TLD-003-3513
มุทุลักขณาเทวี (ชื่อตัวละคร)
มุทุลักขณชาดก นิบาตชาดก
มุทุลักขณาเทวีเป็นตัวละครในเรื่องมุทุลักขณชาดก เอกนิบาต ในนิบาตชาดก
เมื่อพระเจ้าพรหมทัต*ครองกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นบุตรพราหมณ์ในตระกูลพราหมณ์มหาศาล เมื่อเจริญวัยเรียนศิลปศาสตร์ทั้งปวงแล้วละกามคุณออกบวชเป็นดาบสที่ป่าหิมพานต์ บำเพ็ญเพียรจนได้อภิญญาสมาบัติ มีความสุขอยู่ในฌาน วันหนึ่งดาบสโพธิสัตว์ปรารถนาจะเสพอาหารอันมีรส จึงออกจากป่ามาเมืองพาราณสี อาศัยอยู่ในอุทยาน เวลาเช้าไปภิกขาจารในเมือง เดินไปถึงประตูพระราชวัง พระเจ้าพรหมทัตทอดพระเนตรเห็นดาบส ทรงเลื่อมใส จึงนิมนต์มาถวายอาหาร แล้วอาราธนาให้พักในอุทยาน ให้ฉันภัตตาหารในเรือนหลวง มีหน้าที่สั่งสอนคนในราชตระกูลเป็นเวลาต่อเนื่องกันถึง 16 ปี
ต่อมาพระเจ้าพาราณสีทรงยกทัพไปปราบปัจจันตชนบท จึงทรงสั่งพระมเหสีมุทุลักขณาเทวีให้อุปัฏฐากพระดาบส วันหนึ่งพระนางจัดอาหารเสร็จแล้วรอพระดาบสอยู่ ก็เอนพระองค์บรรทม ฝ่ายพระดาบสเหาะเข้ามาถึงพระราชวัง พระมเหสีได้ยินเสียงเสียดสีของผ้าเปลือกไม้ก็รู้ว่าพระดาบสมา ทรงรีบลุกขึ้นทำให้พระภูษาเลื่อนลุ่ยลง พระดาบสมองผ่านทางช่องพระแกล เห็นพระราชเทวี
ในขณะนั้นกิเลสในใจของพระดาบสก็ฟุ้งซ่านหวั่นไหว ฌานก็เสื่อมสูญอันตรธาน พระดาบสรับภัตตาหารแล้วก็มิได้บริโภคในที่นั้นเหมือนเคย รีบออกจากพระราชวังไปที่บรรณศาลา ตั้งภัตตาหารไว้ มีใจผูกพันอยู่กับนาง พระดาบสนอนอยู่บนแผ่นกระดานโดยมิได้ฉัน ทิ้งอาหารไว้จนบูดเน่า มีร่างกายซูบผอม เมื่อถึงวันที่ 7 พระเจ้าพาราณสีทรงปราบปัจจันตชนบทราบคาบแล้วก็ทรงยกทัพกลับ เสด็จไปเยี่ยมพระดาบสก่อนเข้าพระราชวัง ทอดพระเนตรเห็นพระดาบสซูบผอม บรรณศาลารกเรื้อ จึงให้คนไปทำความสะอาด ปัดกวาดบรรณศาลา พระองค์เองเข้าไปนวดฟั้นเท้าของดาบส พระราชาถามดาบสว่าเป็นทุกข์ด้วยเหตุอันใด ดาบสตอบว่าตนมีจิตปฏิพัทธ์สตรีด้วยอำนาจของกิเลส เมื่อพระราชาทรงรู้ว่าดาบสปฏิพัทธ์พระนางมุทุลักขณาเทวี ก็ทรงขอให้ดาบสฉันภัตตาหาร แล้วพระองค์เสด็จเข้าพระราชวัง โปรดให้พระมเหสีแต่งพระองค์ด้วยเครื่องประดับอันงดงามเพื่อที่จะพาไปประทานแก่ดาบส ทั้งสองพระองค์รู้ว่าดาบสฟั่นเฟือนด้วยความรักหลง ก่อนจะประทานได้ทรงตกลงกับพระมเหสีว่าให้พยายามรักษาแก้ไขพระดาบสให้หายจากอาการฟั่นเฟือน ให้มีสติคืนดีดังเดิม ดาบสพาพระมเหสีออกจากพระราชวัง เมื่อจะออกจากประตูวัง พระนางบอกให้ดาบสไปทูลขอบ้าน 1 หลัง ดาบสก็ไปทูลขอบ้าน พระเจ้าพาราณสีประทานบ้านร้างให้หลังหนึ่ง ซึ่งมนุษย์ทั้งหลายอาศัยทำเป็นเวจกุฎี (ส้วม)
เมื่อพระดาบสพาพระราชเทวีไปที่นั้น พระนางไม่ยอมเข้าไป อธิบายแก่พระดาบสว่า เพราะเป็นที่ไม่สะอาด ดาบสถามว่าจะให้ทำอย่างไร พระนางบอกให้ทำความสะอาด แล้วส่งดาบสไปหาพระราชา ทูลขอเครื่องชำระล้างทำความสะอาด เมื่อพระดาบสนำเครื่องทำความสะอาดมาแล้ว พระนางก็ให้ชำระล้างสิ่งโสโครกในบ้าน แล้วให้นำมูลโคมาฉาบทาฝาบ้าน จากนั้นก็ตรัสให้ดาบสไปนำเตียงและตั่งมา แล้วพระนางก็สั่งให้ตักน้ำใส่ให้เต็มตุ่ม เตรียมน้ำสรงและที่นอนเสร็จแล้ว พระดาบสและพระราชเทวีก็ขึ้นนั่งบนเตียงนั้น พระราชเทวีทรงจับสีข้างของดาบสฉุดลากมาให้น้อมตัวลงเฉพาะพระพักตร์ของพระนาง แล้วมีพระเสาวนีย์ให้สติดาบสว่าไม่รู้หรือว่าดาบสเป็นสมณะ
ทันใดนั้นพระดาบสก็กลับได้สติคืนมาทันที ดาบสคิดว่าหากยังมีตัณหาอยู่เช่นนี้ก็ไม่อาจหลุดพ้นจากอบายได้ จึงพาพระมเหสีไปถวายคืนพระราชา แล้วกล่าวแก่พระราชาว่า เดิมเมื่อยังไม่ได้พระมเหสีก็คิดว่าทำอย่างไรตนจะได้พระนาง เมื่อได้แล้วก็มีความปรารถนาอื่นๆ เพิ่มขึ้นโดยลำดับ คือ ปรารถนาอยากจะได้บ้าน ได้อุปกรณ์เครื่องทำงาน เครื่องใช้ต่างๆ ความปรารถนาที่มากมายเช่นนี้ย่อมทำให้ไม่หลุดพ้นจากอบาย ดาบสรู้แล้วว่าการมีภรรยาไม่สมควรแก่ตน จึงถวายนางคืน และลาไปป่าหิมพานต์ ขณะนั้นฌานของดาบสที่เสื่อมไปแล้วก็บังเกิดขึ้นเช่นเดิม ดาบสแสดงธรรมถวายพระเจ้าพาราณสีแล้วเหาะไปป่าหิมพานต์ และมิได้กลับมาสู่ทางโลกอีกเลย เจริญพรหมวิหาร 4 มีฌานมั่นคง เมื่อสิ้นชีพได้ไปเกิดในพรหมโลก
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory