โลโก้ของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธรLogo
logo
  • หน้าหลัก
  • วรรณคดี
  • ผู้แต่ง
  • ตัวละครและปกิณกะ
  • เกี่ยวกับโครงการ
    • เกี่ยวกับโครงการ
    • เกี่ยวกับโครงการ
    • นโยบายการใช้งาน
    • ติดต่อเรา
    • ศมส
ขยายขนาดตัวอักษร

ตัวละครและปกิณกะ

  1. หน้าหลัก
  2. ตัวละครและปกิณกะ
  3. พันวษา, สมเด็จพระ

พันวษา, สมเด็จพระ

  • พันวษา, สมเด็จพระ
  • ชื่อตัวละคร
รหัสข้อมูล
TLD-003-2947
ชื่อ
พันวษา, สมเด็จพระ ( ชื่อตัวละคร)
วรรณคดี
เสภา ขุนช้างขุนแผน  
คำอธิบายเนื้อเรื่อง

สมเด็จพระพันวษาเป็นตัวละครในเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน  เป็นกษัตริย์ครองกรุงศรีอยุธยา 

พระพันวษาทรงทราบข่าวว่ามีควายป่าจำนวนมากที่สุพรรณบุรี  มีพระประสงค์ประพาสป่าเพื่อล้อมจับควายป่า  รับสั่งให้ขุนไกรพลพ่าย*นายทหารฝีมือดีคุมไพร่พลไปต้อนควายมารอไว้   เหล่าพวกอาสาต้อนควายป่าด้วยการจุดไฟเผาป่าทำให้ฝูงควายพากันแตกตื่นตกใจ  พระพันวษาทรงสั่งให้ขุนไกรต้อนควายเข้าค่ายแต่ฝูงควายป่ากำลังตื่นไล่ขวิดผู้คน  ขุนไกรจึงเข้าขวางและใช้หอกแทงตายไปนับร้อย  ควายป่าที่เหลือทั้งที่ตกใจและบาดเจ็บก็พากันวิ่งเตลิดหายเข้าป่าไปหมด  พระพันวษากริ้วมากทรงสั่งประหารขุนไกร

ต่อมาเมืองเชียงทอง*มาขอขึ้นต่อกรุงศรีอยุธยา  เจ้าเชียงอินทร์*เจ้าเมืองเชียงใหม่ทราบเรื่องจึงส่งกองทัพไปล้อมเมืองเชียงทองไว้  เจ้าเมืองเชียงทองเห็นว่าจะสู้ไม่ได้จึงทำอุบายยอมอ่อนน้อมต่อกองทัพเชียงใหม่  พระยาเถิน*  พระยาระแหง*  และพระยากำแพงเพชร*ร่วมกันส่งข่าวไปยังกรุงศรีอยุธยา   พระพันวษาทรงถือว่าเจ้าเชียงใหม่*ดูหมิ่นพระองค์  ทรงระลึกถึงขุนไกรจึงทรงถามหาทายาทของขุนไกร  ขุนช้าง*ทูลว่าพลายแก้ว*บุตรขุนไกรเป็นคนมีวิชาอาคม  พระพันวษาจึงโปรดให้พลายแก้วยกทัพไปเมืองเชียงทอง  ทัพไทยได้สู้รบกับทัพเชียงใหม่ที่ล้อมเมืองเชียงทองอยู่  พลายแก้วรบชนะฆ่าฟ้าลั่น*นายทัพทำให้ทัพเชียงใหม่แตกพ่ายไป  พระพันวษาทรงตั้งให้พลายแก้วเป็นขุนแผน*  ให้คุมไพร่ 500 คน  มีหน้าที่คอยรักษาเขตแดนที่ปลายด่าน

พระพันวษารับสั่งให้ขุนแผนและขุนช้างมาฝึกหัดราชการกับจมื่นศรี*  ทั้งสองคนฝึกงานอยู่ด้วยกัน  เข้าเวรเวลาเดียวกัน  ขุนแผนและขุนช้างมีเรื่องกินใจกันอยู่เพราะระหว่างที่ขุนแผนไปราชการทัพ  ขุนช้างทำอุบายหลอกลวงจนได้นางวันทอง*ภรรยาของขุนแผนไปเป็นภรรยาของตน  แม้ขุนแผนจะโกรธแต่ก็มิได้สนใจนางวันทองเพราะเคืองแค้นนางและมีภรรยาใหม่คือนางลาวทอง*  วันหนึ่งขุนแผนได้ข่าวว่านางลาวทองป่วยต้องการไปเยี่ยมนางจึงฝากเวรไว้กับขุนช้าง  เมื่อพระพันวษารับสั่งถามถึงขุนแผน  ขุนช้างแต่งเรื่องทูลว่าขุนแผนคิดถึงภรรยามากจนต้องปีนกำแพงวังหนีไป  ทั้งนี้เพราะขุนช้างเกรงว่าขุนแผนจะแก้แค้นตนเรื่องนางวันทองจึงคิดกำจัดเสียก่อน  พระพันวษากริ้วขุนแผนมาก  จึงทรงสั่งให้พรากนางลาวทองมาอยู่ในวังและห้ามขุนแผนเข้าเฝ้า  ให้ไปตระเวนด่าน

ขุนแผนแค้นใจที่ถูกขุนช้างใส่ความให้เดือดร้อนจึงแก้แค้นด้วยการไปลักพานางวันทองหนีไป  ขุนช้างไปทูลฟ้องพระพันวษาว่าขุนแผนลักพาภรรยาของตนไป  ทั้งยังทำตัวเทียมเจ้าซ่องสุมผู้คนอยู่ในป่า  พระพันวษาโปรดให้จมื่นศรีเป็นนายทัพนำไพร่พลไปสอบสวนหาความจริง  ให้เรียกตัวขุนแผนมาเฝ้า   จะทรงตัดสินความให้อย่างยุติธรรม  จมื่นศรีจึงเกลี้ยกล่อมให้ไปเฝ้าพระพันวษา  ขุนแผนไม่ยอมไปเพราะเกรงพระอาญา  ขุนเพชรและขุนรามอินทรานายทัพปีกซ้ายและปีกขวาพากันบริภาษและก้าวร้าวขุนแผนไปถึงบิดามารดา  ทำให้ขุนแผนโกรธจึงฆ่านายทัพทั้งสองแล้วพานางวันทองหนีไป  พระพันวษาทรงทราบเรื่องทั้งหมดจึงทรงสั่งไปตามหัวเมืองต่างๆ ให้จับเป็นขุนแผนและนางวันทอง

ต่อมาขุนแผนตัดสินใจขอลุแก่โทษ  พระพันวษาโปรดให้สอบสวนเมื่อปรากฏว่าขุนช้างเป็นผู้ผิดก็ทรงตัดสินให้ขุนแผนชนะความ  ประทานนางวันทองคืนแก่ขุนแผน  รับสั่งให้ปรับขุนช้างรวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องในการวางอุบายครั้งนั้นและอภัยโทษให้ขุนแผน

ต่อมาขุนแผนคิดถึงนางลาวทองจึงขอร้องจมื่นศรีให้ไปทูลขอนางให้ตน  พระพันวษากริ้วมากด้วยทรงเห็นว่าขุนแผนนั้น “กำเริบ” ไม่รู้จักพอ  จึงทรงสั่งจำคุกขุนแผน  ฝ่ายขุนช้างได้โอกาสพาพวกมาฉุดนางวันทองพากลับไปเป็นภรรยาของตนอีก

เจ้าเมืองเชียงใหม่ได้ข่าวความงามของนางสร้อยทอง*ธิดาเจ้าล้านช้างจึงส่งสารไปขอนางมาเป็นสนม  เจ้าล้านช้างไม่พอใจเพราะเจ้าเชียงใหม่มีมเหสีและยังมีนางสนมอยู่เป็นอันมากแล้ว  จึงปฏิเสธโดยอ้างว่านางยังเป็นเด็กแต่ก็เกรงจะถูกเชียงใหม่ยกทัพมาโจมตีจึงส่งสารมาเจริญไมตรีกับอยุธยา  โดยขอถวายธิดาคือนางสร้อยทองให้พระพันวษา  พระพันวษาทรงปรึกษากับเหล่าขุนนางแล้วทรงรับไมตรีและทรงส่งพระท้ายน้ำ*คุมพล ๕๐๐ นายไปรับนางสร้อยทอง  เจ้าเชียงใหม่รู้ข่าวก็ส่งกองทัพมารบชิงนางไป  แล้วส่งสารมาท้าทายพระพันวษา  พระพันวษากริ้วมากจะทรงยกทัพไปเอง  เหล่าขุนนางพากันทูลทัดทานแต่ก็ไม่มีใครอาสาไปรบ  พลายงาม*บุตรขุนแผนซึ่งเกิดจากนางวันทองจึงอาสาไปรบและทูลขอประทานโทษบิดาซึ่งถูกจำขังอยู่  พลายงามทูลขอขุนแผนไปเป็นที่ปรึกษาการทัพ  พระพันวษาโปรดให้ตามที่ทูลขอ  ขุนแผนทูลขอนักโทษ ๓๕ คนไปรบ  พระพันวษาโปรดให้คนเหล่านั้นแสดงความสามารถของตนหน้าที่นั่ง  เมื่อเห็นฝีมือแล้วจึงทรงอนุญาต

พลายงามและขุนแผนรบชนะศึกเชียงใหม่  พระพันวษาประทานยศให้พลายงามเป็นจมื่นไวยวรนารถ*  และให้ขุนแผนเป็นพระสุรินทฦๅไชย* เจ้าเมืองกาญจนบุรี  ทั้งสองคนนำตัวเจ้าเชียงใหม่พร้อมมเหสีและธิดาคือนางสร้อยฟ้า*รวมทั้งนางสร้อยทองมาถวายพระพันวษา  เจ้าเชียงใหม่ยอมอ่อนน้อมโดยดี  พระพันวษาจึงโปรดให้กลับไปครองเมืองเชียงใหม่ตามเดิม  เมื่อนางสร้อยฟ้าและนางสร้อยทองเข้าเฝ้า  พระพันวษาโปรดนางสร้อยทองผู้งดงามและสงบเสงี่ยมเรียบร้อย  ไม่โปรดนางสร้อยฟ้าซึ่งทรงเห็นว่าหลุกหลิกปราดเปรียว  พระองค์ประทานนางสร้อยฟ้าแก่จมื่นไวยวรนารถ  รับสั่งอย่างถนอมน้ำใจเจ้าเมืองเชียงใหม่ว่าจมื่นไวยเป็นนายทหารที่พระองค์โปรดและจะทรงถือเสมือนว่าทรงเป็นบิดาของนางสร้อยฟ้า  เมื่อจมื่นไวยแต่งงานกับนางศรีมาลา*  พระพันวษาก็ประทานนางสร้อยฟ้าให้ทรงวอไปอย่างสมเกียรติในวันเดียวกัน

ในงานแต่งงานของจมื่นไวย  ขุนช้างเมาอาละวาดพูดล่วงเกินจึงถูกจมื่นไวยและพวกรุมทำร้าย  ขุนช้างไปทูลฟ้องและใส่ความว่าจมื่นไวยท้าทายไปถึงพระพันวษาด้วย  พระองค์ทรงพิเคราะห์แล้วมีดำริว่าจมื่นไวยคงจะทำร้ายขุนช้างจริงแต่ไม่ทรงเชื่อว่าจมื่นไวยจะท้าทายมาถึงพระองค์  โปรดให้สอบถามขุนนางที่ไปร่วมงาน  ทุกคนให้การตรงกันว่าไม่มีการท้าทายแต่ขุนช้างพูดดูหมิ่นและรื้อฟื้นเรื่องทำร้ายจมื่นไวยสมัยเด็ก  ขุนช้างไม่ยอมรับเรื่องที่ตนทำร้ายจมื่นไวยเมื่อยังเยาว์  เมื่อไม่มีพยานหลักฐานคดีนี้จึงต้องพิสูจน์กันตามกฎหมาย  คือให้คู่กรณีดำน้ำแข่งกัน  ใครทนอยู่ได้นานกว่าเป็นฝ่ายชนะและเป็นผู้บริสุทธิ์  พระพันวษารับสั่งให้คู่ความดำน้ำตามเกณฑ์  ขุนช้างเป็นฝ่ายแพ้จึงถูกจองจำและรอวันที่จะถูกประหาร   นางวันทองไปอ้อนวอนลูกชายคือจมื่นไวยให้ช่วยทูลขออภัยโทษให้  จมื่นไวยสงสารแม่ยอมไปทูลขออภัยโทษให้ขุนช้าง  พระพันวษาก็ทรงอภัยโทษให้เพราะทรงเห็นแก่จมื่นไวย

ต่อมาจมื่นไวยอยากให้มารดาและบิดาอยู่ร่วมกันจึงไปบังคับพานางวันทองจากบ้านขุนช้างมาอยู่บ้านตน  ขุนช้างถวายฎีกาในขณะที่พระพันวษาเสด็จกลับจากการประพาสทางเรือ  ขณะเรือพระที่นั่งกำลังจะเทียบท่า  ขุนช้างกระโดดน้ำลอยคอไปเกาะเรือพระที่นั่งเพื่อทูลเกล้าถวายฎีกา  พระพันวษารับสั่งให้ลงโทษเฆี่ยนขุนช้างที่กระทำอุกอาจและโปรดให้ตราไว้เป็นกฎหมายว่าต่อไปมิให้ผู้ใดบุกรุกละเมิดเข้ามาใกล้องค์พระมหากษัตริย์เช่นนั้นอีกและแม้จะทรงระอากับความช่างฟ้องของขุนช้างดังที่ทรงบริภาษว่า “นี่มันฟ้องใครอีกไอ้ชาติชั่ว”  ก็ทรงรับฎีกาไว้และทรงตัดสินความให้  ทรงสงสัยว่าพระองค์ประทานนางวันทองให้ขุนแผนแล้วเหตุใดนางจึงไปอยู่กับขุนช้างอีก  ทรงวินิจฉัยว่านางวันทองนั้นเป็นต้นเหตุแห่งความยุ่งยากทั้งมวล  ทรงประสงค์จะตัดมูลเหตุนั้นให้เด็ดขาดจึงรับสั่งให้นางวันทองเลือกว่าจะอยู่กับขุนแผน  ขุนช้าง  หรือบุตรชายคือจมื่นไวย  นางวันทองไม่ได้เลือกตามรับสั่งแต่กลับทูลความรู้สึกผูกพันที่ตนมีต่อคนทั้งสาม  พระพันวษาเข้าพระทัยว่าการที่นางไม่เลือกสามีคนใดคนหนึ่งเพราะอยากจะได้ไว้ทั้งสองคน  จึงกริ้วมากรับสั่งให้ประหารชีวิตนางวันทองเพื่อตัดปัญหา  จมื่นไวยทูลขออภัยโทษให้มารดา  พระองค์ก็ทรงยกโทษให้แต่นางถูกประหารไปแล้ว  พระพันวษาสลดพระทัยสงสารจมื่นไวยจึงประทานทรัพย์สินสิ่งของช่วยการศพนางวันทองอย่างเต็มที่

พระพันวษาต้องทรงตัดสินความอีกครั้งหนึ่งเกี่ยวกับครอบครัวของจมื่นไวย  เมื่อนางสร้อยฟ้าทำเสน่ห์ให้จมื่นไวยหลงรักตนและเกลียดชังนางศรีมาลา  ขุนแผนพยายามจะช่วยให้จมื่นไวยรู้ตัวว่าถูกทำเสน่ห์แต่จมื่นไวยไม่เชื่อซ้ำยังกล่าวล่วงเกินขุนแผน   ลำเลิกบุญคุณครั้งที่ทูลขออภัยโทษให้ขุนแผนออกจากคุก  ทำให้ขุนแผนแค้นใจมากจึงคบคิดกับพลายชุมพล*ลูกชายอีกคนหนึ่งทำอุบายให้จมื่นไวยออกไปรบ  เมื่อพระพันวษาทรงทราบก็โปรดให้ตามขุนแผนมาเฝ้า  ทรงตักเตือนจมื่นไวยและทรงไกล่เกลี่ยให้พ่อลูกคืนดีกัน  พลายชุมพลอาสาจับผู้ทำเสน่ห์   จับเถรขวาด*หมอทำเสน่ห์ได้  เถรขวาดใช้เวทมนตร์เสกปูนและพลูเป็นรูปตนและศิษย์นอนตายอยู่แล้วหนีไป   ส่วนนางสร้อยฟ้าปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา  พระพันวษาจึงโปรดให้นางสร้อยฟ้าและนางศรีมาลาลุยไฟหน้าที่นั่งเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์  นางศรีมาลาลุยไฟผ่านไปได้  นางสร้อยฟ้าไม่สามารถลุยไฟได้ นางจะต้องถูกประหาร  นางศรีมาลาทูลขออภัยโทษให้  พระพันวษาจึงโปรดให้เนรเทศแทน 

ต่อมาเถรขวาดต้องการจะแก้แค้นพลายชุมพลจึงแปลงเป็นจระเข้อาละวาดฆ่าผู้คนมาตลอดลำน้ำ  พลายชุมพลปราบเถรขวาดได้สำเร็จ  พระพันวษาจึงทรงทราบว่าเถรขวาดได้ใช้เวทมนตร์ทำทีว่าตายมาครั้งหนึ่งแล้วจึงโปรดให้ตราเป็นกฎหมายไว้ว่าต่อไปถ้าคนต้องโทษถึงแก่ความตายต้องให้มหาดเล็กและตำรวจพร้อมทั้งฝ่ายกลาโหมและมหาดไทยไปตรวจให้รอบคอบแล้วจึงให้เอาศพไปป่าช้า  รับสั่งให้พลายชุมพลประหารเถรขวาดแล้วประทานยศให้พลายชุมพลเป็นหลวงนายฤทธิ์* 

 

ผู้เรียบเรียง
วิพุธ โสภวงศ์ 
เจ้าของสิทธิ์
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
รูปแบบลิขสิทธิ์
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170
ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงวัฒนธรรม
2021 © ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
www.sac.or.th
วันจันทร์-ศุกร์ : 08.00-17.00 น.
TELEPHONE
0-2880-9429
FAX
0-2880-9332
E-MAIL
webmaster@sac.or.th
E-MAIL (งานสารบรรณ)
saraban@sac.or.th

นิสา เชยกลิ่น

นิสา เชยกลิ่น
Content Manager

ช่องทางการรับฟังความคิดเห็น
Application : Smart SAC
ประเภท
  • วรรณคดี
  • ผู้แต่ง
  • ตัวละครและปกิณกะ
เกี่ยวกับ
  • เกี่ยวกับโครงการ
  • นโยบายการใช้งาน
ติดต่อ
  • ติดต่อเรา
  • ศมส.
  • นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล
  • ประกาศความเป็นส่วนตัว
SmartSAC in App Store
SCAN ME
open in App Store
SmartSAC in Play Store
SCAN ME
open in Play Store