TLD-003-2959
พาราณสี, พระเจ้า 4 (ชื่อตัวละคร)
พาราณสิราชชาดก นิบาตชาดก
พระเจ้าพาราณสีเป็นตัวละครในเรื่องพาราณสิราชชาดก ในปัญญาสชาดก เป็นพระราชาครองเมืองพาราณสี เป็นพระโพธิสัตว์
ในป่าของเมืองพาราณสี ได้เกิดมีหงส์ทองสองเศียรขึ้นเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะเมื่ออดีตชาติสตรีนางหนึ่งได้ถวายบิณฑบาตแด่ภิกษุซึ่งมีพระพุทธเจ้าทรงเป็นประมุข แล้วตั้งจิตอธิษฐานว่า ขอให้นางกับสามีได้เกิดเป็นพี่น้องที่สนิทรักใคร่กัน หากแม้เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานก็ขอให้มีกายติดกันและมีสองเศียร ด้วยผลบุญที่นางทำจึงทำให้นางได้เกิดเป็นฝาแฝดกับสามีทุกชาติ และเมื่อเกิดเป็นหงส์ทองนางจึงมีกายติดกับสามีและมีสองเศียรจนเป็นที่อัศจรรย์ใจแก่ผู้ที่ได้พบเห็น
ต่อมามีนายพรานคนหนึ่งได้พบหงส์ทองสองเศียรจึงทูลพระเจ้าพาราณสี พระเจ้าพาราณสีทรงสั่งให้นายพรานไปจับหงส์ทอง โดยสัญญาจะให้ทรัพย์เป็นจำนวนมาก เมื่อนายพรานจับหงส์ทองมาถวาย พระเจ้าพาราณสีจึงประทานทรัพย์และบ้านส่วยแก่นายพราน และทรงมอบหงส์ทองแก่มเหสี ขณะที่มเหสีทรงรับหงส์ทองมาอุ้ม เศียรทั้งสองของหงส์ก็เปล่งรัศมีสีทอง พร้อมกับบันลือเสียงไพเราะจับใจ พระมเหสีพอพระทัยมาก จึงโปรดให้เลี้ยงไว้ในกรงทอง ประทานข้าวตอกและน้ำผึ้งในถาดทองทุกวัน
พระมเหสีทูลพระเจ้าพาราณสีว่าหากแยกหงส์ทองออกเป็นสองตัวได้จะเป็นการดี เพราะจะได้เลี้ยงไว้ในราชนิเวศน์ตัวหนึ่ง และเลี้ยงไว้ในสวนตัวหนึ่ง พระเจ้าพาราณสีรับสั่งแก่อำมาตย์ทั้งหลายว่าหากผู้ใดสามารถแยกหงส์ทองสองเศียรออกเป็นสองตัวได้ จะให้รางวัลอย่างงาม อำมาตย์ผู้หนึ่งทูลอาสา พระเจ้าพาราณสีจึงทรงมอบหงส์ทองให้แก่อำมาตย์
อำมาตย์นำหงส์ทองกลับไปเลี้ยงไว้อย่างดีที่เรือนของตน วันหนึ่งเมื่ออำมาตย์กลับมาจากเข้าเฝ้า ทำทีเข้าไปกระซิบความกับหงส์ฝ่ายหนึ่ง หงส์อีกฝ่ายหนึ่งจึงถามว่ากระซิบว่าอะไร หงส์ฝ่ายแรกตอบไปตามความจริงว่าได้ยินเสียงแต่จับความไม่ได้ หงส์ฝ่ายที่ถามจึงโกรธเพราะคิดว่าเพื่อนปิดบังความจริงและคิดไม่ซื่อกับตน จึงกล่าวกับเพื่อนว่าเมื่อใดที่เพื่อนมีความรักสนิทแก่ตน เมื่อนั้นตนจึงจะมีความรักสนิทแก่เพื่อน
เมื่อความไม่วางใจเกิดแก่หงส์ฝ่ายหนึ่งแล้ว อำมาตย์ก็เว้นไม่ไปพบหงส์สองสามวัน แล้วจึงกลับไปดูแลปรนเปรอหงส์ฝ่ายที่เกิดความแคลงใจ และทำกิริยาเช่นเดียวที่ทำกับหงส์อีกฝ่ายในครั้งก่อน การณ์เป็นเช่นเดียวกัน หงส์ทั้งสองฝ่ายจึงเกิดความไม่ไว้วางใจกัน และกล่าวโทษกันไปมาว่าต่างฝ่ายต่างหลงเชื่อคนที่เพิ่งพบกันชั่วระยะเวลาสั้น ๆ และลืมความดีที่มีต่อกันมาอย่างยาวนาน จนถึงขั้นทะเลาะจิกตีกันด้วยอำนาจของความโกรธอันแรงกล้า ทำให้กายแตกออกจากกัน
อำมาตย์ได้นำหงส์ทองทั้งสองไปถวายพระเจ้าพาราณสี พระเจ้าพาราณสีจึงประทานทรัพย์และบ้านส่วยแก่อำมาตย์ตามสัญญา และตรัสถามถึงวิธีการของอำมาตย์ที่ทำให้หงส์ทองกายแตกออกจากกันได้ อำมาตย์ทูลอุบายของตนให้ทรงทราบ พระเจ้าพาราณสีสลดพระทัยยิ่ง ที่หงส์ทองซึ่งเป็นเพื่อนรักใคร่สนิทกันแตกกันเพราะถูกคนยุยง เช่นเดียวกันกับประชาชนหากถือเอาแต่โทษที่จะเป็นเหตุให้แตกร้าวกันไว้ ไม่พิจารณาใคร่ครวญให้ดีก็อาจแตกร้าวกันได้เหมือนกัน
พระเจ้าพาราณสีทรงใคร่ครวญว่าเหตุของความแตกแยกนั้นมีหลายประการ แต่เหตุที่มีบุคคลยุยงนั้นนำไปสู่ความพินาศใหญ่ เพราะเป็นสิ่งที่ค่อย ๆ ก่อตัวทีละน้อยเหมือนน้ำที่ค่อย ๆ ไหลล้นบึงและพัดพาตลิ่งพัง ฉะนั้นบุคคลใดที่ถือเอาคำพูดยุยงของผู้อื่นมาไว้ในใจโดยไม่พิจารณาย่อมถึงความพินาศได้ เช่นเดียวกับบ้านเมืองหรือสกุลใดที่มั่นคงหากมีบุคคลที่ไม่เห็นแก่บาปชอบกล่าวยุยงผู้อื่น บ้านเมืองหรือสกุลนั้นก็ถึงกาลพินาศฉิบหายได้เช่นกัน
เมื่อพระเจ้าพาราณสีทรงพิจารณาเช่นนี้แล้ว จึงทรงให้จับคนชอบยุแหย่และขับไล่ออกจากเมืองเสีย และตรัสสอนประชาชนว่า ควรพิจารณาใคร่ครวญทุกสิ่งอย่างถ่องแท้แล้วจึงทำ หากไม่ใคร่ครวญแล้วทำก็จะนำความเดือดร้อนมาสู่ตน เช่นเดียวกับหงส์ทองที่เชื่อคำยุยงของอำมาตย์จึงต้องแตกแยกกัน นับแต่นั้นมาประชาชนในเมืองพาราณสีต่างก็รักใคร่ปรองดองกัน ระงับกายวาจาจิตเรียบร้อยเป็นอันดี ส่วนพระเจ้าพาราณสีก็ทรงบำเพ็ญบารมีเพื่อกาลเบื้องหน้า เมื่อสิ้นพระชนม์จึงไปเกิดยังสวรรค์ชั้นดุสิต และเมื่อถึงกาลอันควรก็ได้จุติมาเกิดในศากยวงศ์ ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory