TLD-003-3978
วรวงศ์ (ชื่อตัวละคร)
วรวงสชาดก ปัญญาสชาดก
วรวงศ์เป็นตัวละครในเรื่องวรวงสชาดก ในปัญญาสชาดก เป็นพระโพธิสัตว์ เป็นโอรสพระเจ้าวงศาธิราช*กับนางวงศ์สุรยาราชเทวี* มีเชษฐาชื่อวงศ์สุริยามาศ*
เมื่อแรกประสูติวรวงศ์มีฉวีเป็นสีทองกอปรด้วยมงคลลักษณะ วรวงศ์เป็นผู้ที่อาจหาญ ไม่เกรงกลัวผู้ใด พระเจ้าวงศาธิราชมีมเหสีรองชื่อนางกาไวยเทวี* นางมีโอรสชื่อไวยทัตกุมาร*ซึ่งเป็นคนหยาบช้า พระเจ้าวงศาธิราชจึงให้เป็นทาสของวรวงศ์และวงศ์สุริยามาศ นางกาไวยเทวีทำอุบายหลอกลวงว่าโอรสทั้งสองข่มเหงทำร้ายนาง ทั้งสององค์จึงต้องพลัดจากเมืองเพราะถูกพระบิดาลงอาญา พระมารดาได้มอบแก้วมณีมีค่าหนึ่งแสนตำลึงแก่วรวงศ์และวงศ์สุริยามาศเพื่อให้หนีไปอยู่เมืองอื่น
ระหว่างทางวรวงศ์ได้ยินไก่ดำและไก่ขาวอวดอ้างถึงคุณวิเศษของตน ว่าผู้ใดได้กินหัวใจของไก่ดำจะช่วยให้สามารถยกเสาศิลาแล้วฆ่ายักษ์ได้และจะได้เป็นกษัตริย์ ผู้ใดได้กินหัวใจของไก่ขาวจะได้เป็นจักรพรรดิ วรวงศ์ได้ยินดังนั้นจึงกินหัวใจของไก่ดำ ส่วนวงศ์สุริยามาศได้กินหัวใจของไก่ขาว เมื่อทั้งสองเดินทางถึงอัยมาศนคร มีราชรถเสี่ยงทายมาพาวงศ์สุริยามาศไปเป็นกษัตริย์แทนกษัตริย์ที่สิ้นพระชนม์
เมื่อวรวงศ์ตื่นไม่เห็นวงศ์สุริยามาศก็เที่ยวตามหาจนมาถึงเรือนโลภัณธเศรษฐีในเวลาค่ำ นางเฒ่าทาสีสงสารจึงนำอาหารมาเลี้ยงดู วรวงศ์ใช้ดวงแก้วต่างแสงไฟ นางเฒ่าเห็นดังนั้นก็ไปเล่าให้เศรษฐีฟัง เศรษฐีอยากได้แก้วมณีจึงใส่ความว่าวรวงศ์เป็นโจรขโมยดวงแก้วมาแล้วเศรษฐีก็ยึดแก้วไป นางคารวี*ธิดาโลภัณธเศรษฐี*เห็นบิดาทำผิดจึงช่วยเหลือวรวงศ์ เมื่อโลภัณธเศรษฐีเดินทางไปค้าขายต่างเมืองได้นำวรวงศ์ไปด้วย นางคารวีจึงติดตามไป เมื่อถึงขุรนคร โลภัณธเศรษฐีนำตัววรวงศ์ถวายพระเจ้าภุสาราชเพื่อให้ลงอาญา แต่พระเจ้าภุสาราชเห็นวรวงศ์มีลักษณะดี จึงไต่สวน วรวงศ์ทูลเรื่องราวของตน พระเจ้าภุสาราชเห็นวรวงศ์เป็นวงศ์กษัตริย์จึงขอให้ช่วยฆ่ายักษ์ วรวงศ์ตั้งสัจจาธิษฐานว่าหากตนจะได้พระโพธิญาณขอให้ทำการสำเร็จ แล้วถอนหลักศิลา ได้พระขรรค์มาด้วย วรวงศ์โยนดวงแก้วลงในสระน้ำกรดแล้วอธิษฐานว่าหากจะได้เป็นกษัตริย์ของเมืองนี้ขอดวงแก้วลอยน้ำ ดวงแก้วก็ลอยน้ำขึ้นมา แล้ววรวงศ์ใช้พระขรรค์ฟันดอกบัวซึ่งเป็นยักษ์ผุดขึ้นมา หลังจากนั้นพระเจ้าภุสาราช*ได้อภิเษกวรวงศ์ให้เป็นกษัตริย์และให้นางคารวีเป็นมเหสีฝ่ายขวา นางมกุฏเทวี*ธิดาของพระองค์เป็นมเหสีฝ่ายซ้าย
วรวงศ์อัญเชิญพระเสื้อเมืองซึ่งถูกยักษ์ขับไล่ไปกลับมาสถิตในศาลตามเดิม พระเสื้อเมืองมอบแก้วมณีที่มีฤทธิ์ทำให้เหาะได้แก่วรวงศ์ วรวงศ์ไปตามหาเชษฐา โดยพานางคารวีเหาะไปและแวะพักที่ศาลาพระดาบส พระดาบสเห็นวรวงศ์ใช้ดวงแก้วแล้วเหาะได้จึงขโมยดวงแก้วไปแต่เหาะสูงเกินไปจึงถูกลมตัดศีรษะขาด พ่อค้าเก็บดวงแก้วได้จึงนำไปถวายพระเจ้าวงศ์สุริยามาศ ส่วนวรวงศ์ต้องพานางคารวีเดินทางไปด้วยความยากลำบาก ได้พบยักษ์จึงหนีลงมหาสมุทร ระหว่างที่ว่ายน้ำข้ามไปเกิดพายุ วรวงศ์จึงพลัดกับนางคารวี คลื่นซัดวรวงศ์ถึงฝั่ง วรวงศ์ตามหานางคารวีแต่ไม่พบเข้าใจว่านางตายแล้ว วรวงศ์เศร้าโศกเสียใจเซซังจนมาถึงโรงทานในอัยมาศนครเห็นรูปวาดเรื่องราวชีวิตของตนกับเชษฐา วรวงศ์คิดถึงความหลังร่ำไห้จนสลบ ราชบุรุษจึงได้นำความไปทูลพระเจ้าวงศ์สุริยามาศ วรวงศ์จึงได้พบเชษฐาตามความตั้งใจ
เมื่อวรวงศ์เล่าเรื่องให้ฟัง พระเจ้าวงศ์สุริยามาศก็มอบดวงแก้วคืนให้ และให้วรวงศ์ครองราชย์ร่วมกัน วรวงศ์จึงเหาะไปรับนางมกุฏเทวีมา วันหนึ่งวรวงศ์ติดตามพระเจ้าวงศ์สุริยามาศออกเลียบพระนครได้พบทารกชายนอนอยู่ที่ประตูเมือง มีดวงแก้วผูกที่ข้อมือ วรวงศ์จำได้ว่าเป็นดวงแก้วที่พระมารดาให้มา จึงรู้ว่าเป็นโอรสของตนที่เกิดจากนางคารวี วรวงศ์ยินดีที่ได้พบโอรสเพราะอย่างน้อยก็ได้รู้ว่านางคารวียังมีชีวิตอยู่
วรวงศ์เข้าใจว่านางคารวีน่าจะอยู่ไม่ไกลนัก จึงให้สร้างศาลาแล้วให้ช่างวาดรูปเรื่องราวตั้งแต่ได้พบกันจนพรากจากกันไว้ในศาลา นางคารวีที่ตามหาโอรสได้เข้ามาพักในศาลาเมื่อเห็นรูปวาดจึงร่ำไห้ วรวงศ์จึงได้พบนางคารวีที่เฝ้าตามหา
เมื่อวรวงศ์พบเชษฐาและนางคารวีแล้วก็ปรารถนาที่ได้จะพบพระมารดาจึงปรึกษากับพระเจ้าวงศ์สุริยามาศว่าจะกลับไปภูสานครเพื่อรับพระมารดามาอยู่ด้วยกันที่อัยมาศนคร วรวงศ์ยกทัพไปถึงแล้วได้ส่งสารท้ารบกับพระบิดา แต่พระบิดาส่งไวยทัตกุมารออกมารบ วรวงศ์ฟันคอไวยทัตกุมารขาด พระเจ้าวงศาธิราชส่งอำมาตย์มาแจ้งสารขอยอมแพ้ เมื่อรู้ว่าผู้นำทัพมาเป็นโอรสของพระองค์ ก็ขอโทษเรื่องที่เคยทำผิด ทั้งสองยอมอโหสิให้ พระเจ้าวงศ์สุริยามาศกลับเมืองอัยมาศนคร ส่วนวรวงศ์ได้ขึ้นครองภุสานครแทนพระบิดา ครั้นชราภาพก็ออกบวชโดยให้โอรสครองราชย์สืบแทน
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory