TLD-003-3651
รถเสน 3 (ชื่อตัวละคร)
รถเสน หรือรถยเสน* หรือพระรถ*เป็นตัวละครในบทละครเรื่องพระรถเมรี เป็นโอรสของท้าวรถสิทธิ์* (รถยสิทธิ์* หรือ ยาสิทธิ์*) เจ้าเมืองขีดขิน*กับนางเภา*ซึ่งเป็นน้องสุดท้องในกลุ่มนางสิบสอง*
นางสารตรา*ยักษ์เจ้าเมืองทานตะวัน*แปลงเป็นหญิงงามไปทำเสน่ห์ให้ท้าวรถสิทธิ์หลงใหล ตั้งนางเป็นมเหสี แล้วทำอุบายว่าป่วยหนักต้องใช้ดวงตาของนางสิบสองประกอบเป็นโอสถ ท้าวรถสิทธิ์จึงให้ควักดวงตาของนางสิบสอง แล้วเนรเทศพวกนางไปอยู่ที่อุโมงค์นอกเมือง ขณะนั้นนางทั้ง 12 คนกำลังทรงครรภ์อยู่ เมื่อประสูติโอรส พี่ๆ ของนางเภาต่างแบ่งปันเนื้อโอรสกินกันประทังความหิว ส่วนนางเภานั้นลอบไปประสูติโอรสแล้วซ่อนไว้ เมื่อรถเสนเจริญวัยขึ้น ได้พบกับท้าวรถสิทธิ์ นางสารตราคิดกำจัดรถเสนจึงทำอุบายแกล้งป่วย ต้องใช้หมากงั่ว (มะงั่ว) และหมากนาว (มะนาว) จากเมืองทานตะวันเป็นยารักษา ท้าวรถสิทธิ์จึงให้รถเสนเดินทางไปนำมาถวาย ก่อนออกเดินทาง นางยักษ์เขียนสารถึงนางเมรี*ธิดาบุญธรรมให้สังหารรถเสนแล้วมอบสารให้รถเสนถือไป
เมื่อรถเสนออกเดินทางจากเมืองขีดขินไปถึงอาศรมของฤๅษีกุศล*ก็แวะพัก พระฤๅษีรู้ข้อความในสารจึงแปลงสารให้นางเมรีอภิเษกกับรถเสน ครั้นรถเสนเดินทางถึงเมืองทานตะวัน เหล่ายักษ์จะเข้าจับตัว รถเสนจึงส่งห่อสารให้ เหล่ายักษ์พารถเสนเข้าไปในเมือง รถเสนจึงได้อภิเษกกับนางเมรี แล้วขึ้นครองเมืองทานตะวัน
ต่อมารถเสนลวงนางเมรีให้พาไปชมพรรณไม้ในอุทยานเพื่อเก็บผลหมากงั่วหมากนาว ทั้งสองเข้าไปที่ตำหนักในอุทยาน รถเสนทำอุบายเลี้ยงสุราเหล่ายักษ์จนเมามาย แล้วชวนนางเมรีไปชมสวนเพียงลำพัง ระหว่างทางรถเสนถามชื่อพรรณไม้ต่างๆ จนไปถึงต้นหมากงั่วหมากนาว รถเสนก็ออกอุบายขี่ม้าวนไปรอบสวนแล้วลอบเก็บผลหมากงั่วกับหมากนาวซ่อนไว้ที่ชายภูษา ต้นไม้ทั้งสองก็ส่งเสียงร้อง นางเมรีเห็นว่าเป็นลางร้ายจึงให้ทำพิธีบวงสรวงเพื่อล้างอาเพศ รถเสนชักชวนนางเมรีดื่มเหล้าบวงสรวงจนนางเมามาย แล้วถามถึงห่อของต่างๆ ที่ห้อยอยู่ที่หลังคาตำหนัก นางบอกว่าเป็นห่อยาวิเศษต่างๆ ศรกำพต*และห่อดวงตาของนางสิบสองที่นางสารตราซ่อนไว้ แล้วนางเมรีก็หลับไป รถเสนรวบรวมของวิเศษพร้อมทั้งดวงตาของนางสิบสองแล้วขี่พญาม้าเหาะหนีออกจากเมืองไป
เมื่อนางเมรีรู้ว่ารถเสนหนีไปก็ออกติดตาม รถเสนโปรยยาวิเศษเป็นไฟและพายุขวางทางไว้ แต่นางเมรีและพลยักษ์แก้ไขได้ รถเสนจึงโปรยยาเป็นคงคากรด ลมกรด และมีภูเขาแน่นขนัดกั้นอยู่ตลอดทั้งป่า แล้วไปหยุดพักอยู่บนยอดเขา นางเมรีตามไปขอให้พระรถเสนกลับไปกับนาง แต่รถเสนปฏิเสธ แล้วให้สัญญาว่าจะไปหานางในอีก 15 วัน พญาม้าเกรงรถเสนจะเปลี่ยนใจจึงรีบเหาะไป
รถเสนเดินทางไปถึงอาศรมของฤๅษีกุศลแล้วเล่าเรื่องราวการเดินทางทั้งหมด พระฤๅษีชุบพระขรรค์เพชรที่ทำให้เหาะได้ให้ แล้วสอนมนตร์แปลงกาย หายตัว และสะกดอาวุธ รถเสนต้องการตอบแทนบุญคุณจึงถอดเครื่องทรง มงกุฎ และธำมรงค์ถวาย พระฤๅษีรับไว้แล้วสวมคืนให้พร้อมกับให้พร รถเสนลาพระฤๅษีกลับไปถึงอุโมงค์ที่มารดากับป้าอาศัยอยู่ แล้วประสมยากับดวงตารักษานางสิบสองจนหายเป็นปกติ
ครั้นรุ่งเช้ารถเสนไปเฝ้าท้าวรถสิทธิ์แล้วถวายผลหมากงั่วหมากนาว นางสารตราโกรธที่รถเสนนำยากลับมาได้ ก็กลับร่างเป็นยักษ์ นิมิตกายใหญ่เข้าต่อสู้กับรถเสน รถเสนแผลงศรกำพตถูกนางสารตราสิ้นชีพ แต่ท้าวรถสิทธิ์ยังคงต้องมนตร์เสน่ห์ของนางยักษ์อยู่ รถเสนจึงไปตามฤๅษีกุศลมาทำลายมนตร์เสน่ห์ได้สำเร็จ แล้วท้าวรถสิทธิ์กับรถเสนก็ออกไปรับนางสิบสองกลับเข้าเมือง
รถเสนคิดถึงนางเมรีมากจึงทูลลาพระบิดามารดาไปหานางเมรีในป่า เมื่อไม่พบก็คิดว่านางเมรีคงกลับเมืองทานตะวันไปแล้ว ครั้นเห็นมณฑปใหญ่ก็เข้าไปดูพบศพนางเมรีกลายเป็นหินอยู่ก็คร่ำครวญกอดศพสลบไป พญาม้าเข้าใจว่ารถเสนตายก็สลบไปด้วย ฝ่ายนางเมรีซึ่งไปเกิดเป็นเทพบุตรบนสวรรค์ชั้นดุสิตรู้สึกรุ่มร้อน ส่องเนตรแก้วลงไปดูก็รู้สาเหตุ จึงร่ายเวทแปลงกายเป็นนางเมรีลงไปช่วยแก้ไขให้รถเสนคืนสติ
นางเมรีแปลงแนะให้รถเสนไปหาคู่ครองคือทัศนารี*ซึ่งเป็นแฝดของนางที่อุทยานเมืองกำพุช* (สังกัศ* หรือสังกัด*) รถเสนขี่พญาม้าเหาะไปจนถึงเมืองกำพุชของท้าวประทุมราช* (สันนุราช*) แล้วร่ายเวทแปลงกายเป็นยักษ์ชรามีปุ่มปมทั่วกาย อธิษฐานให้ศรกำพตเป็นไม้เท้าทอง ให้พระขรรค์เป็นพร้าโต้ แล้วเข้าไปขออาศัยอยู่กับตายายที่เฝ้าอุทยานเพื่อจะได้มีโอกาสพบนางทัศนารี
เมื่อนางทัศนารีประพาสอุทยานแล้วลงเล่นน้ำในสระ รถเสนร่ายเวทกำบังกาย ร้อยมาลัยลอยน้ำไปให้นาง นางให้นางวรทาศรี*พี่เลี้ยงตามหาผู้ลอยมาลัย พระรถเสนร่ายเวทให้นางวรทาศรีเห็นองค์ แล้วเป่าอาคมทำให้นางหลงเสน่ห์ สั่งให้ไปบอกนางทัศนารีว่าตนจะไปหาที่ตำหนักในตอนค่ำ แล้วกำชับให้นางวรทาศรีถอดกลอนบัญชรไว้คอยท่า
ครั้นพลบค่ำรถเสนไปที่ปราสาทของนางทัศนารี ได้นางวรทาศรีแล้วได้นางทัศนารีเป็นชายา นางทัศนารีขอให้นางวรทาศรีปิดเป็นความลับ แล้วให้บอกวิเสทจัดอาหารวันละ 2 สำรับโดยอ้างว่าจะบวงสรวงเทวดาเพื่อสะเดาะเคราะห์ เหล่านางวิเสทเห็นว่าอาหารสำหรับบูชาเทวดาหมดทุกวันก็สงสัยว่านางวรทาศรีแอบกินจึงขู่ถาม นางวรทาศรีกลัวจึงเล่าความจริง แล้วไปทูลท้าวประทุมราช ท้าวประทุมราชให้เพชรสูร*สะกดรถเสนแล้วจับไปขังไว้ นางทัศนารีรู้เรื่องก็ให้นางวรจันทร์*กับนางวรรณฤดี*พี่เลี้ยงไปเยี่ยมและถวายกระยาหารในที่คุมขัง พระรถเสนฝากทูลนางทัศนารีให้หาทางช่วยเหลือ
บางสำนวนกล่าวว่าในตอนนี้นางเมรียังไม่ตาย เมื่อรถเสนทูลลาพระบิดามารดาไปตามหานางเมรี ได้พบนางที่ตำหนักในป่า นางคร่ำครวญ ตัดพ้อ และบอกให้รถเสนไปอภิเษกกับนางทัศนารีขนิษฐาของนางซึ่งอยู่ที่เมืองกำพุช (สังกัศ) แล้วนางก็สิ้นใจ รถเสนอธิษฐานให้มีโกศทองรองรับศพนางเมรี แล้วกวัดแกว่งพระขรรค์เรียกเหล่าเทวดาเจ้าป่ามาช่วยจัดพิธีศพ บรรจุพระธาตุของนางไว้ในเจดีย์
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory