แก้วมณี หรือมณีรัตนะ* เป็นดวงแก้วในเรื่องไตรภูมิกถา มีความยาวได้ 4 ศอก มีขนาดใหญ่เท่าดุมเกวียน ด้านหัวของดวงแก้วทั้ง 2 ด้านมีดอกบัวทอง 2 ดอก แก้วมณีดวงนี้มีบริวารเป็นดวงแก้วต่างๆ 84,000 จำพวก
แลแก้วทั้งหลายฝูงนั้นลางจำพวกเท่าลูกฟัก ลางจำพวกเท่าลูกตาล ลางจำพวกเท่าลูกมะตูม ลางจำพวกเท่าลูกมะนาว
ลางจำพวกเท่าลูกมะม่วง... ลางจำพวกยาว ลางจำพวกกลม ลางจำพวกเป็น 4 เหลี่ยม ดูงามนักหนา
ดวงแก้วเหล่านี้พากันมาเฝ้าพญาแก้วดวงนั้นราวกับพญาหงส์ชื่อพญามัททราช* มีหมู่หงส์ 84,000 มาล้อมรอบเป็นบริวาร
ตามปกติพญาแก้วมณีดวงนี้อยู่ที่ยอดเขาวิบุลบรรพต* ต่อเมื่อบังเกิดพญามหาจักรพรรดิราช*และพระองค์ปรารถนาสมบัติคู่บุญบารมีจึงทรงรักษาศีล 8 ให้ทานแล้วคำนึงถึงแก้วแห่งพระมหาจักรพรรดิ ดวงแก้วนั้นก็จะเหาะมาพร้อมหมู่แก้วบริวารทั้ง 84,000 ดูรุ่งเรืองงดงามยิ่งนัก ดวงแก้วนั้นอยู่คู่บุญบารมีพระมหาจักรพรรดิราชแข่งรัศมีกับพระจันทร์ตลอดพระชนม์ชีพ
เมื่อพระมหาจักรพรรดิสิ้นพระชนม์ ดวงแก้วนั้นก็คืนไปอยู่ในยอดเขาวิบุลบรรพ มิได้เปล่งรัศมีออกแข่งด้วยรัศมีแห่งพระจันทร์นั้นเลย ดวงแก้วมณีรัตนะได้เข้าไปเฝ้าพญามหาจักรพรรดิราชในปราสาท พระองค์ประสงค์จะลองตบะของพญาแก้วจึงให้ทำไม้ลำหนึ่งยาว 16 ศอก พอกทองสวยงาม แล้วให้ตีตะเคียว (ถุง) ทองใส่พญาแก้ว เอาสายทองคำผูกแขวนไว้ปลายไม้ ให้คนยกถือนำไป ทำให้ทุกหนแห่งที่ผ่านไปนั้นสว่างรุ่งเรืองราวกับกลางวัน พญามหาจักรพรรดิราชกับรี้พลทั้งหลายตามดวงแก้วมณีไป เห็นฝูงคนทำไร่ทำนาซื้อขายของกันราวกับเวลากลางวัน ตั้งแต่นั้นมาบ้านเมืองก็มีแต่ความสุข