TLD-003-2604
พญาวานรโพธิสัตว์ 4 (ชื่อตัวละคร)
มหากปิชาดก 1 นิบาตชาดก
พญาวานรโพธิสัตว์เป็นตัวละครในเรื่องมหากปิชาดก สัตตกนิบาต ในนิบาตชาดก
ครั้งพระเจ้าพรหมทัต*ครองราชสมบัติเมืองพาราณสี* พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพญาวานร มีเรี่ยวแรงทานกำลังช้างได้ถึง 5 เชือก วานรโพธิสัตว์อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์พร้อมบริวารจำนวน 80,000 ในป่านั้นมีต้นมะม่วงใหญ่ต้นหนึ่งอยู่ใกล้ฝั่งแม่น้ำ ผลขนาดใหญ่เท่าหม้อมีรสอร่อย พญาวานรโพธิสัตว์พาบริวารไปกินผลมะม่วงแล้วกล่าวว่าสักวันหนึ่งผลมะม่วงที่ตกลงไปในแม่น้ำคงจะนำภัยมาสู่พวกตน ก็สั่งเหล่าวานรให้กัดและปลิดช่อดอกพร้อมทั้งผลอ่อนตามกิ่งที่ทอดไปทางน้ำจนหมด เหลือมะม่วงผลหนึ่งซึ่งมดแดงทำรังปิดอยู่ทำให้บรรดาวานรมองไม่เห็น
เมื่อมะม่วงผลนั้นสุกก็หล่นลอยน้ำไปติดข่ายที่พระเจ้าพาราณสีให้ขึงไว้สำหรับลงสรง พวกนายเกวัฏ (คนหาปลา) เก็บผลมะม่วงไปถวายพระเจ้าพาราณสี พระองค์ตรัสถามว่าเป็นผลไม้ชนิดใดก็ไม่มีผู้ตอบได้ จึงให้สืบหาพวกพรานชำนาญป่ามาสอบถามก็รู้ว่าเป็นผลมะม่วง พระเจ้าพาราณสีฝานผลมะม่วงให้พรานป่าลองชิมก่อน ส่วนพระองค์เสวยในภายหลัง และประทานแก่พระสนมและเสนาอำมาตย์ทั้งหลาย พระเจ้าพาราณสีโปรดรสชาติของมะม่วงมากจึงถามพรานป่าถึงที่ที่ต้นมะม่วงขึ้นอยู่และให้พรานป่านำทาง พระองค์เสด็จไปป่าหิมพานต์ทางเรือพร้อมข้าราชบริพาร เมื่อถึงต้นมะม่วงก็ไปประทับใต้ต้น เสวยผลมะม่วงสุกและกระยาหารต่างๆ แล้วทรงพักแรมในป่านั้น
ฝ่ายพญาวานรโพธิสัตว์ครั้นเวลาเที่ยงคืนดึกสงัดก็พาบริวารมากินผลมะม่วง พระเจ้าพาราณสีบรรทมยังไม่ทันหลับเห็นบรรดาวานรจึงให้หานายขมังธนูมาเพื่อจะยิง เมื่อเหล่าวานรเห็นนายขมังธนูล้อมต้นมะม่วงอยู่ไม่อาจหนีไปได้ก็ร้องบอกนาย วานรโพธิสัตว์ปลอบใจบริวารว่าจะช่วยให้รอดชีวิต แล้ววิ่งขึ้นบนยอดมะม่วงโจนข้ามแม่น้ำไปยังกอไผ่กอหนึ่ง เด็ดเถาวัลย์เอาปลายข้างหนึ่งผูกกับลำไม้ไผ่ ปลายอีกข้างหนึ่งผูกบั้นเอวกระโจนกลับไปยังต้นมะม่วง แต่เถาวัลย์สั้นเกินไป พญาวานรจึงใช้มือทั้งสองเหนี่ยวกิ่งมะม่วงทอดตัวเป็นสะพานให้บริวารเดินไต่ไปบนหลัง
ขณะนั้นวานรตัวหนึ่งมีใจประทุษร้าย ขึ้นไปบนกิ่งมะม่วงที่สูงแล้วกระโจนลงบนหลังพญาวานรแล้วก็หนีไป ทำให้พญาวานรได้รับทุกขเวทนาอย่างสาหัส พระเจ้าพรหมทัตทอดพระเนตรเห็นเหตุการณ์ก็ดำริว่าวานรแม้เป็นสัตว์เดรัจฉานแต่พยายามทำให้บริวารพ้นอันตรายโดยไม่ได้อาลัยแก่ชีวิตตนเอง พระองค์พอพระทัยพญาวานรยิ่งนัก
พอรุ่งเช้าจึงให้พนักงานนำพญาวานรไปบริบาลรักษาและจัดที่ให้นอน พระองค์ประทับบนอาสนะที่ต่ำกว่าแล้วตรัสถามเรื่องราว พญาวานรโพธิสัตว์เล่าว่าวานรทั้งหลายไต่หลังตนต่อกับเถาวัลย์หนีไปได้หมด ยกเว้นตนเพียงผู้เดียวที่ถูกจับเพราะไม่อาจกระโจนถอยหลังกลับไปสู่กอไผ่ได้ ตนเป็นหัวหน้าฝูงวานร มีหน้าที่ต้องช่วยบริวารเมื่อมีทุกข์ภัยแม้ตนจะต้องตายก็ตาม เช่นเดียวกับผู้เป็นพระราชาพึงทำนุบำรุงประเทศให้ประชาชนอยู่ร่มเย็นเป็นสุขทั่วหน้ากัน พระเจ้าพาราณสีพอพระทัยในโอวาทของพญาวานรโพธิสัตว์จึงไม่คิดทำร้าย
แต่ในที่สุดพญาวานรบอบช้ำมากจึงสิ้นชีวิต พระเจ้าพาราณสีให้จัดพิธีเผาศพอย่างพระศพพระราชาแล้วให้บรรจุอัฐิ กระทำมหกรรมฉลองบูชาอัฐิธาตุ 7 วันแล้วบรรจุในอนุสาวรีย์ พระเจ้าพาราณสีปกครองบ้านเมืองโดยธรรมและบำเพ็ญกุศลเป็นนิจตามโอวาทของพญาวานรโพธิสัตว์ เมื่อสิ้นพระชนม์ก็ได้ไปบังเกิดในเทวโลก
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory