TLD-003-2947
พันวษา, สมเด็จพระ (ชื่อตัวละคร)
สมเด็จพระพันวษาเป็นตัวละครในเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน เป็นกษัตริย์ครองกรุงศรีอยุธยา
พระพันวษาทรงทราบข่าวว่ามีควายป่าจำนวนมากที่สุพรรณบุรี มีพระประสงค์ประพาสป่าเพื่อล้อมจับควายป่า รับสั่งให้ขุนไกรพลพ่าย*นายทหารฝีมือดีคุมไพร่พลไปต้อนควายมารอไว้ เหล่าพวกอาสาต้อนควายป่าด้วยการจุดไฟเผาป่าทำให้ฝูงควายพากันแตกตื่นตกใจ พระพันวษาทรงสั่งให้ขุนไกรต้อนควายเข้าค่ายแต่ฝูงควายป่ากำลังตื่นไล่ขวิดผู้คน ขุนไกรจึงเข้าขวางและใช้หอกแทงตายไปนับร้อย ควายป่าที่เหลือทั้งที่ตกใจและบาดเจ็บก็พากันวิ่งเตลิดหายเข้าป่าไปหมด พระพันวษากริ้วมากทรงสั่งประหารขุนไกร
ต่อมาเมืองเชียงทอง*มาขอขึ้นต่อกรุงศรีอยุธยา เจ้าเชียงอินทร์*เจ้าเมืองเชียงใหม่ทราบเรื่องจึงส่งกองทัพไปล้อมเมืองเชียงทองไว้ เจ้าเมืองเชียงทองเห็นว่าจะสู้ไม่ได้จึงทำอุบายยอมอ่อนน้อมต่อกองทัพเชียงใหม่ พระยาเถิน* พระยาระแหง* และพระยากำแพงเพชร*ร่วมกันส่งข่าวไปยังกรุงศรีอยุธยา พระพันวษาทรงถือว่าเจ้าเชียงใหม่*ดูหมิ่นพระองค์ ทรงระลึกถึงขุนไกรจึงทรงถามหาทายาทของขุนไกร ขุนช้าง*ทูลว่าพลายแก้ว*บุตรขุนไกรเป็นคนมีวิชาอาคม พระพันวษาจึงโปรดให้พลายแก้วยกทัพไปเมืองเชียงทอง ทัพไทยได้สู้รบกับทัพเชียงใหม่ที่ล้อมเมืองเชียงทองอยู่ พลายแก้วรบชนะฆ่าฟ้าลั่น*นายทัพทำให้ทัพเชียงใหม่แตกพ่ายไป พระพันวษาทรงตั้งให้พลายแก้วเป็นขุนแผน* ให้คุมไพร่ 500 คน มีหน้าที่คอยรักษาเขตแดนที่ปลายด่าน
พระพันวษารับสั่งให้ขุนแผนและขุนช้างมาฝึกหัดราชการกับจมื่นศรี* ทั้งสองคนฝึกงานอยู่ด้วยกัน เข้าเวรเวลาเดียวกัน ขุนแผนและขุนช้างมีเรื่องกินใจกันอยู่เพราะระหว่างที่ขุนแผนไปราชการทัพ ขุนช้างทำอุบายหลอกลวงจนได้นางวันทอง*ภรรยาของขุนแผนไปเป็นภรรยาของตน แม้ขุนแผนจะโกรธแต่ก็มิได้สนใจนางวันทองเพราะเคืองแค้นนางและมีภรรยาใหม่คือนางลาวทอง* วันหนึ่งขุนแผนได้ข่าวว่านางลาวทองป่วยต้องการไปเยี่ยมนางจึงฝากเวรไว้กับขุนช้าง เมื่อพระพันวษารับสั่งถามถึงขุนแผน ขุนช้างแต่งเรื่องทูลว่าขุนแผนคิดถึงภรรยามากจนต้องปีนกำแพงวังหนีไป ทั้งนี้เพราะขุนช้างเกรงว่าขุนแผนจะแก้แค้นตนเรื่องนางวันทองจึงคิดกำจัดเสียก่อน พระพันวษากริ้วขุนแผนมาก จึงทรงสั่งให้พรากนางลาวทองมาอยู่ในวังและห้ามขุนแผนเข้าเฝ้า ให้ไปตระเวนด่าน
ขุนแผนแค้นใจที่ถูกขุนช้างใส่ความให้เดือดร้อนจึงแก้แค้นด้วยการไปลักพานางวันทองหนีไป ขุนช้างไปทูลฟ้องพระพันวษาว่าขุนแผนลักพาภรรยาของตนไป ทั้งยังทำตัวเทียมเจ้าซ่องสุมผู้คนอยู่ในป่า พระพันวษาโปรดให้จมื่นศรีเป็นนายทัพนำไพร่พลไปสอบสวนหาความจริง ให้เรียกตัวขุนแผนมาเฝ้า จะทรงตัดสินความให้อย่างยุติธรรม จมื่นศรีจึงเกลี้ยกล่อมให้ไปเฝ้าพระพันวษา ขุนแผนไม่ยอมไปเพราะเกรงพระอาญา ขุนเพชรและขุนรามอินทรานายทัพปีกซ้ายและปีกขวาพากันบริภาษและก้าวร้าวขุนแผนไปถึงบิดามารดา ทำให้ขุนแผนโกรธจึงฆ่านายทัพทั้งสองแล้วพานางวันทองหนีไป พระพันวษาทรงทราบเรื่องทั้งหมดจึงทรงสั่งไปตามหัวเมืองต่างๆ ให้จับเป็นขุนแผนและนางวันทอง
ต่อมาขุนแผนตัดสินใจขอลุแก่โทษ พระพันวษาโปรดให้สอบสวนเมื่อปรากฏว่าขุนช้างเป็นผู้ผิดก็ทรงตัดสินให้ขุนแผนชนะความ ประทานนางวันทองคืนแก่ขุนแผน รับสั่งให้ปรับขุนช้างรวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องในการวางอุบายครั้งนั้นและอภัยโทษให้ขุนแผน
ต่อมาขุนแผนคิดถึงนางลาวทองจึงขอร้องจมื่นศรีให้ไปทูลขอนางให้ตน พระพันวษากริ้วมากด้วยทรงเห็นว่าขุนแผนนั้น “กำเริบ” ไม่รู้จักพอ จึงทรงสั่งจำคุกขุนแผน ฝ่ายขุนช้างได้โอกาสพาพวกมาฉุดนางวันทองพากลับไปเป็นภรรยาของตนอีก
เจ้าเมืองเชียงใหม่ได้ข่าวความงามของนางสร้อยทอง*ธิดาเจ้าล้านช้างจึงส่งสารไปขอนางมาเป็นสนม เจ้าล้านช้างไม่พอใจเพราะเจ้าเชียงใหม่มีมเหสีและยังมีนางสนมอยู่เป็นอันมากแล้ว จึงปฏิเสธโดยอ้างว่านางยังเป็นเด็กแต่ก็เกรงจะถูกเชียงใหม่ยกทัพมาโจมตีจึงส่งสารมาเจริญไมตรีกับอยุธยา โดยขอถวายธิดาคือนางสร้อยทองให้พระพันวษา พระพันวษาทรงปรึกษากับเหล่าขุนนางแล้วทรงรับไมตรีและทรงส่งพระท้ายน้ำ*คุมพล ๕๐๐ นายไปรับนางสร้อยทอง เจ้าเชียงใหม่รู้ข่าวก็ส่งกองทัพมารบชิงนางไป แล้วส่งสารมาท้าทายพระพันวษา พระพันวษากริ้วมากจะทรงยกทัพไปเอง เหล่าขุนนางพากันทูลทัดทานแต่ก็ไม่มีใครอาสาไปรบ พลายงาม*บุตรขุนแผนซึ่งเกิดจากนางวันทองจึงอาสาไปรบและทูลขอประทานโทษบิดาซึ่งถูกจำขังอยู่ พลายงามทูลขอขุนแผนไปเป็นที่ปรึกษาการทัพ พระพันวษาโปรดให้ตามที่ทูลขอ ขุนแผนทูลขอนักโทษ ๓๕ คนไปรบ พระพันวษาโปรดให้คนเหล่านั้นแสดงความสามารถของตนหน้าที่นั่ง เมื่อเห็นฝีมือแล้วจึงทรงอนุญาต
พลายงามและขุนแผนรบชนะศึกเชียงใหม่ พระพันวษาประทานยศให้พลายงามเป็นจมื่นไวยวรนารถ* และให้ขุนแผนเป็นพระสุรินทฦๅไชย* เจ้าเมืองกาญจนบุรี ทั้งสองคนนำตัวเจ้าเชียงใหม่พร้อมมเหสีและธิดาคือนางสร้อยฟ้า*รวมทั้งนางสร้อยทองมาถวายพระพันวษา เจ้าเชียงใหม่ยอมอ่อนน้อมโดยดี พระพันวษาจึงโปรดให้กลับไปครองเมืองเชียงใหม่ตามเดิม เมื่อนางสร้อยฟ้าและนางสร้อยทองเข้าเฝ้า พระพันวษาโปรดนางสร้อยทองผู้งดงามและสงบเสงี่ยมเรียบร้อย ไม่โปรดนางสร้อยฟ้าซึ่งทรงเห็นว่าหลุกหลิกปราดเปรียว พระองค์ประทานนางสร้อยฟ้าแก่จมื่นไวยวรนารถ รับสั่งอย่างถนอมน้ำใจเจ้าเมืองเชียงใหม่ว่าจมื่นไวยเป็นนายทหารที่พระองค์โปรดและจะทรงถือเสมือนว่าทรงเป็นบิดาของนางสร้อยฟ้า เมื่อจมื่นไวยแต่งงานกับนางศรีมาลา* พระพันวษาก็ประทานนางสร้อยฟ้าให้ทรงวอไปอย่างสมเกียรติในวันเดียวกัน
ในงานแต่งงานของจมื่นไวย ขุนช้างเมาอาละวาดพูดล่วงเกินจึงถูกจมื่นไวยและพวกรุมทำร้าย ขุนช้างไปทูลฟ้องและใส่ความว่าจมื่นไวยท้าทายไปถึงพระพันวษาด้วย พระองค์ทรงพิเคราะห์แล้วมีดำริว่าจมื่นไวยคงจะทำร้ายขุนช้างจริงแต่ไม่ทรงเชื่อว่าจมื่นไวยจะท้าทายมาถึงพระองค์ โปรดให้สอบถามขุนนางที่ไปร่วมงาน ทุกคนให้การตรงกันว่าไม่มีการท้าทายแต่ขุนช้างพูดดูหมิ่นและรื้อฟื้นเรื่องทำร้ายจมื่นไวยสมัยเด็ก ขุนช้างไม่ยอมรับเรื่องที่ตนทำร้ายจมื่นไวยเมื่อยังเยาว์ เมื่อไม่มีพยานหลักฐานคดีนี้จึงต้องพิสูจน์กันตามกฎหมาย คือให้คู่กรณีดำน้ำแข่งกัน ใครทนอยู่ได้นานกว่าเป็นฝ่ายชนะและเป็นผู้บริสุทธิ์ พระพันวษารับสั่งให้คู่ความดำน้ำตามเกณฑ์ ขุนช้างเป็นฝ่ายแพ้จึงถูกจองจำและรอวันที่จะถูกประหาร นางวันทองไปอ้อนวอนลูกชายคือจมื่นไวยให้ช่วยทูลขออภัยโทษให้ จมื่นไวยสงสารแม่ยอมไปทูลขออภัยโทษให้ขุนช้าง พระพันวษาก็ทรงอภัยโทษให้เพราะทรงเห็นแก่จมื่นไวย
ต่อมาจมื่นไวยอยากให้มารดาและบิดาอยู่ร่วมกันจึงไปบังคับพานางวันทองจากบ้านขุนช้างมาอยู่บ้านตน ขุนช้างถวายฎีกาในขณะที่พระพันวษาเสด็จกลับจากการประพาสทางเรือ ขณะเรือพระที่นั่งกำลังจะเทียบท่า ขุนช้างกระโดดน้ำลอยคอไปเกาะเรือพระที่นั่งเพื่อทูลเกล้าถวายฎีกา พระพันวษารับสั่งให้ลงโทษเฆี่ยนขุนช้างที่กระทำอุกอาจและโปรดให้ตราไว้เป็นกฎหมายว่าต่อไปมิให้ผู้ใดบุกรุกละเมิดเข้ามาใกล้องค์พระมหากษัตริย์เช่นนั้นอีกและแม้จะทรงระอากับความช่างฟ้องของขุนช้างดังที่ทรงบริภาษว่า “นี่มันฟ้องใครอีกไอ้ชาติชั่ว” ก็ทรงรับฎีกาไว้และทรงตัดสินความให้ ทรงสงสัยว่าพระองค์ประทานนางวันทองให้ขุนแผนแล้วเหตุใดนางจึงไปอยู่กับขุนช้างอีก ทรงวินิจฉัยว่านางวันทองนั้นเป็นต้นเหตุแห่งความยุ่งยากทั้งมวล ทรงประสงค์จะตัดมูลเหตุนั้นให้เด็ดขาดจึงรับสั่งให้นางวันทองเลือกว่าจะอยู่กับขุนแผน ขุนช้าง หรือบุตรชายคือจมื่นไวย นางวันทองไม่ได้เลือกตามรับสั่งแต่กลับทูลความรู้สึกผูกพันที่ตนมีต่อคนทั้งสาม พระพันวษาเข้าพระทัยว่าการที่นางไม่เลือกสามีคนใดคนหนึ่งเพราะอยากจะได้ไว้ทั้งสองคน จึงกริ้วมากรับสั่งให้ประหารชีวิตนางวันทองเพื่อตัดปัญหา จมื่นไวยทูลขออภัยโทษให้มารดา พระองค์ก็ทรงยกโทษให้แต่นางถูกประหารไปแล้ว พระพันวษาสลดพระทัยสงสารจมื่นไวยจึงประทานทรัพย์สินสิ่งของช่วยการศพนางวันทองอย่างเต็มที่
พระพันวษาต้องทรงตัดสินความอีกครั้งหนึ่งเกี่ยวกับครอบครัวของจมื่นไวย เมื่อนางสร้อยฟ้าทำเสน่ห์ให้จมื่นไวยหลงรักตนและเกลียดชังนางศรีมาลา ขุนแผนพยายามจะช่วยให้จมื่นไวยรู้ตัวว่าถูกทำเสน่ห์แต่จมื่นไวยไม่เชื่อซ้ำยังกล่าวล่วงเกินขุนแผน ลำเลิกบุญคุณครั้งที่ทูลขออภัยโทษให้ขุนแผนออกจากคุก ทำให้ขุนแผนแค้นใจมากจึงคบคิดกับพลายชุมพล*ลูกชายอีกคนหนึ่งทำอุบายให้จมื่นไวยออกไปรบ เมื่อพระพันวษาทรงทราบก็โปรดให้ตามขุนแผนมาเฝ้า ทรงตักเตือนจมื่นไวยและทรงไกล่เกลี่ยให้พ่อลูกคืนดีกัน พลายชุมพลอาสาจับผู้ทำเสน่ห์ จับเถรขวาด*หมอทำเสน่ห์ได้ เถรขวาดใช้เวทมนตร์เสกปูนและพลูเป็นรูปตนและศิษย์นอนตายอยู่แล้วหนีไป ส่วนนางสร้อยฟ้าปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พระพันวษาจึงโปรดให้นางสร้อยฟ้าและนางศรีมาลาลุยไฟหน้าที่นั่งเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ นางศรีมาลาลุยไฟผ่านไปได้ นางสร้อยฟ้าไม่สามารถลุยไฟได้ นางจะต้องถูกประหาร นางศรีมาลาทูลขออภัยโทษให้ พระพันวษาจึงโปรดให้เนรเทศแทน
ต่อมาเถรขวาดต้องการจะแก้แค้นพลายชุมพลจึงแปลงเป็นจระเข้อาละวาดฆ่าผู้คนมาตลอดลำน้ำ พลายชุมพลปราบเถรขวาดได้สำเร็จ พระพันวษาจึงทรงทราบว่าเถรขวาดได้ใช้เวทมนตร์ทำทีว่าตายมาครั้งหนึ่งแล้วจึงโปรดให้ตราเป็นกฎหมายไว้ว่าต่อไปถ้าคนต้องโทษถึงแก่ความตายต้องให้มหาดเล็กและตำรวจพร้อมทั้งฝ่ายกลาโหมและมหาดไทยไปตรวจให้รอบคอบแล้วจึงให้เอาศพไปป่าช้า รับสั่งให้พลายชุมพลประหารเถรขวาดแล้วประทานยศให้พลายชุมพลเป็นหลวงนายฤทธิ์*
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory