โกฏสิมพลีเป็นตัวละครในเรื่องโกฏสิมพลิชาดก สัตตกนิบาต ในนิบาตชาดก เป็นรุกขเทวดาประจำต้นงิ้ว เป็นพระโพธิสัตว์
ครั้งพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติเมืองพาราณสี พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นรุกขเทวดาอยู่ในต้นงิ้วใหญ่ จึงได้ชื่อว่าโกฏสิมพลี เวลานั้นมีพญาครุฑจำแลงกายให้ใหญ่ราว 150 โยชน์กระพือปีกแหวกน้ำเป็นช่องลงไปในมหาสมุทร จับพญานาคกายยาว 1,000 วาคาบพาบินตรงไปยังต้นงิ้ว ฝ่ายพญานาคถูกจับหัวห้อยอยู่คิดหาทางรอดด้วยการเกี่ยวต้นไทรรัดด้วยขนดกายจนต้นไทรถอนขึ้น พญาครุฑพาพญานาคพร้อมต้นไทรบินไปถึงต้นงิ้ว วางพญานาคบนค่าคบไม้ ฉีกท้องกินมันข้นแล้วทิ้งซากลงในมหาสมุทร ในต้นไทรนั้นมีนางนกเกาะอยู่ตัวหนึ่ง เมื่อพญาครุฑทิ้งต้นไทรลงนางนกก็โผออกไปซ่อนอยู่ที่ค่าคบไม้งิ้ว รุกขเทวดาโพธิสัตว์เห็นก็ดำริว่าถ้านางนกถ่ายมูลไว้ที่ค่าคบไม้ ต่อไปต้นไทรก็จะงอกคลุมต้นงิ้วทำให้วิมานของตนวินาศ รุกขเทวดาเกิดความหวั่นไหวทำให้ต้นงิ้วสั่นสะเทือนไปทั้งต้น พญาครุฑสงสัยจึงถามรุกขเทวดาโกฏสิมพลีว่าเมื่อรองรับทั้งครุฑและนาคซึ่งมีขนาดใหญ่พร้อมกันต้นงิ้วไม่สั่นไหว แต่เมื่อรองรับนางนกซึ่งตัวเล็กกว่าเหตุใดจึงเกรงกลัว รุกขเทวดาตอบว่าเพราะนางนกกินพืชซึ่งมีเมล็ด ถ้าถ่ายมูลแล้วจะเกิดเป็นต้นไม้อื่นๆ ปกคลุมทำให้ต้นงิ้วเป็นอันตรายได้ พญาครุฑได้ฟังก็สรรเสริญว่าโกฏสิมพลีมีปัญญาเล็งเห็นภัยในอนาคต ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า แล้วพญาครุฑก็สำแดงอานุภาพให้นางนกหนีไปจากต้นงิ้วนั้น