TLD-003-3425
มาณพพราหมณ์ (ชื่อตัวละคร)
อัมพชาดก นิบาตชาดก
มาณพพราหมณ์เป็นตัวละครในเรื่องอัมพชาดก เตรสกนิบาต ในนิบาตชาดก
ในแผ่นดินพระเจ้าพรหมทัต*แห่งกรุงพาราณสี เกิดอหิวาตกโรคระบาดในตระกูลพราหมณ์ปุโรหิตของพระเจ้าพรหมทัต มาณพผู้เป็นบุตรปุโรหิตจึงหนีออกจากบ้านไปยังเมืองตักสิลา ศึกษาไตรเพทและศิลปศาสตร์ในสำนักทิศาปาโมกข์ เมื่อสำเร็จแล้วก็ท่องเที่ยวไปในชนบท มาถึงปัจจันตนครซึ่งมีหมู่บ้านของคนจัณฑาล ครั้งนั้นพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นคนในตระกูลจัณฑาล แต่เป็นบัณฑิตมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด รอบรู้มนตร์ที่สามารถทำให้ต้นไม้ผลิดอกออกผลนอกฤดูกาลได้
เช้าขึ้นบัณฑิตโพธิสัตว์ก็ออกไปร่ายมนตร์ได้ผลมะม่วงมาบริโภคและเก็บไปขายเลี้ยงบุตรภรรยา มาณพพราหมณ์เห็นบัณฑิตโพธิสัตว์นำมะม่วงนอกฤดูกาลมาขายก็คิดว่าคงเป็นมะม่วงที่เกิดจากเวทมนตร์ จึงใคร่จะได้มนตร์วิเศษจากบัณฑิตโพธิสัตว์ จึงสังเกตเวลาที่บัณฑิตโพธิสัตว์ยังไม่กลับจากป่า เข้าไปหาภรรยาของบัณฑิตโพธิสัตว์แล้วถามหาบัณฑิตโพธิสัตว์ เมื่อภรรยาบอกว่าสามีไปป่า มาณพพราหมณ์ก็ยืนคอย ครั้นบัณฑิตโพธิสัตว์หาบผลมะม่วงกลับมาก็เข้าไปช่วยรับหาบมาวางไว้ในบ้าน บัณฑิตโพธิสัตว์รู้ได้ว่ามาณพพราหมณ์ปรารถนาจะได้มนตร์วิเศษจากตน แต่มาณพพราหมณ์ไม่ใช่คนดีตนจะไม่ยอมให้มาณพได้เรียนรู้มนตร์ ส่วนมาณพพราหมณ์ไม่ละความพยายาม เฝ้าปรนนิบัติช่วยทำกิจการงานทุกอย่างในบ้านของบัณฑิตโพธิสัตว์อย่างไม่ย่อท้อ แม้เมื่อภรรยาบัณฑิตโพธิสัตว์จะคลอดบุตร มาณพพราหมณ์ก็เฝ้าทำบริกรรมทั้งเมื่อจะคลอดและเมื่อคลอดแล้ว
ในที่สุดภรรยาบัณฑิตโพธิสัตว์ก็ขอให้สามีสอนมนตร์แก่มาณพพราหมณ์โดยให้เหตุผลว่า เมื่อมาณพพราหมณ์ได้มนตร์ไปแล้วจะรักษามนตร์ไว้ได้หรือไม่ก็แล้วแต่จะเป็นไป บัณฑิตโพธิสัตว์จึงสอนมนตร์ให้มาณพพราหมณ์พร้อมทั้งกำชับว่าถ้าใครถามอย่าปิดบังความจริงด้วยความละอายว่าได้มนตร์มาจากอาจารย์ที่เป็นจัณฑาล มิฉะนั้นมนตร์จะเสื่อม มาณพพราหมณ์ก็รับคำ จากนั้นก็ลาบัณฑิตโพธิสัตว์ออกจากบ้านจัณฑาลคาม ทดลองมนตร์ไปตามทางจนถึงเมืองพาราณสี มาณพพราหมณ์ใช้มนตร์เสกมะม่วงไปขายจนมั่งมี
วันหนึ่งนายอุทยานซื้อมะม่วงของมาณพพราหมณ์ไปถวายพระเจ้าพรหมทัต เมื่อได้เสวยมะม่วงแล้วก็โปรดมากเพราะมีรสหวานอร่อย ตรัสถามว่าได้มาจากที่ใด เมื่อรู้ว่าเป็นมะม่วงของมาณพพราหมณ์ก็รับสั่งให้นำไปขายในวังทุกวัน และโปรดให้รับราชการจนเป็นที่โปรดปราน อยู่มาวันหนึ่งพระเจ้าพาราณสีตรัสถามมาณพพราหมณ์ว่าได้มะม่วงมาจากใคร จากพญานาค จากเทวดา หรือจากเวทมนตร์ มาณพพราหมณ์ทูลว่าได้มะม่วงมาด้วยมนตร์ของตน พระเจ้าพรหมทัตจึงใคร่จะทอดพระเนตรการแสดงพลังมนตร์ของมาณพพราหมณ์
รุ่งเช้าพระเจ้าพรหมทัตเสด็จไปที่อุทยานกับมาณพพราหมณ์เพื่อให้มาณพพราหมณ์แสดงมนตร์ให้ทอดพระเนตร เมื่อมาณพพราหมณ์แสดงมนตร์เสกมะม่วงให้ผลิดอกออกผลได้ มหาชนก็แซ่ซ้องสาธุการ พระเจ้าพรหมทัตตรัสถามว่าเรียนมาจากสำนักใด มาณพพราหมณ์เกรงว่าคนจะดูหมิ่นจึงไม่กล้าทูลว่าตนเรียนมนตร์มาจากอาจารย์จัณฑาล ทูลว่าได้เรียนมนตร์นี้จากสำนักอาจารย์ทิศาปาโมกข์ สิ้นคำทูลมนตร์ของมาณพพราหมณ์ก็เสื่อมสูญไป
ต่อมาวันหนึ่งพระเจ้าพรหมทัตจะเสวยมะม่วง แต่มาณพพราหมณ์ไม่สามารถจำมนตร์ได้จึงยืนนิ่งแข็งทื่อเหมือนท่อนไม้ เมื่อพระเจ้าพรหมทัตตรัสถามว่าเหตุใดจึงไม่ร่ายมนตร์ให้เกิดผลมะม่วง มาณพพราหมณ์ก็ทูลบ่ายเบี่ยงว่าต้องรอให้ได้ฤกษ์ยามก่อน พระเจ้าพรหมทัตทรงสงสัยเพราะครั้งก่อน ๆ มาณพพราหมณ์ไม่เคยกล่าวถึงฤกษ์ยามแต่อย่างไรจึงทรงซักถามสาเหตุที่เปลี่ยนไป
ในที่สุดมาณพพราหมณ์เกรงพระอาญาจึงทูลความจริง พระเจ้าพรหมทัตกริ้วที่มาณพพราหมณ์ไม่รู้คุณคน ตรัสติเตียนแล้วให้ราชบุรุษเฆี่ยนตีขับไล่ออกจากเมือง มาณพพราหมณ์กลับไปหาบัณฑิตโพธิสัตว์สารภาพผิดและขอมนตร์อีก แต่บัณฑิตโพธิสัตว์ปฏิเสธและขับไล่ มาณพพราหมณ์จึงเข้าป่าไปผูกคอตายอย่างอนาถ
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory