TLD-003-2440
ปาจิตตกุมาร (ชื่อตัวละคร)
ปาจิตตกุมารชาดก ปัญญาสชาดก
ปาจิตตกุมารเป็นตัวละครในเรื่องปาจิตตกุมารชาดกในปัญญาสชาดก เป็นโอรสของพระมหาธรรมราชา*กับพระนางสุวรรณเทวี*แห่งพรหมพันธุนคร *
เมื่อปาจิตตกุมารอายุได้ 16 ปี พระบิดาจะให้ครองราชสมบัติ จึงประกาศให้พระยาร้อยเอ็ดเมืองส่งธิดามาให้ปาจิตตกุมารเลือกเป็นคู่ แต่ปาจิตตกุมารไม่เลือกนางใด โดยกราบทูลพระบิดาว่าจะขอออกแสวงหาคู่ครองด้วยตนเอง พระบิดาจึงให้โหราจารย์ตรวจหาทิศที่จะได้พบคู่ โหราจารย์ทูลว่าขอให้ปาจิตตกุมารมุ่งไปทางทิศตะวันออก จะพบคู่ที่ยังอยู่ในครรภ์ของหญิงม่ายอนาถา ด้วยบุญญาธิการของธิดาในครรภ์ หญิงนั้นจะมีกลดเป็นเงากั้นศีรษะ
ปาจิตตกุมารเดินทางไป 60 โยชน์จนถึงเมืองพาราณสี และได้พบหญิงครรภ์แก่กำลังไถนาโดยมีกลดเป็นเงากั้นศีรษะ จึงเข้าไปช่วยทำนาแทนโดยขอว่าถ้าลูกในครรภ์เป็นหญิงจะต้องยกให้ตน เมื่อนางคลอดลูกเป็นหญิงที่มีลักษณะงามดังเทพอัปสร จึงตั้งชื่อลูกว่า อรพิมพ์* เมื่อนางอรพิมพ์อายุได้ 16 ปีก็ยกให้เป็นภรรยาของปาจิตตกุมาร
ครั้นปาจิตตกุมารกลับไปเยี่ยมพระบิดาและพระมารดา โดยขอให้นางอรพิมพ์อยู่กับมารดา พรหมทัตกุมาร*โอรสของพระเจ้าพรหมทัต*แห่งเมืองพาราณสี*มาพบนางอรพิมพ์แล้วต้องใจจึงฉุดนางไปไว้ที่ปราสาท เมื่อปาจิตตกุมารกลับมารู้เรื่องก็ไปตามหา ฝ่ายนางอรพิมพ์ใช้อุบายมอมสุราพรหมทัตกุมารจนสามารถใช้ดาบฟันคอของพรหมทัตกุมารขาด
เมื่อปาจิตตกุมารรู้เรื่องแล้วตกใจมากเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องร้ายแรงจนเกินกว่าจะแก้ไขได้ พระอินทร์รู้ถึงความทุกข์ใจของปาจิตตกุมารจึงเสด็จมาช่วยพาทั้งสองออกจากปราสาทไปพักที่ต้นไทรในป่า ระหว่างที่ทั้งสองนั่งพักที่ต้นไทรนั้น มีนายพรานคนหนึ่งขี่ควายผ่านมาเห็นนางอรพิมพ์แล้วพอใจอยากได้นาง จึงใช้หน้าไม้ยิงปาจิตตกุมารและชิงนางอรพิมพ์มา แต่นางอรพิมพ์ใช้อุบายฆ่านายพราน แล้วกลับไปหาปาจิตตกุมาร นางกอดศพปาจิตตกุมารคร่ำครวญจนพระอินทร์เสด็จมาช่วยด้วยการเนรมิตกายเป็นงูเห่า และให้พระมาตลีเป็นพังพอนมากัดกันต่อหน้านางอรพิมพ์ เมื่อฝ่ายใดถูกกัดตายอีกฝ่ายจะเคี้ยวแท่งยาแล้วพ่นให้อีกฝ่ายฟื้นขึ้นมา นางอรพิมพ์จึงใช้แท่งยานั้นพ่นปาจิตตกุมารจนฟื้น
เมื่อปาจิตตกุมารพานางอรพิมพ์มาถึงแม่น้ำได้ขอให้สามเณรที่พายเรืออยู่ช่วยพาข้ามฝั่ง แต่เรือลำเล็กปาจิตตกุมารจึงข้ามไปก่อน เมื่อสามเณรกลับมารับนางอรพิมพ์ลงเรือ กลับคิดพานางไปด้วย ปาจิตตกุมารไม่เห็นนางอรพิมพ์ตามมาก็ตกใจคร่ำครวญและตามหานางราวกับคนบ้า ฝ่ายนางอรพิมพ์ใช้อุบายให้สามเณรเก็บผลมะเดื่อให้ แล้วพายเรือหนี แต่ไม่พบปาจิตตกุมารที่ฝั่งแล้ว ปาจิตตกุมารพยายามติดตามหานางอรพิมพ์ด้วยความรักที่มั่นคงที่มีต่อนางเพียงผู้เดียว จนมาถึงจัมปากนครได้เห็นศาลาแห่งหนึ่งมีรูปวาดที่เกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตของตนกับนางอรพิมพ์ ทำให้หวนคิดถึงความหลังจนร้องไห้ คนเฝ้าศาลานำความไปแจ้งแก่สังฆราชาซึ่งคือนางอรพิมพ์ที่ได้อธิษฐานขอกลายร่างเป็นชาย
สังฆราชาขอให้ปาจิตตกุมารบวชโดยให้เหตุผลว่าจะเป็นโอกาสที่ได้พบภรรยาที่พลัดพรากกัน ปาจิตตกุมารจึงบวชเพราะต้องการพบนางอรพิมพ์ ระหว่างที่บวชนั้นปาจิตตกุมารมีโอกาสได้เห็นสังฆราชาอย่างใกล้ชิดและพบว่าสังฆราชามีลักษณะคล้ายกับนางอรพิมพ์ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ที่หญิงจะกลายเป็นชาย
ต่อมาสังฆราชาบอกความจริงว่าตนคือนางอรพิมพ์ และอธิษฐานขอคืนร่างเป็นหญิงดังเดิม ปาจิตตกุมารยินดีมาก จึงลาสึกและพานางอรพิมพ์กลับไปครองพรหมพันธุนครด้วยทศพิธราชธรรม ทำบุญทำทานจนสิ้นอายุขัยจึงได้ไปเกิดบนเทวโลก
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory