยงามวิจิตรกว่าที่เคยก็รู้ว่าเป็นฝีมือของเพชรมงกุฎ จึงตรัสถามยายคนธาว่าใครช่วยนางร้อยดอกไม้ ยายคนธาตอบว่าหลานของตนช่วยร้อย นางประทุมวดีแสร้งทำเป็นโกรธ หาว่ายายคนธาแอบซ่อนหลานไว้ จึงเอาแป้งลายทาทั่วกายยายคนธาแล้วไล่นางกลับ เพชรมงกุฎเห็นก็ตรัสถามพี่เลี้ยงถึงนัยความหมาย พุฒศรีทูลว่านางประทุมวดีมิให้เพชรมงกุฎไปหาตอนกลางคืนที่เดือนสว่างเพราะจะมีผู้พบเห็นได้ ให้ไปตอนเดือนมืด
ต่อมาเพชรมงกุฎก็ช่วยยายคนธาร้อยดอกไม้อีกโดยใส่กลปริศนาสื่อการอยู่ร่วมอภิรมย์กับนางและสอดธำมรงค์ไว้ข้างใน นางประทุมวดีเห็นก็รู้ว่ามาณพผู้นี้เป็นเชื้อสายกษัตริย์มาแสวงหาคู่ครอง จึงตอบเป็นกลปริศนาโดยใช้นิ้ว 3 นิ้วทาชาดตบที่แก้มยายคนธาแล้วบริภาษขับไล่นาง ครั้งนี้พุฒศรีเฉลยปริศนาว่านางประทุมวดีสื่อว่าภายใน 3 วันนี้ยังมิให้เพชรมงกุฎเสด็จไปหานาง
ต่อมาเมื่อยายคนธาร้อยดอกไม้จะไปถวายอีก เพชรมงกุฎก็ช่วยร้อยเป็นรูปตนและนางประทุมวดีร่วมสมกัน นางประทุมวดีเห็นก็แสร้งทำเป็นโกรธยายคนธา แล้ว “นางละลายหมึกทา เถ้าดำกาทนเทวษ แสร้งทำเลสกลหลาย จึงเอายายใส่แสรก ชักเชือกแยกหย่อนลี้ โดยซ่อนสีหบัญชร ถึงดินดอนเถ้าเดิน” เมื่อเพชรมงกุฎถามถึงนัยความหมายที่นางประทุมวดีสื่อมา พุฒศรีทูลว่านางประทุมวดีให้เพชรมงกุฎเสด็จไปหานางตรงจุดที่นางเอายายคนธาหย่อนแสรกลงมา เมื่อถึงเวลานัดหมายเพชรมงกุฎก็ไปกับพุฒศรี เพชรมงกุฎยึดแสรกมั่นไว้กับกาย นางประทุมวดีรู้จากสายแสรกสั่นก็ชักแสรกขึ้นทางบัญชร ทั้งสองจึงได้อยู่ร่วมกันในปราสาทของนาง ฝ่ายพุฒศรีก็กลับไปยังอุทยาน
เวลาผ่านไป 4 วันเพชรมงกุฎจะกลับไปเยี่ยมพุฒศรี ได้เล่าให้นางประทุมวดีฟังว่า พุฒศรีเป็นผู้มีบุญคุณช่วยให้ทั้งสองได้อยู่ร่วมกัน นางประทุมวดีรู้ว่าพี่เลี้ยงเป็นผู้มีสติปัญญาก็เกรงว่าภายหลังพุฒศรีจะวางอุบายพรากเพชรมงกุฎไปจากนางจึงคิดกำจัดเสีย โดยฝากอาหารใส่ยาพิษไปให้พุฒศรี พุฒศรีรู้เท่าทันความคิดนางจึงเอาอาหารให้สุนัขกิน สุนัขตาย เพชรมงกุฎกริ้วจะไปจากนาง แต่พุฒศรีทัดทานไว้ว่าเหตุที่นางทำเช่นนี้เพราะรักเพชรมงกุฎ เพชรมงกุฎจึงควรพานางกลับไปบ้านเมืองด้วย แล้วพุฒศรีก็วางแผนให้เพชรมงกุฎกลับไปหานางประทุมวดี
เมื่อนางบรรทมหลับสนิทก็ให้ปลดเครื่องประดับ และหยิกอุระนาง 3 จุด แล้วกลับมาหาตน เมื่อได้เครื่องประดับแล้ว พุฒศรีก็นำมาผูกร้อยเข้าด้วยกัน แล้วให้เพชรมงกุฎแต่งกายเป็นมาณพหนุ่มนำเครื่องประดับไปร้องแลกกับเครื่องบูชาไฟในตลาด ส่วนตนเองแต่งกายเป็นดาบสแสร้งเข้าไปบำเพ็ญพรตอยู่ในป่า อำมาตย์ผู้หนึ่งเห็นเครื่องประดับก็รู้ว่าเป็นของกษัตริย์ไม่ใช่ของสามัญชน จึงกุมตัวมาณพไปเฝ้าท้าวทันตราช ท้าวทันตราชทอดพระเนตรเห็นก็จำได้ว่าเป็นเครื่องประดับที่นางประทุมวดีทรงอยู่ จึงตรัสถามมาณพว่าได้มาจากที่ใด มาณพตอบว่าเครื่องประดับนั้นเป็นของดาบสอาจารย์ของตน
ท้าวทันตราชจึงให้อำมาตย์ไปเชิญดาบสมาเฝ้า ตรัสถามได้ความว่าดาบสได้เครื่องประดับมาจากยักษิณีที่มากินซากศพในป่าช้าที่ดาบสกำลังเดินจงกรมอยู่และยังมาทำท่าหลอกหลอน ดาบสจึงใช้ตรีแทงที่หน้าอกนางหมายจะสังหาร แต่ยักษิณีวอนขอชีวิตแล้วเปลื้องเครื่องประดับของนางให้ เมื่อได้สดับท้าวทันตราชก็เศร้าพระทัยเพราะคิดว่าธิดาคือยักษิณี จึงประทานเครื่องบูชาไฟแลกกับเครื่องประดับไว้ เมื่ออาจารย์และศิษย์ลากลับไปแล้วท้าวทันตราชก็ให้นางประทุมวดีมาเฝ้า เมื่อไม่เห็นเครื่องประดับที่นางเคยทรง พักตร์ที่เคยผุดผ่องก็หมองหม่น ทั้งที่อุระยังมีรอยช้ำโลหิต ซึ่งตรงกับเรื่องราวของยักษิณีที่ดาบสเล่าทุกประการ ก็กริ้วจึงบริภาษว่านางประทุมวดีเป็นกาลกิณี แล้วขับไล่นางออกจากเมือง
เมื่ออำมาตย์นำนางประทุมวดีไปส่งนอกประตูเมือง เพชรมงกุฎและพุฒศรีซึ่งมารอคอยรับนางอยู่แล้วตามแผนที่วางไว้ ก็พานางเดินทางกลับเมือง ฝ่ายท้าวรัตน์นฤเบศร์*และนางประภาพักตร์*พระบิดามารดาเพชรมงกุฎรู้ว่าโอรสกลับมาก็เสด็จออกมารับเข้าเมือง แล้วจัดพิธีอภิเษกให้เพชรมงกุฎและนางประทุมวดีขึ้นครองราชย์
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory