TLD-003-2377
ปะรังศรี, ท้าว (ชื่อตัวละคร)
ท้าวปะรังศรีเป็นตัวละครในบทละครเรื่องยุขัน เป็นเจ้าเมืองอุรังฆาร* มีมเหสีชื่อสร้อยสุนี* (สร้อยสุณี*) และมีธิดาชื่อบุษหรี*
วันหนึ่งท้าวปะรังศรีฝันว่าพบนกหัสรังสี*อยู่ในป่า นกตัวนี้มีดวงแก้ววิเศษอยู่ในหัว กษัตริย์เมืองใดได้ครอบครองจะเป็นจอมจักรพรรดิ เหาะเหินเดินอากาศได้ และไม่มีใครกล้าต่อฤทธิ์ เมื่อตื่นบรรทมท้าวปะรังศรีให้หาผู้อาสาไปนำนกมาถวาย เหล่าเสนาอำมาตย์ทูลว่าควรเป็นมะยุหงัด*พรานป่า เมื่อมะยุหงัดลวงยุขัน*โอรสท้าวอุรังยิด*ไปอยู่ในอุทยานเมืองอุรังฆารแล้ว ได้ไปทูลท้าวปะรังศรีให้พาทหารบุกเข้าไปชิงนกหัสรังสี ท้าวปะรังศรีสั่งให้ผู้มีคาถาอาคมและผู้เชี่ยวชาญการขี่ม้าจำนวน 40 นายลอบไปดูยุขัน เมื่อเห็นว่ายุขันมาเพียงลำพังและยังเยาว์นักไม่มีทางจะสู้พระองค์ได้ จึงสั่งให้สุปิหลัน*เสนาผู้ใหญ่ชิงนกหัสรังสี กริช ศร และม้าอัสดรของยุขัน เหล่าทหารจู่โจมเข้าจับยุขันมัดไว้ เมื่อได้นกหัสรังสีแล้ว ท้าวปะรังศรีให้นำยุขันไปปล่อยทิ้งในป่า แต่กะปิหลัน*กับเหล่าเสนาเห็นว่ายุขันมีบุญบารมีและมีฤทธิ์มาก เกรงว่าหากปล่อยไป ยุขันอาจกลับมาแก้แค้น จึงจับยุขันไปโยนทิ้งมหาสมุทร
ท้าวปะรังศรีประทานรางวัลแก่มะยุหงัด แล้วให้นางบุษหรีขึ้นเฝ้า เล่าถึงคุณวิเศษของดวงแก้วในหัวนกหัสรังสีและบอกนางว่าจะฆ่านกเพื่อเอาดวงแก้ววิเศษ นางบุษหรีเสียดายความงามของนกหัสรังสี จึงอ้อนวอนขอไปเลี้ยงไว้ ท้าวปะรังศรีใจอ่อนยอมประทานให้ ท้าวปะรังศรีคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะลวงเอานกหัสรังสีมาสังหารเพื่อตนจะได้เป็นจอมจักรพรรดิ จึงออกอุบายให้นางกำนัลไปทูลพระธิดาว่าพระองค์อยากชมนกหัสรังสี นางบุษหรีหลงเชื่อ ให้นำนกไปได้ แต่กำชับให้รีบนำมาส่งคืน เมื่อท้าวปะรังศรีได้นกมาแล้วก็ตั้งกองไฟพิธี ใช้กริชฟันคอนกกระเด็นไป แล้วโยนลงในกระทะเกิดเป็นดวงแก้ววิเศษ ท้าวปะรังศรีสำแดงฤทธิ์เหาะเหินเดินอากาศ แล้วนำดวงแก้วใส่ปากอมไว้ ฝ่ายนางบุษหรีเมื่อเห็นว่านางกำนัลยังไม่นำนกกลับมาส่งคืนก็ร้อนใจจึงรีบขึ้นเฝ้าท้าวปะรังศรี เมื่อเห็นแต่กรงเปล่าวางอยู่จึงทูลถามพระบิดา ท้าวปะรังศรีบอกว่าสังหารนกหัสรังสีแล้ว นางบุษหรีเสียใจมาก
ฝ่ายยุขันคิดแค้นท้าวปะรังศรีจึงออกเดินทางไปขอให้ท้าวตะรังอู*เจ้าเมืองฉะนะตัน*จัดทัพออกรบกับเมืองอุรังฆาร เมื่อถึงชายแดนเมืองอุรังฆาร ยุขันให้ตั้งค่ายไว้ ครั้นพลบค่ำก็ชวนตำมะหงง*และตะหลาหรัน*เสนาร่ายเวทกำบังกายเข้าไปในปราสาทของท้าวปะรังศรี ยุขันร่ายมนตร์จังงัง ล้วงดวงแก้ววิเศษออกจากปากของท้าวปะรังศรี แล้วรีบเหาะกลับไปยังพลับพลาของตนหยิบเอาดวงแก้วประดับชฎาไปใส่ปากท้าวปะรังศรีไว้แทน วันรุ่งขึ้น ยุขันส่งทูตไปแจ้งท้าวปะรังศรีให้คืนนกหัสรังสีและถวายนางบุษหรีเพื่อเป็นการอ่อนน้อม ท้าวปะรังศรีให้สุปิหลันออกรบ ท้าวตะรังอูสังหารสุปิหลันได้ ท้าวปะรังศรีจึงออกรบด้วยตนเอง แล้วคายดวงแก้วออกให้ยุขันดู ยุขันให้ลองฤทธิ์ดวงแก้ววิเศษด้วยการเหาะเหินเดินอากาศ แต่ท้าวปะรังศรีก็ทำไม่ได้ ยุขันจึงบอกว่าได้ลอบไปชิงดวงแก้ววิเศษมาแล้ว ท้าวปะรังศรีเสียใจและอับอายมาก ขอกลับไปสั่งเสียประไหมสุหรีกับนางบุษหรีก่อนแล้วจะกลับมารบ ท้าวปะรังศรีคิดจะพานางสร้อยสุนีและนางบุษหรีลงเรือกำปั่นหนีไป แต่เกรงจะอับอายแก่เหล่าเทวดาและไพร่ฟ้าประชาชนจะล่วงนินทา ครั้นครบต้องกลับไปรบ ท้าวปะรังศรีให้นิมนต์ฤๅษีสมมิศร*พระอาจารย์เข้ามา ฤๅษีสมมิศรออกอุบายแปลงท้าวปะรังศรีเป็นพระอินทร์ เนรมิตไม้เท้าเป็นช้างเอราวัณ ล่อให้ยุขันบูชาดวงแก้ววิเศษ แล้วให้ท้าวปะรังศรีแย่งดวงแก้วมา พระอินทร์แปลงทรงช้างเอราวัณเข้าไปยังกองทัพของยุขัน ยุขันคิดว่าพระอินทร์มาอวยพรให้รบชนะก็สั่งให้ตั้งพิธีรดน้ำสังข์ แต่ตะหลาหรันเห็นว่าน่าจะเป็นกลลวงจึงขออนุญาตออกไปลองฤทธิ์พระอินทร์แปลง ตะหลาหรันและตำมะหงงไปยืนอยู่หน้าช้างแล้วอ่านคาถาอาคมเป่าไป ช้างเอราวัณก็กลับเป็นไม้เท้า ส่วนท้าวปะรังศรีกับฤๅษีสมมิศรก็ตกลงมาแล้ววิ่งหนีเข้าป่า
ครั้นพลบค่ำท้าวปะรังศรีกับฤๅษีสมมิศรพลัดหลงกัน ท้าวปะรังศรีจึงเดินกลับเข้าเมืองไปเพียงลำพัง วันรุ่งขึ้นท้าวปะรังศรีให้เกณฑ์ไพร่พลทั้งเมืองรวมเก้าแสนแปดหมื่นเจ็ดพันนายพร้อมศัสตราวุธนานาชนิดไปออกรบ ก่อนเคลื่อนทัพบังเกิดนิมิตร้ายต่างๆ เมื่อถึงสนามรบ ท้าวตะรังอูให้กองทัพเมืองฉะนะตันบุกเข้าจู่โจม ทัพของท้าวปะรังศรีสู้ไม่ได้ก็แตกพ่ายไป ส่วนท้าวปะรังศรีโจนลงจากหลังม้าวิ่งหนีไป เสนาเมืองฉะนะตัน 3 นายร่ายเวทกำบังกายแกล้งไล่ตบตีท้าวปะรังศรี แล้วจับมัดไปถวายยุขัน ท้าวปะรังศรียอมตายแต่ไม่ยอมอ่อนน้อม ยุขันจึงสั่งประหารชีวิต นางสร้อยสุนีให้เสนาจัดเครื่องบรรณาการไปถวายยุขันเพื่อขอรับศพท้าวปะรังศรีกลับเข้าเมือง
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory