TLD-003-3569
ยวะ (ชื่อตัวละคร)
มุสิกชาดก นิบาตชาดก
ยวะเป็นตัวละครในเรื่องมุสิกชาดก ปัญจกนิบาต ในนิบาตชาดก เป็นโอรสพระเจ้าพรหมทัตแห่งพาราณสี
สมัยพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติเมืองพาราณสี พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติในตระกูลพราหมณ์ ได้เป็นอาจารย์ทิศาปาโมกข์อยู่ในเมืองตักสิลา ยวกุมารได้ไปศึกษาศิลปศาสตร์ที่สำนักทิศาปาโมกข์จนสำเร็จและจะลากลับบ้านเมือง อาจารย์ทิศาปาโมกข์รู้ด้วยญาณว่าในกาลข้างหน้าพระกุมารจะเป็นอันตรายเพราะลูกก็คิดจะช่วย ในเวลานั้นม้าตัวหนึ่งของอาจารย์ทิศาปาโมกข์เป็นแผลที่เท้า คนทั้งหลายจึงนำไปไว้ที่โรงใกล้บ่อน้ำแห่งหนึ่งเพื่อรักษา มีหนูตัวหนึ่งออกมากัดแผลที่เท้าม้า วันหนึ่งม้าทนเจ็บไม่ได้ก็เตะหนูตายตกลงไปในบ่อน้ำ คนเลี้ยงม้าไม่เห็นหนูมากัดเท้าม้าอีกก็ถามว่าหนูไปไหน
ทิศาปาโมกข์โพธิสัตว์กล่าวเป็นคาถาที่ 1 ว่าหนูตายแล้วตกลงไปในบ่อน้ำ ต่อมาม้าหายดีแล้วก็ไปยังที่เก็บยวชาติ (พันธุ์ข้าวเหนียว) และเอาปากลอดเข้าไปในช่องเพื่อจะกิน อาจารย์ทิศาปาโมกข์เห็นเข้าก็กล่าวถ้อยคำเป็นคาถาที่ 2 ส่วนคาถาที่ 3 อาจารย์คิดขึ้นเองตามปัญญา ทิศาปาโมกข์โพธิสัตว์ให้ยวกุมารท่องจำคาถา 3 บทให้ขึ้นใจ สั่งความว่าเมื่อยวกุมารได้เป็นกษัตริย์แล้ว ในเวลาเย็นเมื่อจะไปสู่สระโบกขรณีซึ่งเป็นที่สรงให้ท่องคาถาแรกที่ใกล้อัฒจันทร์ก่อน เมื่อจะกลับสู่ที่ประทับในวังให้ท่องคาถาที่ 2 ที่เชิงอัฒจันทร์และเมื่อขึ้นไปอัฒจันทร์ขั้นบนให้ท่องคาถาที่ 3 ครั้นอาจารย์สั่งเสร็จแล้วก็ส่งยวกุมารกลับพาราณสี
เมื่อพระบิดาสิ้นพระชนม์พระกุมารได้ขึ้นครองราชย์มีพระนามว่าพระเจ้ายวราช* พระองค์มีโอรสองค์หนึ่งซึ่งเมื่อมีพระชนม์ได้ 16 ปีก็หาทางที่จะปลงพระชนม์พระบิดาเพื่อชิงราชสมบัติ พระโอรสถือพระขรรค์เสด็จไปยังสระโบกขรณี ในเวลาเย็นพระเจ้ายวราชสั่งให้นางพนักงานชื่อหนูไปกวาดริมสระก่อนที่พระองค์จะเสด็จลงสรง พระโอรสเกรงว่าจะมีคนล่วงรู้จึงใช้พระขรรค์ฟันนางหนูขาดเป็น 2 ท่อนแล้วโยนลงสระ นางพนักงานอื่นๆ พากันถามว่านางหนูไปไหน พระเจ้ายวราชทรงดำเนินไปที่สระและตรัสคาถาแรกว่าพระองค์ทรงรู้ว่าหนูตายตกไปในบ่อ พระโอรสนึกว่าพระเจ้ายวราชรู้ความจริงก็กลัวจึงหนีไป
ต่อมาพระโอรสคิดหาช่องทางจะปลงพระชนม์พระเจ้ายวราชอีกจึงถือพระขรรค์คอยอยู่ที่เชิงอัฒจันทร์ พระเจ้ายวราชเสด็จมาถึงก็ทรงท่องคาถาที่ 2 ว่าวันก่อนล่าหนูจนตายที่บ่อน้ำ วันนี้ปรารถนาจะกินยวชาติอีกหรือ พระโอรสคิดว่าพระบิดาเห็นก็ตกใจหลบหนีไป ต่อมาอีกครึ่งเดือนพระโอรสถือไม้ด้ามยาวคอยปลงพระชนม์พระบิดาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อพระราชาเสด็จถึงอัฒจันทร์ขั้นบนก็กล่าวคำว่า ตัวเจ้ายังเป็นเด็กหนุ่มด้อยปัญญาถือไม้ด้ามยาวยืนอยู่ จะไม่ยอมยกชีวิตให้แน่นอน พระโอรสเห็นจวนตัวไม่อาจหนีได้ก็หมอบลงที่พระบาทพระเจ้ายวราชและทูลขอประทานชีวิต พระเจ้ายวราชสั่งให้จองจำโอรสไว้ แล้วพระองค์เสด็จประทับราชอาสน์ ตรัสด้วยความยินดีว่าอาจารย์ทิศาปาโมกข์หยั่งรู้ถึงอันตรายที่จะเกิดแก่พระองค์จึงให้คาถา 3 บทนี้มา ทำให้พ้นจากมรณภัยได้ และตรัสว่าบุคคลควรศึกษาสรรพวิทยาเพราะเป็นประโยชน์แก่ผู้ศึกษาทั้งสิ้น
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory