TLD-003-3080
พุฒศรี (ชื่อตัวละคร)
พุฒศรีเป็นตัวละครในเรื่องลิลิตเพชรมงกุฎ เป็นพี่เลี้ยงของเพชรมงกุฎ*โอรสท้าวรัตน์นฤเบศร์*กับนางประภาพักตร์* เ
มื่อเพชรมงกุฎออกประพาสป่า พุฒศรีได้ตามเสด็จพร้อมกับกองทัพ เพชรมงกุฎทอดพระเนตรเห็นกวางเผือกมีลักษณะงามยิ่งก็ใคร่จะได้ไปถวายพระบิดามารดา จึงสั่งให้ไพร่พลล้อมจับ แต่กวางวิ่งหนีมาทางด้านที่เพชรมงกุฎกับพี่เลี้ยงอยู่ ทั้งสองจึงตามกวางที่ล่อให้ไล่จนพลัดหลงกับกองทัพ ขณะรอนแรมอยู่ในป่า พุฒศรีต้องคอยปลอบโยนเพชรมงกุฎมิให้เศร้าโศกหวาดกลัวภัยอันตราย ทั้งสองเดินทางมาได้ 6 วันก็เข้าเขตแดนเมืองกรรณนคร* ได้เห็นหนุ่มสาวซึ่งเพิ่งแต่งงานกำลังเดินทางไปคารวะญาติผู้ใหญ่ เพชรมงกุฎเกิดความเสน่หานางผู้ภรรยา จึงขอให้พุฒศรีช่วยให้สมปรารถนา พุฒศรีวางแผนให้เพชรมงกุฎซ่อนอยู่ในร่มไม้ทึบ แล้วเอาผ้าล้อมบังไว้ ส่วนพุฒศรีแต่งกายเป็นพราหมณ์ขี่ม้าไปหาสามีภรรยาแล้วบอกว่า ภรรยาของตนเจ็บครรภ์ใกล้คลอด ขอให้หญิงผู้ภรรยาไปช่วยข่มท้อง ชายผู้สามีหลงเชื่อ ให้ภรรยาไปช่วย เมื่อนางเข้าไปภายในผ้าที่ขึงล้อมไว้ได้เห็นเพชรมงกุฎก็ตกตะลึงในรูปโฉมอันงดงาม เพชรมงกุฎจึงได้ร่วมอภิรมย์กับนาง แล้วประทานธำมรงค์ของพระองค์แก่นาง เมื่อนางและสามีจากไป พุฒศรีจึงรู้ว่าเพชรมงกุฎได้ประทานธำมรงค์แก่นาง ก็คิดว่าไม่สมควรที่เพชรมงกุฎจะประทานให้ใครเพราะเป็นของกษัตริย์จึงตามไปขอธำมรงค์คืน นางก็ยอมคืนให้โดยดี พุฒศรีและเพชรมงกุฎเดินทางต่อมาจนถึงศาลาใกล้ท่าน้ำก็หยุดพัก พุฒศรีนอนหลับด้วยความเหนื่อยอ่อน
ส่วนเพชรมงกุฎคอยเฝ้าระวังม้า ขณะนั้นเป็นเวลาที่นางประทุมวดี*ธิดาของท้าวทันตราช*แห่งเมืองกรรณนครมาเล่นน้ำในสระกับเหล่านางสนมกำนัล เมื่อเพชรมงกุฎได้สบเนตรกับนางต่างก็มีความปฏิพัทธ์ซึ่งกันละกัน นางประทุมวดีใช้ดอกบัวทำปริศนาเกี่ยวกับตัวนางให้เพชรมงกุฎเห็น แล้วก็กลับปราสาท เพชรมงกุฎปลุกพุฒศรีเล่าปริศนาที่นางประทุมวดีแสดงให้พี่เลี้ยงฟัง พุฒศรีเฉลยปริศนาว่าการที่นางแกว่งดอกบัวเหนือเศียรเวียน 7 รอบก็เพื่อสื่อว่านางอยู่ในปราสาท 7 ชั้น การที่นางเอาดอกไม้ทัดหูก็เพื่อสื่อว่านางอยู่ที่เมืองกรรณนคร การที่นางนำดอกไม้มาขบก็เพื่อสื่อว่าพระบิดาของนางคือท้าวทันตราช และการที่นางจุมพิตดอกไม้ก็เพื่อสื่อว่านางมีความเสน่หาเพชรมงกุฎใคร่จะอยู่ร่วมด้วย เพชรมงกุฎขอให้พุฒศรีช่วยให้ตนได้สมรัก พุฒศรีจึงออกอุบายโดยทั้งสองปลอมตัวเป็นพราหมณ์เดินทางไปอาศัยอยู่กับนางคนธา*หญิงชราเฝ้าสวนผู้มีหน้าที่ร้อยมาลัยถวายนางประทุมวดี เมื่อถึงวันที่ยายคนธาจะร้อยดอกไม้ไปถวาย เพชรมงกุฎได้อาสาช่วยนางร้อย เมื่อนางประทุมวดีเห็นมาลัยมีความงามวิจิตรกว่าปกติก็รู้ว่าเป็นฝีมือของเพชรมงกุฎ จึงได้ตอบเป็นปริศนาผ่านยายคนธา พุฒศรีเป็นผู้เฉลยปริศนาให้เพชรมงกุฎรู้ความหมาย
ต่อมาเพชรมงกุฎช่วยยายคนธาร้อยดอกไม้อีก 2 ครั้ง นางประทุมวดีก็ตอบเป็นปริศนาผ่านยายคนธาทุกครั้ง และทุกครั้งพุฒศรีเป็นผู้เฉลยปริศนา ในที่สุดเพชรมงกุฎก็ได้เข้าไปอยู่ร่วมกับนางประทุมวดีในวังได้สมปรารถนา ส่วนพุฒศรีก็ยังคงพักอยู่ที่อุทยาน เวลาผ่านไป 4 วันเพชรมงกุฎคิดถึงพุฒศรีใคร่จะเสด็จกลับไปหา จึงเล่าให้นางประทุมวดีฟังว่าพี่เลี้ยงมีบุญคุณมาก เป็นผู้ช่วยให้ทั้งสองได้สมปรารถนาในความรัก นางประทุมวดีได้ฟังก็รู้ว่าพุฒศรีเป็นคนมีสติปัญญามาก เกรงว่าภายหลังจะพรากเพชรมงกุฎไปจากนาง จึงคิดจะกำจัดเสีย
เมื่อเพชรมงกุฎจะไปหาพุฒศรีนางจึงฝากอาหารใส่ยาพิษไปให้ แต่พุฒศรีรู้เท่าทันความคิดของนางจึงเอาอาหารให้สุนัขกิน สุนัขตาย เพชรมงกุฎกริ้วคิดจะไปจากนาง แต่พุฒศรีทัดทานไว้โดยให้เหตุผลว่านางประทุมวดีทำไปเพราะรักเพชรมงกุฎ จึงควรพานางกลับเมืองด้วย พุฒศรีวางแผนให้เพชรมงกุฎเสด็จกลับไปหานาง เมื่อนางบรรทมหลับสนิทก็ให้ปลดเครื่องประดับ และหยิกอุระนาง 3 แห่งแล้วกลับมาหาตน เพชรมงกุฎก็ทำตามคำแนะนำทุกประการ เมื่อได้เครื่องประดับมาแล้ว พุฒศรีก็นำมาผูกร้อยเข้าด้วยกันแล้วให้เพชรมงกุฎแต่งกายเป็นมาณพหนุ่มไปตลาดร้องแลกเครื่องประดับกับสิ่งที่จะใช้ในพิธีบูชาไฟ
ส่วนพุฒศรีเองแต่งกายเป็นดาบสแสร้งเข้าไปบำเพ็ญพรตอยู่ในป่า อำมาตย์ผู้หนึ่งเห็นเครื่องประดับที่มาณพนำมาร้องแลกเครื่องบูชาไฟก็รู้ว่าเป็นของกษัตริย์มิใช่ของสามัญชน จึงกุมตัวมาณพไปเฝ้าท้าวทันตราช เมื่อท้าวทันตราชรู้ว่าเครื่องประดับนั้นเป็นของดาบสอาจารย์ของมาณพ ก็ให้อำมาตย์ไปตามดาบสมาเฝ้า ท้าวทันตราชถามดาบสพุฒศรีว่าได้เครื่องประดับมาจากผู้ใด ดาบสพุฒศรีทูลว่าขณะตนเดินจงกรมอยู่ในป่าช้า ได้มียักษิณีมากินซากศพ เมื่อนางเห็นตนก็เข้ามาหลอกหลอน ตนจึงแทงอกนางด้วยตรีและหมายจะฆ่านาง แต่ยักษิณีวอนขอชีวิตไว้และเปลื้องเครื่องประดับให้ ตนจึงให้ศิษย์นำไปร้องแลกเครื่องบูชาไฟในตลาดเพื่อแผ่กุศลไปให้นาง ชาติหน้าจะได้ไม่ต้องเกิดเป็นยักษิณีอีก ท้าวทันตราชได้ฟังก็เศร้าพระทัยเพราะคิดว่าธิดาคือยักษิณี จึงประทานเครื่องบูชาไฟแลกเครื่องประดับไว้ หลังจากดาบสพุฒศรีและศิษย์กลับไปแล้วท้าวทันตราชก็ให้นางประทุมวดีมาเฝ้า เมื่อไม่เห็นเครื่องประดับที่นางเคยทรง พักตรที่เคยผุดผ่องก็หมองหม่น ทั้งที่อุระมีรอยช้ำโลหิต ซึ่งตรงกับเรื่องราวของยักษิณีที่ดาบสเล่าทุกประการก็กริ้ว ตรัสบริภาษว่านางประทุมวดีเป็นกาลกิณี แล้วขับไล่นางออกจากวัง
ส่วนพุฒศรีและเพชรมงกุฎรู้ข่าวก็ขี่ม้ามารอนางประทุมวดีที่นอกประตูเมืองตามแผนที่วางไว้ ครั้นนางประทุมวดีออกมา ทั้งสองก็พานางเดินทางกลับเมือง เมื่อได้พบพระบิดามารดาที่เสด็จออกมารับถึงแดนป่า เพชรมงกุฎก็ทูลเล่าเรื่องทั้งหมด และทูลว่าที่เสด็จกลับเมืองได้พร้อมกับนางประทุมวดีอย่างปลอดภัยก็ด้วยกลอุบายทั้งปวงของพี่เลี้ยงพุฒศรี
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory