TLD-003-3426
มาณพโพธิสัตว์ 1 (ชื่อตัวละคร)
กามชาดก นิบาตชาดก
มาณพโพธิสัตว์เป็นตัวละครในเรื่องกามชาดก ทวาทสกนิบาต ในนิบาตชาดก
พระเจ้าพรหมทัตแห่งกรุงพาราณสีมีโอรส 2 องค์ ทรงแต่งตั้งโอรสองค์ใหญ่เป็นอุปราช โอรสองค์เล็กเป็นเสนาบดี เมื่อพระเจ้าพรหมทัตสิ้นพระชนม์ อำมาตย์ทั้งหลายทูลเชิญให้พระอุปราชขึ้นเสวยราชย์ แต่พระอุปราชไม่ปรารถนาจะเป็นพระราชา จึงขอให้อภิเษกพระอนุชาขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าพาราณสี พระเจ้าพาราณสีจะทรงตั้งพระเชษฐาให้เป็นอุปราชดังเดิม แต่พระเชษฐาปฏิเสธเพราะไม่ทรงปรารถนาอิสริยยศใด ๆ จากนั้นพระอุปราชก็เสด็จออกจากพระนครไปยังปัจจันตประเทศ ไปอาศัยอยู่กับเศรษฐีตระกูลหนึ่งทำงานหาเลี้ยงชีพด้วยพระองค์เอง ครั้นคนทั้งหลายรู้ว่าชายผู้นี้เป็นราชกุมารจึงไม่ให้ทำงาน ทั้งยังหาบริวารมาอยู่แวดล้อมพิทักษ์เป็นอย่างดี ต่อมาเศรษฐีขอให้ราชกุมารส่งสารไปทูลขอให้พระเจ้าพาราณสียกส่วยที่ตนต้องถวายแก่พระองค์ พระเจ้าพาราณสีก็ทรงยอมเพราะเห็นแก่พระเชษฐา ครั้นคนอื่น ๆ รู้ก็บอกว่าพวกตนจะให้ส่วยแก่ราชกุมาร ถ้าราชกุมารทูลพระเจ้าพาราณสีให้ยกส่วยที่พวกตนต้องถวายแก่พระองค์ พระเจ้าพาราณสีก็ทรงยอม ด้วยเหตุนี้ราชกุมารจึงได้ลาภสักการะมากมายจนเกิดตัณหาคือความโลภ ได้ทูลขอหมู่บ้านชนบทและตำแหน่งอุปราชจากพระเจ้าพาราณสี พระเจ้าพาราณสีก็ประทานให้ตามคำขอทุกประการ เมื่อมีตัณหาแก่กล้ายิ่งขึ้น พระเชษฐาถึงกับขอเป็นพระราชา ถ้าพระอนุชาไม่ยอมก็จะต้องทำสงครามกัน พระเจ้าพาราณสีจึงสละราชสมบัติให้พระเชษฐา เมื่อได้เป็นพระเจ้าพาราณสีแล้วก็ตั้งพระอนุชาเป็นอุปราช พระเจ้าพาราณสีนั้นเมื่อได้เป็นพระราชาเมืองหนึ่งแล้วก็ยังอยากได้เมืองอื่นมาเป็นของพระองค์อีก
วันหนึ่งท้าวสักกเทวราช (พระอินทร์) ส่องทิพยเนตรดูโลกมนุษย์ว่ามีผู้ใดเลี้ยงดูบิดามารดาบ้าง มีผู้ใดทำบุญเป็นต้นว่าบริจาคทานบ้าง และมีผู้ใดตกอยู่ในอำนาจของตัณหาบ้าง เมื่อรู้ว่าพระเจ้าพาราณสีทรงมีความอยากได้ไม่สิ้นสุดก็จะสอนให้รู้สึกสำนึกพระองค์ ท้าวสักกเทวราชจึงแปลงเป็นมาณพมาขอเฝ้าพระเจ้าพาราณสี ทูลว่าตนเห็นนคร 3 นครมั่งคั่งบริบูรณ์ด้วยสมบัติ มีผู้คนและพาหนะมากมายเหลือคณานับ ขอให้พระเจ้าพาราณสียกทัพไป แล้วท้าวสักกเทวราชก็กลับไปเทวโลก โดยที่พระเจ้าพาราณสีมิได้ทรงถามว่ามาณพชื่ออะไร เป็นใคร มาจากไหน และปรารถนาสิ่งใดเป็นเครื่องตอบแทน จึงมีรับสั่งให้อำมาตย์ไปเที่ยวตามหามาณพผู้นั้น อำมาตย์กลับมาทูลว่าไม่พบ พระเจ้าพาราณสีโทมนัสอย่างยิ่งเพราะรู้ว่าได้ทรงสูญเสียเกียรติยศที่พึงจะได้ ทรงคิดว่ามาณพคงโกรธที่พระองค์มิได้ประทานรางวัลและที่อยู่อาศัยให้จึงจากไปโดยไม่มาเฝ้าอีก ด้วยความทุกข์จากอำนาจแห่งความโลภทำให้พระเจ้าพาราณสีถึงกับประชวรหนัก ไม่มีแพทย์ใดจะรักษาพระโรคให้หายได้ ข่าวพระราชาประชวรรู้กันไปทั่วพระนคร
ในครั้งนั้นพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นมาณพ ได้ไปศึกษาศิลปศาสตร์ ณ เมืองตักสิลา ศึกษาสำเร็จแล้วก็กลับบ้าน ได้ข่าวว่าพระเจ้าพาราณสีประชวรด้วยพระโรคปรารถนาสมบัติ 3 นคร จึงเข้าไปในพระราชวังบอกอำมาตย์ว่าตนมาอาสารักษาพระเจ้าพาราณสีโดยไม่ต้องการบำเหน็จรางวัล ขอเพียงค่ายาเล็กน้อย พระเจ้าพาราณสีรู้จากอำมาตย์ก็มีรับสั่งให้เข้าเฝ้า มาณพขอให้พระเจ้าพาราณสีทรงเล่าถึงสมุฏฐานของโรค พระเจ้าพาราณสีตรัสเล่าเรื่องทั้งหมดแล้วทรงขอให้มาณพโพธิสัตว์รักษาพระองค์ มาณพโพธิสัตว์ทูลถามว่าพระเจ้าพาราณสีจะได้นครทั้งสามหรือ พระเจ้าพาราณสีตรัสว่าไม่อาจได้มา มาณพจึงทูลว่าเมื่อเป็นเช่นนั้นพระองค์จะเศร้าโศกไปไย ควรละความโศกเศร้าเสีย เพราะสัตว์โลกทั้งหลายเมื่อไปสู่ปรโลกก็ย่อมละทุกสิ่งทุกอย่างแม้แต่ร่างกายของตน แม้พระองค์จะได้ครอบครองนครถึง 4 นคร แต่ก็ไม่สามารถจะบรรทมในนครทั้งสี่และทรงเครื่องประดับ 4 ชุดพร้อมกันในคราวเดียวกันได้ ดังนั้นจะทรงมามีอันเป็นไปด้วยตัณหานั้นหาควรไม่ แล้วมาณพโพธิสัตว์ก็แสดงธรรมถวายพระเจ้าพาราณสีมีสาระสำคัญว่า ผู้มีปัญญาจะไม่ตกอยู่ด้วยอำนาจของตัณหา ผู้มีปัญญาย่อมใจเย็นไม่ร้อนรุ่มเพราะความโศกเศร้า ผู้เป็นบัณฑิตควรเจริญกสิณภาวนาเพื่อให้ฌานบังเกิด
เมื่อพระเจ้าพาราณสีทรงสดับธรรมเทศนาของมาณพโพธิสัตว์แล้วก็หายประชวร จึงจะประทานทรัพย์ 8,000 ตำลึงให้มาณพโพธิสัตว์ แต่มาณพโพธิสัตว์ปฏิเสธทูลว่าตนตัดขาดจากกามคุณแล้ว พระเจ้าพาราณสีตรัสสรรเสริญมาณพโพธิสัตว์ว่าเป็นนักปราชญ์ผู้รู้โลก มาณพโพธิสัตว์ถวายโอวาทแด่พระเจ้าพาราณสีแล้วก็ไปบวชเป็นดาบสอยู่ในป่าหิมพานต์ เจริญพรหมวิหารตราบชั่วอายุ เมื่อสิ้นชีวิตแล้วก็ได้ไปเกิดในพรหมโลก
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory