TLD-003-2926
พ่อค้าม้าโพธิสัตว์ (ชื่อตัวละคร)
กุณฑกกุจฉิสินธวชาดก นิบาตชาดก
พ่อค้าม้าโพธิสัตว์เป็นตัวละครในเรื่องกุณฑกกุจฉิสินธวชาดก ติกนิบาต ในนิบาตชาดก
ในสมัยพระเจ้าพรหมทัต*แห่งกรุงพาราณสี* พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นบุตรในตระกูลพ่อค้าม้า อยู่ในอุตราปถชนบท ในตำบลนี้มีพ่อค้าม้าประมาณ 500 คนซึ่งนำม้าไปขายในกรุงพาราณสี
วันหนึ่งพ่อค้าม้าคนหนึ่งนำม้า 500 ตัวไปขาย ณ กรุงพาราณสี ผ่านหมู่บ้านซึ่งมีเศรษฐีผู้หนึ่งอาศัยอยู่ แต่ต่อมาภายหลังคนในตระกูลของเศรษฐีนั้นสิ้นไปหมด เหลือแต่หญิงชราคนหนึ่งอยู่ในบ้าน พ่อค้าจึงเข้าไปขอเช่าพักอาศัยอยู่ ในวันนั้นนางลาซึ่งเป็นแม่ม้าอาชาไนยของพ่อค้าให้กำเนิดสินธวโปดก (ลูกม้า) ตัวผู้ ฝ่ายพ่อค้าเมื่อพักอยู่ได้ 2 – 3 วันก็จะออกจากบ้านหญิงชราเพื่อนำม้าไปขายพระเจ้าพรหมทัต หญิงชราทวงค่าเช่าบ้าน และขอซื้อลูกม้าด้วยเงินค่าเช่าส่วนหนึ่ง เมื่อพ่อค้ามอบลูกม้าให้ หญิงชราก็เลี้ยงดูด้วยข้าวเปลือกและหญ้าที่เหลือจากม้าทั้งหลาย และรักใคร่เหมือนลูกเกิดจากอก
ต่อมาพ่อค้าม้าโพธิสัตว์นั้นพาม้า 500 ตัวจะมาขอพักอยู่บ้านหญิงชรา ม้าทั้งหลายเมื่อเข้าใกล้ชานบ้านตรงที่ลูกม้าเคยยืนกินรำก็ได้กลิ่นลูกม้า ไม่กล้าเข้าไปเหยียบชานบ้าน พ่อค้าม้าโพธิสัตว์สังเกตเห็นก็ถามหญิงชรา หญิงชราเล่าว่าตนมีลูกม้าซึ่งขณะนี้กำลังไปเที่ยวกินอาหารข้างนอก เย็นจึงจะกลับ พ่อค้าม้าโพธิสัตว์จึงอยู่คอยดูลูกม้า เมื่อลูกม้ากลับมาเห็นท้องลูกม้าเปรอะเปื้อนไปด้วยรำ
ครั้นพิจารณาดูก็เห็นว่ามีลักษณะเป็นม้าชาติอาชาไนย จึงคิดว่าตนควรจะขอลูกม้าตัวนี้ไปเลี้ยงจึงจะเหมาะ 2 - 3 วันผ่านไป เมื่อพ่อค้าม้าโพธิสัตว์จะออกเดินทางก็ขอซื้อลูกม้าจากหญิงชรา แต่หญิงชราไม่ยอมขายบอกว่าตนรักลูกม้าตัวนี้เหมือนลูก พ่อค้าโพธิสัตว์จึงถามว่าหญิงชราเลี้ยงลูกม้าด้วยอะไร หญิงชราตอบตามความเป็นจริง พ่อค้าม้าโพธิสัตว์บอกว่าถ้าตนได้ม้าตัวนี้ไปจะให้กินอาหารผสมนมสดทุกวัน และจะจัดที่อยู่อันประดับประดางดงามให้อยู่เพื่อให้ม้ามีความสุข หญิงชราได้ฟังก็อยากให้ลูกม้ามีความสุขสำราญตามที่พ่อค้าม้าโพธิสัตว์บรรยายจึงยอมยกให้
พ่อค้าม้าโพธิสัตว์นำทรัพย์ 6 ถุง 6,000 ตำลึงมาวางไว้ 6 ที่คือ ที่ด้านเท้าม้าทั้ง 4 ด้านละถุง ที่ด้านหาง 1 ถุง และที่ด้านหัว 1 ถุง ให้หญิงชราแต่งกายใหม่ให้สะอาดเรียบร้อย แล้วให้ยืนอยู่ด้านหน้าลูกม้า ลูกม้ามองหญิงชราแล้วน้ำตาคลอ หญิงชราเห็นดังนั้นก็ร้องไห้ ยกมือลูบหลังพูดปลอบใจลูกม้าว่า การที่ตนยกให้พ่อค้าม้าโพธิสัตว์เพราะตนรักลูกม้าเหมือนลูก ถ้าไปอยู่กับพ่อค้าม้าโพธิสัตว์จะได้มีความสุขสบายมากกว่าอยู่กับตน ลูกม้าได้ยินก็ทำความเคารพหญิงชรา แล้วจากไปพร้อมกับพ่อค้าม้าโพธิสัตว์
วันรุ่งขึ้นพ่อค้าม้าโพธิสัตว์คิดจะทดลองดูว่าลูกม้าจะรู้จักประมาณตนหรือไม่จึงนำรำมาต้มกับข้าวยาคูให้กิน ลูกม้าก็ไม่กิน เมื่อพ่อค้าถาม ลูกม้าตอบว่าก่อนหน้านี้ตนยอมกินรำข้าวเพราะหญิงชราไม่รู้ว่าตนเป็นม้าดี แต่เมื่อพ่อค้าม้าโพธิสัตว์รู้ว่าตนเป็นม้าดี ยอมให้เงิน 6,000 ตำลึงแลกมาจึงไม่ควรจะเอาอาหารเช่นนี้มาให้กิน พ่อค้าม้าโพธิสัตว์บอกว่าตนต้องการจะลองใจลูกม้าเท่านั้น แล้วจัดอาหารอันมีรสมาให้ลูกม้ากิน จากนั้นก็พาเดินทางต่อไปจนถึงเมืองพาราณสี ครั้นถึงหน้าพระลานก็ให้พักม้าทั้งปวง ส่วนลูกม้านั้นก็จัดสถานที่อันสะอาดงดงามไว้ให้พักอยู่ต่างหาก เมื่อพระเจ้าพรหมทัตเสด็จมาเห็นลูกม้าได้พักอยู่ในสถานที่ที่ต่างจากม้าอื่นก็ตรัสถาม พ่อค้าม้าโพธิสัตว์ทูลว่าลูกม้านี้เป็นม้าอาชาไนยมีกำลังวังชาว่องไวหาม้าอื่นเปรียบมิได้
เมื่อพระเจ้าพรหมทัตปรารถนาจะทอดพระเนตรว่าลูกม้านี้มีความว่องไวเพียงใด พ่อค้าม้าโพธิสัตว์ก็ควบม้าแสดงให้ดู เช่น แสดงให้เห็นว่าลูกม้าวิ่งเร็วจนไม่มีใครสามารถเห็นตัวได้ โดยผูกผ้าแดงไว้ที่ท้องของลูกม้าแล้วควบไปรอบหน้าพระลาน มหาชนที่ดูอยู่ไม่เห็นม้า เห็นแต่ผ้าแดงอย่างเดียว เป็นต้น เมื่อแสดงความเร็วของลูกม้าแล้ว พ่อค้าม้าโพธิสัตว์ก็ลงจากหลังม้า ยื่นมือออกไป ลูกม้าก็ขึ้นไปยืนบนฝ่ามือได้ พระเจ้าพรหมทัตทอดพระเนตรแล้วก็โสมนัสยิ่ง ทรงตั้งให้พ่อค้าม้าโพธิสัตว์เป็นอุปราช แล้วอภิเษกลูกม้าให้เป็นมิ่งมงคลอาชาไนยเป็นที่โปรดปราน แต่นั้นมาลาภสักการะก็เกิดแก่สินธวโปดกอย่างประมาณมิได้ และนับแต่สินธวโปดกเข้ามาสู่พระบารมี ราชสมบัติและพระเกียรติยศก็เพิ่มพูน พระเจ้าพรหมทัตทรงครองราชย์อยู่ในธรรม ทรงอยู่ในโอวาทของอุปราชโพธิสัตว์ และทรงบำเพ็ญกุศลมีทานเป็นต้น ครั้นสิ้นพระชนม์ก็ได้ไปเกิดในเทวโลก
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory