TLD-003-3520
เมขลา (ชื่อตัวละคร)
เมขลาเป็นตัวละครในเรื่องเฉลิมไตรภพ เป็นธิดาของท้าวมังกรการ*เจ้าพิภพบาดาลกับนางอัปสร*
นางเมขลามีรูปโฉมงดงามและมีกลิ่นกายหอม ท้าวมังกรการและนางอัปสรได้พานางเมขลาพร้อมแก้วมณี*ของวิเศษของท้าวมังกรการมาถวายพระอิศวร* พระองค์พอพระทัยและประทานพรให้บิดามารดาของนางตามที่ทูลขอ ทั้งสองรับพรแล้วถวายบังคมลาไปเสวยสุข ณ ทิพย์พิมานชั้นพรหม
พระอิศวรทรงชื่นชมยินดี โปรดปรานทั้งนางเมขลาและแก้วมณี ทรงแต่งตั้งให้นางเป็นชายาลำดับที่ 4 เนรมิตวิมานทองแก้วอันงดงามให้ และมอบหมายให้นางมีหน้าที่ดูแลรักษาแก้วมณีในวันที่มีเวรขึ้นเฝ้าพระองค์ นางเมขลาได้รับพระเมตตาจึงอยู่บนสวรรค์อย่างเป็นสุข อยู่มาวันหนึ่งนางเมขลาตามเสด็จพระอิศวรและพระอุมา* สองพระองค์ทรงพระเกษมสำราญร่วมกัน ส่วนนางนั้นต้องเดียวดาย นางจึงตัดสินใจที่จะ “เที่ยวเร่เหหน หาสุขหายทุกข์กรมใจ” ดังนั้นเมื่อถึงเวรที่นางต้องเข้าเฝ้าพระอิศวรและทำหน้าที่ทำความสะอาดแก้วมณี
ขณะที่พระอิศวรบรรทมหลับ นางจึงขโมยแก้วมณีกลับไปยังวิมานของตน วางดวงแก้วแล้วไหว้ตั้งจิตอธิษฐานรำลึกคุณบิดามารดาขอพรให้สมปรารถนาคือให้เรืองฤทธิ์เดชมิให้ผู้ใดที่ค้นหาพบเห็นตน ทั้งให้คลาดแคล้วจากเทพอาวุธทั้งหลาย และอย่าให้ชายใดมาแผ้วพาน นางเมขลาถือดวงแก้วไว้ ใช้ฤทธิ์บังตาเทวดาทั้งหลายเหาะไปดื่มและสรงน้ำอมฤต* อำนาจวิเศษของน้ำอมฤตทำให้นางมีฤทธิ์และเวทมนตร์แรงกล้า นางจึงเหาะดั้นเมฆท่องเที่ยวไปทั่วฟ้าป่าเขาถ้ำธารโดยไม่มีผู้ใดแลเห็นนาง
เมื่อนางโยนแก้วมณีเล่นก็จะแลเห็นเป็นแสงไฟปลาบแปลบแวบวับจับตา พระอิศวรโปรดให้ค้นหาและติดตามนนางเมขลาและนำแก้วมณีกลับมาแต่ก็ไม่มีผู้ใดพบเห็นนาง
พระอิศวรทรงทราบด้วยญาณว่านางเมขลากับรามสูร*จะเป็นคู่ปรับขับเคี่ยวไปตราบสิ้นโลกจึงทรงประกาศประทานนางพร้อมวิมานและทรัพย์ศฤงคารทั้งหลายเป็นรางวัลให้แก่ผู้ที่นำแก้วมณีมาถวายได้ รามสูรจึงออกติดตามนางอย่างไม่ลดละ ขู่ให้ยอมกลับไปรับโทษแต่นางไม่เกรงกลัวกลับหัวเราะเยาะและขยับแก้วมณีส่องแสงแปลบปลาบวาบตา
รามสูรขว้างขวานออกไปเสียงดังสนั่นหวั่นไหวหมายจับนางแต่ก็ไม่อาจทำอันตรายนางได้ แม้จะเพียรติดตามสักเท่าใดก็ไม่ทัน “เกือบใกล้แล้วไกลห่างไป วับแวมไวไว ตามไปแลลับกลับหลัง” นางเมขลาเล็งญาณแลเห็นอดีตชาติของรามสูร จึงกล่าวเย้ยว่ารามสูรคะนองว่าตนมีฤทธิ์ หมายจะม้วนแผ่นดินทั้งสี่ทิศจึงถูกพระนารายณ์*สังหาร แล้วมาเกิดเป็นรามสูรซึ่งมีอาวุธประจำกาย คือขวานที่ใช้ตัดฟืนนั่นเอง แต่นางนั้นมิใช่ฟืน การมุ่งจับนางจึงไม่อาจสมหวังดังนั้นควรกลับไปทำไร่ทำนาจะดีกว่า อีกทั้งตัวนางก็บรรลุ “โสดามรรคญาณ” ไม่ไยดีและไม่ปรารถนามารผู้เป็นพาลเช่นนี้
รามสูรได้ฟังวาจาของนางก็โกรธมากจึงขว้างขวานออกไปมุ่งสังหารแต่ขวานก็ไม่ต้องกายนาง นางเมขลาถือแก้วมณีเหาะท่องเที่ยวเรื่อยไป รามสูรเหาะไล่ติดตามหานางอยู่ตลอดมา เชื่อกันว่า เมื่อนางเมขลาล่อแก้วทำให้แลเห็นเป็นฟ้าแลบ และเมื่อรามสูรขว้างขวานเกิดเสียงดังกึกก้องเป็นสาเหตุของฟ้าร้องและฟ้าผ่า แก้วสว่างขวานขว้างกลางหน พะยับพยุฝน ระคนทำนุกคลุกคลี พิรุณโปรยโรยปัถพี ฤดูเดือนปี ทั้งสี่ทวีปจักรวาล
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory