TLD-003-3126
ฟ้ารั่ว, พระเจ้า (ชื่อตัวละคร)
พระเจ้าฟ้ารั่วเป็นตัวละครในเรื่องราชาธิราช เป็นปฐมกษัตริย์เมืองเมาะตะมะ* พระนามเดิมคือมะกะโท* พระนามในพระสุพรรณบัฏคือพระเจ้าฟ้ารั่ว พระนามที่ชาวมอญเรียกคือพระเจ้าวาโรตะละไตยเจริญภะตาน* และพระนามเมื่ออยู่บนสวรรค์คือสมณเทวบุตร*
ในอดีตชาติพระเจ้าฟ้ารั่วคือมหายักษ์ทั้งแปด อาศัยอยู่ ณ ป่าเมาะตะมะ เมื่อพระพุทธองค์เสด็จมายังป่าเมาะตะมะ มหายักษ์ทั้งแปดได้มีจิตศรัทธาถวายการปรนนิบัติคือ เก็บใบพลวงมาแปดใบกระทำเป็นเพดาน เอาผลพวาป่า มาทำน้ำอัฐบานถวาย ตั้งตนอยู่ในสรณาคมน์และศีลห้า พระพุทธองค์จึงทรงมีพุทธทำนายว่าในภายภาคหน้ามหายักษ์ทั้งแปดจะได้ไปเกิดบนสวรรค์และจุติลงมาเป็นกษัตริย์ ทั้งหมดได้ไปเกิดบนสวรรค์เป็นสมณเทวบุตร มหายักษ์ตนหนึ่งภายหลังพุทธกาลได้มาเกิดเป็นชาวมอญซึ่งมีบุญญาธิการมากชื่อมะกะโท
มะกะโทเป็นบุตรพ่อค้าชาวเกาะวาน แขวงเมาะตะมะ มีน้องชายชื่อมะกะตา* น้องสาวชื่อ อุ่นเรือน* มะกะโทเป็นคนมีสติปัญญาเฉลียวฉลาดและขยันหมั่นเพียร ในขณะอายุ 14 – 15 ปี บิดาเสียชีวิตจึงต้องรับภาระแทนบิดา คราวหนึ่งมะกะโทได้คุมลูกน้อง 30 คนไปค้าขาย ณ กรุงสุโขทัย* ระหว่างเดินทางเกิดนิมิตฟ้าผ่าถูกคานที่มะกะโทหาบอยู่หักถึง 3 ครั้ง เมื่อฟ้าแลบเห็นเป็นแสงสว่างด้านตะวันออกและเห็นเป็นปราสาทราชวังด้านตะวันตก มะกะโทขอให้บัณฑิตผู้หนึ่งทำนาย บัณฑิตให้เอาทรัพย์มากองสูงเพียงศีรษะก่อนจึงจะทำนายให้ มะกะโทจึงเอาเงินที่มีอยู่เพียง 30 บาทไปวางไว้บนจอมปลวก บัณฑิตเห็นว่ามะกะโทมีปัญญาจึงยอมทำนายให้ว่าจะได้เป็นใหญ่ในภายหน้า เมื่อค้าขายเรียบร้อยแล้ว มะกะโทได้ปล่อยให้ลูกน้องกลับบ้านเมือง ส่วนตนเองได้ไปอาศัยอยู่กับนายช้างพระเจ้ากรุงสุโขทัย วันหนึ่งขณะที่มะกะโทกำลังกวาดหญ้าในโรงช้างอยู่ พระร่วงเจ้าได้เสด็จไปโรงช้างได้พบมะกะโท ขณะที่พระองค์คายพระสลาบ้วนพระโอษฐ์ลงบนพื้นดิน ดินกระจายออก ทรงเห็นเบี้ยหนึ่งเบี้ยจึงให้มะกะโทเก็บไว้ มะกะโทได้ใช้เบี้ยนั้นไปซื้อพันธุ์ผักกาดมาปลูก แต่เนื่องจากเงินมีค่าน้อยจึงขอซื้อพันธุ์ผักกาดเท่าที่ติดนิ้วเดียว แล้วมะกะโทก็ใช้นิ้วชุบน้ำลายจิ้มลงในกระทายพันธุ์ ได้เมล็ดพันธุ์มาตามต้องการ เมื่อพระร่วงเจ้าเสด็จมายังโรงช้างอีกครั้ง มะกะโทก็ถวายผักกาดที่ปลูก พระร่วงเจ้าเห็นความเฉลียวฉลาดและความเพียรของมะกะโท จึงทรงนำไปชุบเลี้ยงในวังโดยให้ทำงานกับฝ่ายการครัว มะกะโททำงานอยู่ในวังอย่างขยันหมั่นเพียรจนได้เลื่อนขึ้นเป็นขุนวังมีอำนาจบังคับกิจการในวัง
ต่อมามะกะโทได้ลอบรักกับพระธิดาเทพสุดาสร้อยดาว* มะกะโทเกรงพระราชอาญาจึงพาพระธิดาหนีกลับไปเมืองวาน และเขียนหนังสือกราบทูลเรื่องราวให้ทรงทราบ การที่มะกะโทได้พระธิดาของสมเด็จพระร่วงเจ้าเป็นภรรยานั้นผู้คนทั้งหลายเห็นว่ามะกะโทมีวาสนาบารมีจึงพากันมาเป็นบริวารมากขึ้นเรื่อย ๆ ต่อมามะกะโทคิดจะเป็นใหญ่ จึงยกน้องสาวคือนางอุ่นเรือนให้เป็นภรรยาของอลิมามาง* เจ้าเมืองเมาะตะมะ การเป็นพี่เขยเจ้าเมืองทำให้มะกะโทมีพรรคพวกบริวารมากขึ้น อลิมามางจึงคิดจะฆ่ามะกะโทโดยคิดอุบายชวนมะกะโทกินเลี้ยงแล้วจะฆ่าเสีย นางอุ่นเรือนน้องสาวได้บอกความลับแก่พี่ชาย มะกะโทจึงคิดซ้อนแผนโดยให้ทหาร 70 คนเหน็บมีดซ่อนไปคนละเล่ม เมื่อมะกะโทส่งสัญญาณก็ให้ทหารฆ่าอลิมามาง เมื่อฆ่าอลิมามางได้มะกะโทก็ตั้งตนเป็นเจ้าเมืองเมาะตะมะในจุลศักราช 643
ต่อมามะกะโทคิดจะสร้างเมืองเมาะตะมะเป็นราชธานี จึงได้ให้คนนำเครื่องราชบรรณาการไปถวายสมเด็จพระร่วงเจ้า สมเด็จพระร่วงเจ้าจึงพระราชทานนามว่าพระเจ้าฟ้ารั่วเป็นปฐมกษัตริย์แห่งเมืองเมาะตะมะ พระเจ้าฟ้ารั่วกับพระเจ้าตราพระยา*แห่งเมืองพะโค*ได้เจริญสัมพันธไมตรีต่อกัน ทั้งสองพระองค์ต่างได้ถวายพระธิดาแก่กัน พระเจ้าฟ้ารั่วได้ถวายนางสินทยา*ให้พระเจ้าตราพระยา และพระเจ้าตราพระยาได้ถวายนางสุเจตละ*ให้พระเจ้าฟ้ารั่ว
ต่อมาพระเจ้าตราพระยาคิดประทุษร้ายต่อพระเจ้าฟ้ารั่ว กษัตริย์ทั้งสองพระองค์จึงได้กระทำสงครามกัน พระเจ้าตราพระยาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ในครั้งแรกนั้นพระเจ้าฟ้ารั่วทรงไว้ชีวิตพระเจ้าตราพระยาเนื่องจากมีคณะสงฆ์ได้ถวายพระพรขอชีวิต แต่พระเจ้าตราพระยายังไม่เลิกคิดการประทุษร้าย พระเจ้าฟ้ารั่วจึงทรงประหารชีวิตพระเจ้าตราพระยาในที่สุด ในจุลศักราช 655 ที่กรุงสุโขทัย เกิดมีช้างเผือกผู้ ขาวบริสุทธิ์ อยู่ต่อมาพระยาช้างไม่ยอมกินอาหาร สมเด็จพระร่วงเจ้าเมื่อเข้าบรรทมเกิดสุบินนิมิตว่าถ้าช้างเผือกยังอยู่ ณ กรุงสุโขทัยจะเกิดเหตุร้ายแรง 4 ประการ คือ พระเจ้าแผ่นดินจะพลัดพรากจากสมบัติ พระอัครมเหสีจะเกิดความวิบัติ เสนาบดีจะเกิดเหตุใหญ่ และประชาชนจะเกิดการจลาจล สมเด็จพระร่วงเจ้าจึงกระทำพิธีเสี่ยงหญ้าพระยาช้าง พระยาช้างก็จับเอาหญ้าเมืองเมาะตะมะ ขึ้นจบกระพองแล้วกิน พระร่วงเจ้าจึงส่งพระยาช้างเผือกแก่พระเจ้าฟ้ารั่ว
ฝ่ายพระเจ้าเมืองเชียงใหม่ ครั้นทราบว่าพระเจ้าฟ้ารั่วได้พระยาช้างเผือกมา จึงยกทัพมาล้อมเมืองเมาะตะมะ พระเจ้าฟ้ารั่วได้ให้พระยาช้างเผือกพ่นน้ำใส่ยังทิศที่ข้าศึกตั้งอยู่ กองทัพเมืองเชียงใหม่แตกหนีไป พระเจ้าฟ้ารั่วเป็นผู้มีบุญบารมีมาก ครั้งหนึ่งพระนัดดาของพระองค์ซึ่งประสูติจากพระเจ้าตราพระยาและนางสินทยาพระธิดา คือ ชังคีและชังแง* ได้คิดร้ายจะฆ่าพระองค์แต่กระทำการไม่สำเร็จจึงถูกประหารชีวิต พระเจ้าฟ้ารั่วสิ้นพระชนม์เมื่อครองเมืองเมาะตะมะได้ 26 ปี ในราชาธิราชระบุว่าสิ้นพระชนม์ในวันพุธ ขึ้น 6 ค่ำ เดือนยี่ จุลศักราช 675 ด้วยพระโรคเบียดเบียน
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory