โลโก้ของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธรLogo
logo
  • หน้าหลัก
  • วรรณคดี
  • ผู้แต่ง
  • ตัวละครและปกิณกะ
  • เกี่ยวกับโครงการ
    • เกี่ยวกับโครงการ
    • เกี่ยวกับโครงการ
    • นโยบายการใช้งาน
    • ติดต่อเรา
    • ศมส
ขยายขนาดตัวอักษร

ตัวละครและปกิณกะ

  1. หน้าหลัก
  2. ตัวละครและปกิณกะ
  3. พรหมนารท

พรหมนารท

  • พรหมนารท
  • ชื่อตัวละคร
รหัสข้อมูล
TLD-003-2759
ชื่อ
พรหมนารท ( ชื่อตัวละคร)
วรรณคดี
พรหมนารทชาดก   นิบาตชาดก  
คำอธิบายเนื้อเรื่อง
พรหมนารทเป็นตัวละครในเรื่องพรหมนารทชาดก  มหานิบาต  ในนิบาตชาดก  เป็นพรหมโพธิสัตว์
 
นานมาแล้วพระเจ้าอังคติราช*ครองเมืองมิถิลา*  พระองค์ตั้งอยู่ในสุจริตธรรม  มีพระธิดาทรงนามรุจา*ทรงโฉมงดงาม  พระนางได้ทรงตั้งปณิธานไว้สิ้นแสนกัลป์จึงได้มาเกิดในครรภ์พระมเหสี  พระบิดาโปรดมากประทานผ้าเนื้อละเอียดกับผอบดอกไม้ 25 ผอบทุกวัน  และทุกกึ่งเดือนพระบิดาจะประทานทรัพย์พันหนึ่งเพื่อให้พระธิดาทำทาน  พระเจ้าอังคติราชมีอำมาตย์ผู้ใหญ่ 3 คน คือ วิชยอำมาตย์*  สุนามอำมาตย์*  และอลาตอำมาตย์*
 
คืนวันเพ็ญพระเจ้าอังคติราชทอดพระเนตรพระจันทร์เต็มดวงพร้อมด้วยข้าราชบริพารมากมาย  ทรงเบิกบานพระทัยถามว่าควรจะเพลิดเพลินกันอย่างไรดี  อลาตอำมาตย์ทูลให้เตรียมพลทั้ง 4 เหล่าโจมตีเมืองต่างๆ ให้เข้ามาอยู่ในอำนาจ  ที่ทูลเช่นนั้นเพราะตนชอบเพลิดเพลินด้วยการรบ  สุนามอำมาตย์ค้านว่าขณะนี้พระองค์ไม่มีศัตรู  เมืองต่างๆ สวามิภักดิ์แล้ว วันนี้ควรจัดเลี้ยงเพลิดเพลินด้วยเรื่องกามคุณและฟ้อนรำประโคมดนตรี  วิชยอำมาตย์ทูลว่าพระองค์มีกามคุณบำเรออยู่เป็นนิตย์แล้ว  ดังนั้นควรไปหาสมณพราหมณ์ที่รู้ธรรมให้ช่วยขจัดความสงสัยจะดีกว่า  พระเจ้าอังคติราชทรงเห็นด้วยจึงถามหาผู้ที่รู้อรรถธรรม  อลาตอำมาตย์ทูลว่ามีอเจลกะ (นักบวชเปลือย) ชื่อคุณาชีวก*อยู่ที่มิคทายวันเป็นนักปราชญ์  พระราชาพร้อมหมู่อำมาตย์และผู้ตามเสด็จจึงไปหาคุณาชีวกแล้วถามว่าบุคคลควรประพฤติต่อบิดามารดา  อาจารย์  สมณพราหมณ์และผู้คนในชนบทอย่างไร  เหตุใดผู้ประพฤติธรรมจึงไปสู่สุคติ  และเหตุใดผู้ที่มิได้ตั้งอยู่ในธรรมจึงตกนรก  คุณาชีวกเป็นผู้เปลือยกาย  หาสิริไม่ได้  ทั้งยังเป็นผู้เบาปัญญาเมื่อถูกถามเช่นนั้นก็ไม่สามารถจะตอบให้ตรงข้อคำถามได้  คุณาชีวกทูลว่าผลแห่งกรรมที่ประพฤติแล้วไม่มีบุญ  ไม่มีบาป  ไม่มีปรโลก  (โลกหน้า)  สัตว์เสมอกันหมดไม่มีประเสริฐกว่ากัน  การให้ทานและบาปล้วนไม่มีผล  อลาตอำมาตย์ทูลเสริมว่าตนระลึกชาติได้ชาติหนึ่งคือชาติก่อนตนเกิดเป็นคนฆ่าโคชื่อปิงคละ ฆ่าสัตว์มากมาย  ชาตินี้มาเกิดเป็นอำมาตย์มีทรัพย์มาก  ฉะนั้นบาปไม่มีผลแน่
 
แท้ที่จริงเมื่อครั้งพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า อลาตได้บูชาพระเจดีย์ด้วยพวงดอกอังกาบ  เมื่อตายลงเกิดใหม่มีผลบาปกรรมทำให้เกิดในตระกูลฆ่าโค  เพราะบุญที่บูชาเจดีย์ยังไม่ส่งผล  ต่อมาด้วยอานุภาพแห่งบุญ ทำให้ได้เกิดเป็นอำมาตย์ระลึกชาติได้ชาติหนึ่ง  จึงไม่รู้ผลกรรมในชาติก่อนๆ  ครั้งนั้นมีทาสผู้หนึ่งชื่อวีชก*เป็นผู้รักษาอุโบสถศีล  ได้อยู่ในสำนักคุณาชีวกขณะนั้นด้วย  ได้ยินแล้วก็ร้องไห้  พระราชาจึงถามเหตุที่ร้องไห้  วีชกตอบว่าชาติก่อนตนเป็นเศรษฐีในเมืองสาเกต  ทำทานไม่เคยทำบาป  เมื่อตายแล้วมาเกิดในครรภ์ของนางกุมภทาสี  ยากจนมาตลอด  แม้กระนั้นก็ยังแบ่งอาหารครึ่งหนึ่งให้แก่คนที่ต้องการ  รักษาศีล 8 ในวันอุโบสถ  แต่ก็ยังไม่เห็นทางที่จะไปสู่สุคติ  เมื่อได้ยินคำพูดของคุณาชีวกจึงร้องไห้  อันที่จริงในสมัยพระพุทธกัสสปะ  วีชกเกิดเป็นนายโคบาล  วันหนึ่งโคหายจึงเที่ยวตามหา  เขาไปพบภิกษุหลงทางรูปหนึ่ง  เมื่อท่านถามทาง วีชกแกล้งนิ่งเสีย  เมื่อภิกษุถามซ้ำก็ด่าว่า  กรรมนั้นยังไม่ส่งผลในชาตินั้น  เมื่อตายกรรมอื่นก็ตามสนองท่องเที่ยวอยู่ในวัฏสงสารตามกำลังของกรรม  กุศลอันหนึ่งทำให้เขามาเกิดเป็นเศรษฐี  กรรมที่ด่าภิกษุเพิ่งมาส่งผลให้เป็นทาสในชาตินี้  แต่วีชกระลึกชาติได้ชาติเดียวจึงเข้าใจผิด
 
พระเจ้าอังคติราชก็ให้ประชุมเหล่าอำมาตย์แล้วบอกว่าให้พวกอำมาตย์บำเรอกามคุณ  พระองค์เองก็จะเสวยความสุขในกามคุณ  ทรงสั่งว่าไม่ต้องรายงานกิจการใดๆ แก่พระองค์  แล้วแต่ว่าใครจะวินิจฉัย  นับแต่นั้นก็ทรงมัวเมาเพลินอยู่ในกามคุณ  ทำให้เกิดการลือไปทั่วพระนครว่า พระราชาเชื่อคุณาชีวกจึงทรงถือมิจฉาทิฏฐิ  พระธิดารุจาทรงทราบว่าพระบิดาให้รื้อโรงทานที่ประตูเมืองทั้งสี่และมิได้ทรงพิจารณาพระราชกิจ  พระธิดารุจาจึงเสด็จไปเฝ้าพระบิดา  ทูลขอทรัพย์หนึ่งพันเพื่อจะทำทาน  พระเจ้าอังคติราชตอบว่าทรัพย์ที่ให้ทานนั้นเสียเปล่า  และการที่พระธิดาอดอาหารเพื่อถืออุโบสถศีลนั้นไม่ได้บุญอันใด ฉะนั้นควรเลิกถือศีลและงดทำทาน
 
พระธิดารุจาเป็นผู้รู้อดีตชาติถอยหลังไป 7 ชาติ  และรู้อนาคตอีก 7 ชาติ  พระนางจึงทูลพระบิดาว่าพระองค์เป็นผู้ที่ฉลาดไม่ควรหลงเชื่อคำสอนของชีเปลือย  นางทูลพระบิดาว่าผู้ที่สั่งสมบาปทีละน้อยๆ วันหนึ่งจะจมลงนรก  ทรงชี้ให้พระบิดาเห็นโทษของการคบปาปมิตร (มิตรชั่ว) และคุณของการคบบัณฑิตผู้เป็นกัลยาณมิตร  แล้วทรงเล่าถึงการเวียนว่ายในวัฏสงสารของพระนางเองว่าชาติที่ 7 นางเกิดเป็นบุตรช่างทองแคว้นมคธ  คบมิตรชั่วทำกรรมไว้มาก  ทำชู้กับภรรยาผู้อื่น  ชาติถัดมาบุญที่ได้เคยทำส่งให้เกิดในตระกูลเศรษฐีได้คบกัลยาณมิตร ทำกิจอันเป็นประโยชน์  รักษาศีลในวันอุโบสถ  ภายหลังบาปกรรมที่ทำเมื่อครั้งเป็นบุตรช่างทองตามมาสนอง  ต้องไปอยู่ในโรรุวนรก  ได้ทุกขเวทนาอยู่นานแล้วก็มาเกิดเป็นลาถูกตอน  ต่อจากชาติเป็นลาก็เกิดเป็นลิงป่า  ถูกพวกลิงพาไปหานายฝูง  นายฝูงจับตัวไว้แล้วกัดลูกอัณฑะ  จากชาติลิงมาเกิดเป็นโคถูกตอน  ต่อมาเกิดเป็นกะเทยในตระกูลมั่งคั่ง  ทั้งนี้เป็นเพราะผลกรรมที่ทำชู้กับภรรยาผู้อื่น  จากชาติกะเทยไปเกิดเป็นนางอัปสร  เป็นบาทบริจาริกาของพระอินทร์ แล้วเกิดต่อไปอีก 7 ชาติ  กุศลที่ทำครั้งที่เป็นบุตรเศรษฐีให้ผลเกิดเป็นผู้หญิงทั้ง 6 ชาติ  ในชาติที่ 7 จึงได้เกิดเป็นเทวดา  นางทูลว่าชายใดปรารถนาเป็นบุรุษทุกชาติต้องเว้นทำชู้กับภรรยาผู้อื่น  หญิงใดหวังจะเป็นบุรุษต่อไปทุกๆ ชาติให้ยำเกรงสามี  ผู้ใดปรารถนายศสุขอันเป็นทิพย์ให้เว้นจากบาปทั้งปวง  ประพฤติแต่สุจริตธรรมทั้งกายวาจาใจ  ทั้งสตรีและบุรุษพึงเป็นผู้ไม่ประมาท  พระธิดารุจาพยายามทูลบอกทางสุคติแก่พระชนก  ทรงขอร้องให้พระบิดาเลิกเชื่อนักบวชเปลือย  พระเจ้าอังคติราชพอพระทัยที่พระธิดาตรัสให้ฟัง แต่ยังไม่ละมิจฉาทิฐิ  พระธิดารุจาจึงนมัสการทั้งสิบทิศ  อธิษฐานอัญเชิญผู้ตั้งอยู่ในธรรม เช่น ท้าวโลกบาล  ท้าวมหาพรหม  เป็นต้น  นางทูลเชิญให้ผู้ตั้งอยู่ในธรรมมาช่วยเปลื้องมิจฉาทิฐิของพระบิดา
 
ครั้งนั้นพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นมหาพรหมมีพระนามว่านารท  พระโพธิสัตว์ทรงตรวจดูโลกก็เห็นพระธิดารุจา  จึงตั้งพระทัยไปช่วยพระธิดารุจา  ทรงแปลงเป็นฤๅษี  เหาะมายืนอยู่เบื้องพระพักตร์พระเจ้าอังคติราช  พระราชาถามถึงเหตุที่นารทฤๅษีสามารถเหาะและยืนบนอากาศได้  ฤๅษีแปลงตอบว่าสัจจะ 1  ธรรมะ 1  ทม 1  จาคะ 1  ทั้ง 4 ประการนี้ตนได้ปฏิบัติในชาติก่อน  พระราชาไม่ทรงเชื่อ  ทรงถามว่าปรโลกมีจริงหรือไม่  ถ้ามีจริงขอให้พระนารทให้เงินพระองค์ยืม 500 จะทรงใช้คืนในปรโลกหนึ่งพัน  พระนารทตอบว่าถ้าทรงมีศีลก็จะให้ยืมทรัพย์  แต่พระองค์ชั่วช้า  สิ้นชีพแล้วจะต้องลงนรก  พระนารทไม่สามารถตามไปทวงเงินคืนในนรกได้ และบอกว่าผู้ใดไม่มีศีลธรรม  ประพฤติชั่ว  เกียจคร้าน  บัณฑิตย่อมไม่ยอมให้ผู้นั้นกู้ยืมเพราะจะไม่ได้ทรัพย์คืน
 
พระพรหมนารทโพธิสัตว์ทรงเล็งเห็นว่าพระเจ้าอังคติราชทรงยึดมิจฉาทิฐิไว้มั่น  จึงจะต้องให้เห็นภัยในนรกเสียก่อน  แล้วบอกว่าถ้าพระราชาไม่ทรงละมิจฉาทิฐิจะต้องไปนรก  จะเห็นพระองค์เองถูกฝูงกา  ฝูงแร้ง  ฝูงสุนัขฉุดคร่าจิกกินในนรก  ถ้าไม่เกิดในนรกก็จะต้องไปเกิดในโลกันตนรกซึ่งเป็นที่มืดไม่รู้คืนไม่รู้วัน แล้วเล่าถึงความดุร้ายของสุนัขนรก  ความเหี้ยมโหดของนายนิรยบาล  ห่าฝนนรก ลมร้อนนรกในโลกันตนรก  พระโพธิสัตว์เล่าถึงนรกต่างๆ จนถึงเวตรณีนรกที่มีน้ำเป็นกรดร้อนไหลเชี่ยว  เต็มไปด้วยบัวเหล็กที่ใบคมกริบ  บาดร่างกายให้ขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย  และสรุปว่าใครเล่าจะไปขอทรัพย์จำนวนนั้นคืนจากพระองค์ได้  พระเจ้าอังคติราชทรงฟังแล้วเกิดความหวาดหวั่นจึงขอให้พระนารทช่วยเป็นที่พึ่ง  ขอให้พระฤๅษีสอนอรรถธรรมแก่พระองค์ซึ่งได้กระทำผิดไปแล้ว  เพื่อให้พระองค์พ้นจากนรกได้  พระนารทโพธิสัตว์ทรงแนะให้บำเพ็ญทาน  งดการใช้งานสัตว์แก่และคนชรา  ยึดมั่นอยู่ในกุศลกรรม  เมื่อแสดงธรรมถวายพระราชาให้ละมิจฉาทิฐิ  ตั้งอยู่ในศีลแล้ว  ถวายโอวาทว่านับแต่นั้นให้ทรงเลิกคบปาปมิตรและให้คบแต่กัลยาณมิตร  แล้วพรรณนาคุณของพระธิดารุจา  ให้โอวาทแก่คนทั้งหลาย  แล้วกลับไปยังพรหมโลก  พระเจ้าอังคติราชทรงตั้งอยู่ในโอวาทของพรหมนารท  ทรงละมิจฉาทิฐิ  ทำทาน  จึงได้ไปสู่สวรรค์
ผู้เรียบเรียง
วิพุธ โสภวงศ์ 
เจ้าของสิทธิ์
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
รูปแบบลิขสิทธิ์
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170
ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงวัฒนธรรม
2021 © ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
www.sac.or.th
วันจันทร์-ศุกร์ : 08.00-17.00 น.
TELEPHONE
0-2880-9429
FAX
0-2880-9332
E-MAIL
webmaster@sac.or.th
E-MAIL (งานสารบรรณ)
saraban@sac.or.th

นิสา เชยกลิ่น

นิสา เชยกลิ่น
Content Manager

ช่องทางการรับฟังความคิดเห็น
Application : Smart SAC
ประเภท
  • วรรณคดี
  • ผู้แต่ง
  • ตัวละครและปกิณกะ
เกี่ยวกับ
  • เกี่ยวกับโครงการ
  • นโยบายการใช้งาน
ติดต่อ
  • ติดต่อเรา
  • ศมส.
  • นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล
  • ประกาศความเป็นส่วนตัว
SmartSAC in App Store
SCAN ME
open in App Store
SmartSAC in Play Store
SCAN ME
open in Play Store