TLD-003-0629
เข้งก๋งจู๊ (ชื่อตัวละคร)
เข้งก๋งจู๊เป็นตัวละครในบทละครเรื่องวงศเทวราช (ฉบับพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) เป็นชายาของอุ่นอ๋อง*โอรสพระเจ้ากรุงจีน* นางเข้งก๋งจู๊มีอายุมากกว่าสวามี
เมื่อพระเจ้ากรุงจีนให้อุ่นอ๋องเป็นผู้แทนไปร่วมงานพิธีอภิเษกสยุมพรของวงศเทวราช*เจ้าเมืองสมุทคีรี* อุ่นอ๋องมาลานางเข้งก๋งจู๊เพราะต้องจากไกล นางเข้งก๋งจู๊โกรธแผดเสียงร้องไห้แล้วบอกว่า
ตัวข้ามันชแรแก่เถ้า เจ้าจักปรารถนาข้าที่ไหน
จะไปหาสาวสาวพอเข้าใจ มิใช่ว่าโง่งมซมเซอะ ฯลฯ
อ้างรับสั่งตั้งหน้าเอามาขู่ ข้าก็รู้รู้อยู่รู้เสียหนัก
ท่านสั่งฤๅให้ทิ้งข้าอย่าให้รัก ให้หาสาวสมศักดิ์มาตั้งแทน ฯลฯ
ถ้าแม้นไม่ให้ไปไม่ฟังกัน จะชกหน้าให้หันประเดี๋ยวนี้
ในที่สุดอุ่นอ๋องต้องให้นางเข้งก๋งจู๊เดินทางไปด้วย อุ่นอ๋องและนางเข้งก๋งจู๊เดินทางด้วยเรือสำเภา นางเข้งก๋งจู๊เมาคลื่นแต่เข้าใจว่าตนเป็นลมเพราะเหม็นบุหรี่ ครั้นอุ่นอ๋องบอกว่านางเมาคลื่นก็โกรธ อาละวาดไล่ตีผู้คนบนเรือ อุ่นอ๋องตรงเข้าห้ามก็ถูกนางใช้ไม้คานตีที่บ่าล้มลง ครั้นนางได้สติก็ตกใจ เสียใจคร่ำครวญจนสลบ อุ่นอ๋องสั่งให้สาวใช้เฝ้าคอยปรนนิบัติพยาบาล เมื่อถึงเมืองสมุทคีรี อุ่นอ๋องให้เรือทอดสมอรออยู่ที่หน้าด่านก่อน
วงศเทวราชรู้ก็สั่งให้สังขปัด*นำบรรดาเรือกำปั่นไปลากเรือสำเภาเข้าเมือง อุ่นอ๋องได้จัดอาหารและสุราเลี้ยงดูสังขปัดจนสังขปัดเมามายกำเริบทูลขอเสื้อกางเกงขุนนางจีน อุ่นอ๋องสั่งให้ขันทีไปบอกนางเข้งก๋งจู๊จัดมาให้ ด้วยความเสียดายนางจัดหาเสื้อผ้าชั้นเลวระดับที่ฝีพายใช้ส่งไป อุ่นอ๋องต้องให้นำกลับไปเปลี่ยนถึงหกเจ็ดครั้งก็ยังไม่ได้ดังต้องการ จนสังขปัดเยาะเย้ยทวงเสื้อกางเกงจากอุ่นอ๋อง สร้างความอับอายแก่อุ่นอ๋องเป็นอย่างยิ่ง จึงไปบริภาษนางเข้งก๋งจู๊ นางโกรธตะโกนด่าว่าและจะเข้าทำร้ายสังขปัด สังขปัดหมั่นไส้จึงกระโดดกระโชกไล่จับนางเข้งก๋งจู๊ อุ่นอ๋องเข้าห้ามแล้วขอโทษว่า “ล่วยนางโทโษล้ายนัก” พร้อมทั้งถอดเสื้อที่ใส่อยู่ให้ สังขปัดจึงหายโกรธสวมเสื้อของอุ่นอ๋อง แล้วพาทั้งสองไปเฝ้าวงศเทวราช
เมื่อวงศเทวราชตรัสถามถึงความเป็นอยู่ขณะเดินทางมากลางสมุทร อุ่นอ๋องทูลว่านางเข้งก๋งจู๊เมาคลื่น ทำให้นางโกรธหาว่าอุ่นอ๋องใส่ความ ฝ่ายอุ่นอ๋องก็โกรธหาว่านางมุสาให้ตนได้อาย ทั้งสองจึงเข้าต่อยตีกันอุตลุด วงศเทวราชตรงเข้าห้ามถูกลูกหลงที่ต่างเตะกันจนล้มลง อุ่นอ๋องและนางเข้งก๋งจู๊ได้สติขออภัย หลังจากพิธีอภิเษกสยุมพรสิ้นสุดลง
ในคืนต่อมาได้มีงานสโมสรสันนิบาตเลี้ยงฉลอง บรรดาเจ้าเมืองและคู่ครองต่างก็สลับจับคู่กัน นางเข้งก๋งจู๊ได้คู่กับท้าวสุวิทธิไชย*สุลต่านแห่งเมืองสุบรรณบรรพต* รุ่งขึ้นมีงานบอลลีลาศ นางเข้งก๋งจู๊เต้นรำกับท้าวสุวิทธิไชย ตอนหนึ่งขณะเต้นรำนางเข้งก๋งจู๊สะดุดเตะธรณีประตูล้มลง ท้าวสุวิทธิไชยพยายามช่วยรั้งนางขึ้นมาแต่กลับเสียหลักล้มทับกัน ทั้งสองต่างร้องเอะอะโวยวาย ท้าวมหานพสูร*ต้องช่วยประคองให้ลุกขึ้น นางเข้งก๋งจู๊โกรธหาว่าท้าวสุวิทธิไชยแกล้งผลักตนแล้วล้มทับหวังจะให้ตายเพราะเห็นว่านางอายุมาก จะได้ไปหาคู่เต้นสาว ๆ แม้ท้าวสุวิทธิไชยจะขอโทษบอกว่าไม่ได้แกล้งแต่นางเข้งก๋งจู๊ไม่ยอม วิ่งไล่ทุบตีท้าวสุวิทธิไชยเป็นพัลวัน อุ่นอ๋องตรงเข้าห้าม นางเข้งก๋งจู๊กลับบริภาษอุ่นอ๋องว่าเข้าข้างท้าวสุวิทธิไชย ปล่อยให้ฆ่าตนเพื่อจะได้มีชายาใหม่ ทั้งสองตรงเข้าตบตีกัน
วงศเทวราชสั่งให้บรรดาเสนาห้าม เหล่าเสนาจึงตักน้ำมาสาดทั้งสองคนจนเปียกปอน อารมณ์ที่รุ่มร้อนก็คลายลง เมื่อสังขปัดเมาเข้ามาอาละวาดในงาน นางเข้งก๋งจู๊ก็ขึ้นขี่อุ่นอ๋องกลับวัง
ในคืนวันบอลสังขปัดเผาเมืองเพราะแค้นวงศเทวราชที่ขัดใจเรื่องกวินไวต์* นางเข้งก๋งจู๊กับอุ่นอ๋องลงเรือหนีไฟกลับกรุงจีน ขณะอยู่ในเรือนางเข้งก๋งจู๊คิดว่าคงเป็นแผนของทางวงศเทวราชแกล้งทำไฟไหม้เพื่อจะได้ทรัพย์สินที่ตนทิ้งไว้ จึงขอให้อุ่นอ๋องกลับไปเมืองสมุทคีรี เรียกร้องให้วงศเทวราชชดใช้ค่าเสียหาย เมื่ออุ่นอ๋องไม่เห็นด้วย นางก็โกรธเข้าตบตี ทั้งสองต่อสู้กันชุลมุน นางเข้งก๋งจู๊อายุมากกว่าจึงสู้อุ่นอ๋องไม่ได้ นางพาลอาละวาดไล่ตีขุนนางไพร่พลในเรือถึง 3 วัน อีอิ๋น*ขุนนางรู้ว่านางเข้งก๋งจู๊กลัวสังขปัด จึงออกอุบายให้เผกอุ๋น*เสนาปลอมตัวเป็นสังขปัด โดยใช้ผ้าขาวพันตัว ทาหน้าทามือทาเท้าด้วยดินสอพอง แล้วปีนขึ้นไปเกาะเสากระโดงเรือคอยเวลานางเข้งก๋งจู๊มาอาละวาด เมื่อนางมาถึง สังขปัดปลอมก็กระโดดลงไปขวางหน้าไว้ นางเข้งก๋งจู๊ตกใจคิดว่าสังขปัดตามมาจริง ๆ เลยเมาคลื่นอาเจียนเป็นลมนอนสิ้นสติ บรรดารี้พลพากันยินดีที่จะได้รอดชีวิตกลับบ้านเมือง
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory