โลโก้ของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธรLogo
logo
  • หน้าหลัก
  • วรรณคดี
  • ผู้แต่ง
  • ตัวละครและปกิณกะ
  • เกี่ยวกับโครงการ
    • เกี่ยวกับโครงการ
    • เกี่ยวกับโครงการ
    • นโยบายการใช้งาน
    • ติดต่อเรา
    • ศมส
ขยายขนาดตัวอักษร

ตัวละครและปกิณกะ

  1. หน้าหลัก
  2. ตัวละครและปกิณกะ
  3. เวสสันดร

เวสสันดร

  • เวสสันดร
  • ชื่อตัวละคร
รหัสข้อมูล
TLD-003-4140
ชื่อ
เวสสันดร ( ชื่อตัวละคร)
วรรณคดี
เวสสันตรชาดก   นิบาตชาดก  
คำอธิบายเนื้อเรื่อง

เวสสันดรเป็นตัวละครในเรื่องเวสสันตรชาดก  มหานิบาต  ในนิบาตชาดก

พระเจ้าสิวิมหาราช*ครองกรุงเชตุดร* แคว้นสิวี*  มีโอรสทรงนามว่าสญชัย*  พระเจ้าสิวีมหาราชทรงขอพระนางผุสดี*ธิดาพระเจ้ามัทราช*มาอภิเษกกับสญชัยกุมาร  ต่อมามอบราชสมบัติให้โอรสครอง  พระอินทร์เชิญพระโพธิสัตว์ให้จุติไปปฏิสนธิในพระครรภ์ของพระนางผุสดี   เมื่อพระนางผุสดีทรงครรภ์ได้ 10 เดือน  มีพระประสงค์จะทอดพระเนตรพระนคร  เมื่อเสด็จมาถึงเวสสวิถี (ถนนที่อยู่ของพ่อค้า) ก็ประสูติพระโอรส  พระโอรสเหยียดพระหัตถ์ทูลขอพระราชทรัพย์เพื่อบริจาคทาน  พระมารดาก็ประทานตามที่ขอ พระโอรสได้พระนามว่าเวสสันดรตามที่ประสูติ

ในวันที่พระเวสสันดรประสูติ  นางช้างพาลูกช้างเผือกมาไว้ที่โรงช้าง  คนทั้งหลายตั้งชื่อว่าปัจจัยเพราะเป็นปัจจัยแด่พระเวสสันดร  พระเวสสันดรโปรดทำทานอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ทรงพระเยาว์   เมื่อชันษาได้ 16 ปีก็สำเร็จศิลปศาสตร์ต่างๆ   พระชนกชนนีจัดให้อภิเษกกับพระนางมัทรี*ธิดาเมืองมัทราช  แล้วให้ทรงครองราชสมบัติ   ต่อมาพระนางมัทรีประสูติโอรสและธิดาคือชาลี*และกัณหา*  พระเวสสันดรทรงบริจาคมหาทานทุกวัน

ครั้งนั้นแคว้นกาลิงครัฏฐ*ประสบภัยแล้งอย่างหนัก  พระราชารักษาอุโบสถศีลถึง 7 วันแล้วฝนก็ยังไม่ตก  ประชาชนจึงทูลให้พระราชาส่งคนไปขอช้างปัจจัยเพราะช้างเผือกมงคลนั้นไปถึงที่ใดฝนก็ตกที่นั้น  พระราชาจึงส่งพราหมณ์ 8 คนมาทูลขอช้าง  พระเวสสันดรก็ประทานให้  บรรดาชาวเมืองพากันโกรธแค้นไปทูลบังคับให้พระเจ้าสญชัยเนรเทศพระเวสสันดรไปอยู่ที่เขาวงกต  พระนางผุสดีทูลทัดทานแต่ไม่สำเร็จ  ก่อนจะเสด็จออกจากเมือง  พระเวสสันดรบำเพ็ญทานใหญ่อีกครั้งหนึ่งเรียกว่าสัตตสดกมหาทาน คือ ให้ช้าง  ม้า  รถ  หญิง  โคนม  ทาสชาย  ทาสหญิง อย่างละ 700  พระนางมัทรีและโอรสธิดาตามเสด็จด้วย  ทั้งสี่พระองค์ทรงรถเทียมม้าไป  ระหว่างทางมีพราหมณ์มาขอม้า ขอรถ  ก็ประทานไปหมด  ทั้งสององค์ทรงดำเนินด้วยพระบาทอุ้มโอรสและธิดาเสด็จไป  เทพเจ้าช่วยย่นระยะทางให้เสด็จออกจากเมืองเชตุดรเวลาเช้า  เวลาเย็นก็มาถึงมาตุลนคร*  แคว้นเจตรัฐ*

มาตุลนครเป็นเมืองของเจ้า 6,000 พระองค์  พญาเจตราช*พร้อมด้วยเจ้าทั้งหลายออกมาเฝ้า เมื่อรู้เรื่องก็จะไปทูลขอให้พระเจ้าสิวีราชเปลี่ยนพระทัย   แต่พระเวสสันดรทรงห้ามไว้และประทับอยู่นอกพระนคร  รุ่งขึ้นพญาเจตราชก็ชี้ทางให้ไปเขาคันธมาทน์*  แล้วให้พรานเจตบุตร*อยู่คอยรักษาประตูป่าป้องกันมิให้ใครเข้าไปทำความเดือดร้อนแก่พระเวสสัดร

ท้าวสักกเทวราชสั่งพระวิสสุกรรมไปสร้างบรรณศาลา 2หลัง  และเตรียมเครื่องบริขารสำหรับ 4 พระองค์บรรพชา  พระเวสสันดรสั่งห้ามพระมัทรีมาเยือนในเวลาวิกาล   พระนางขอรับหน้าที่หาผลไม้มาเป็นอาหาร  ทั้ง 4 พระองค์อยู่ ณ ที่นั้นเป็นเวลาถึง 7 เดือน

ครั้งนั้นในกาลิงครัฐมีพราหมณ์ขอทานคนหนึ่งชื่อชูชก*อยู่ที่หมู่บ้านทุนนวิฏฐ์*  เก็บเงินไว้ได้ประมาณ 100 กระษาปณ์  ฝากไว้กับพราหมณ์ครอบครัวหนึ่ง  แล้วเที่ยวขอทานไป  หายไปเป็นเวลานาน   พราหมณ์ที่รับฝากเงินก็นำเงินมาใช้จนหมด  เมื่อชูชกกลับมาทวงเงิน  ไม่มีให้  จึงยกลูกสาวชื่อนางอมิตตตาปนา*ให้  ชูชกพานางไปอยู่ที่หมู่บ้านของตน  นางอมิตตตาปนาปรนนิบัติสามีชราด้วยความเอาใจใส่เป็นอย่างดี   พราหมณ์หนุ่มในหมู่บ้านเห็นเช่นนั้นก็ไปดุด่าภรรยาของตน  ภรรยาพราหมณ์เหล่านั้นจึงรวมพวกกันรุมด่านางตามที่ต่างๆ เช่น ท่าน้ำ  นางอมิตตตาปนาเสียใจร้องไห้กลับมาเรือน  ชูชกก็ปลอบว่าตนจะไปตักน้ำ ทำงานทั้งหลายเอง  นางตอบว่านางมิได้เกิดในตระกูลที่ใช้สามีตักน้ำ  ดังนั้นถ้าชูชกไม่หาทาสมาให้นางใช้นางก็จะไม่อยู่กับชูชกอีก  เทวดาดลใจให้นางอมิตตตาปนารู้เรื่องพระเวสสันดร  นางจึงบอกให้ชูชกไปขอพระโอรสธิดามาเป็นทาส  ชูชกจำเป็นจำใจต้องเดินทางไป  พบกลุ่มคนที่ไหนก็ถามไปเรื่อย   บางกลุ่มกำลังคิดถึงพระเวสสันดรอยู่ก็โกรธ ขับไล่ขว้างปา  แต่ในที่สุดชูชกก็รู้ว่าพระเวสสันดรอยู่ที่เขาวงกต

ชูชกเดินทางมาจนถึงปากทางเข้าสู่ป่าที่จะไปเขาวงกตพบพรานเจตบุตร  ก็ถูกสุนัขของเจตบุตรรุมไล่  ชูชกตกใจกลัวปีนหนีขึ้นไปบนต้นไม้  แล้วหลอกว่าตนเป็นทูตจะไปเชิญพระเวสสันดรกลับเมือง   เจตบุตรเชื่อจึงชี้ทางให้เดินทางไปพบพระอัจจุตฤๅษี*  เพื่อจะได้ถามทางต่อไป  แล้วมอบเสบียงให้ด้วย  ชูชกเดินทางต่อ  เมื่อพบพระอัจจุตฤๅษีก็เข้าไปคารวะแล้วมุสาเช่นเดิม   พระฤๅษีก็ชี้ทางให้ไปอาศรมของพระเวสสันดร

ชูชกไปจนใกล้ถึงอาศรมในตอนเย็น  คิดได้ว่าพระนางมัทรีคงจะกลับจากหาผลไม้แล้ว  ธรรมดามารดาย่อมไม่ยอมให้บุตรเป็นทาน  ฉะนั้นตนจะรอให้พระมัทรีเข้าป่าไปก่อนแล้วจึงจะเข้าไปขอ   คืนนั้นพระมัทรีสุบินร้ายว่ามีคนบุกเข้าทำร้าย  ควักพระเนตรทั้ง 2 ข้าง  ตัดพระพาหาทั้งซ้ายขวา  ควักดวงหทัยแล้วหนีไป  พระนางตกพระทัยตื่นบรรทม  รีบไปทูลถามพระเวสสันดรในกลางดึก  พระเวสสันดรฟังเรื่องฝันแล้วรู้ว่าวันรุ่งขึ้นพระองค์จะได้บริจาคบุตรทาน  จึงปลอบให้พระมัทรีคลายพระทัย   รุ่งขึ้นพระนางมัทรีก็เข้าป่าไปหาผลไม้ด้วยพระทัยที่หวั่นไหวหวาดระแวง   ชูชกเข้าไปทูลสรรเสริญการทำทานของพระเวสสันดร  แล้วทูลขอ 2 กุมาร   พระเวสสันดรยกให้  ชูชกพา 2 กุมารไป  ข่มขู่ทำร้ายเอาเถาวัลย์ผูกมัดแล้วคร่าไป  กุมารทั้งสองกันแสงรำพันเท่าไร  พระเวสสันดรก็ประทับนิ่งอยู่  เมื่อทอดพระเนตรเห็นชูชกเฆี่ยนตี 2 กุมารอย่างรุนแรงก็นึกกริ้วจนอยากจะฆ่าพราหมณ์ชูชก  แต่แล้วทรงระลึกได้ว่าเป็นประเพณีของพระโพธิสัตว์ที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าจะต้องบริจาคบุตรและภรรยา  การบริจาคทานแล้วเดือดร้อนใจไม่ใช่ธรรมของสัตบุรุษผู้สงบระงับ  แล้วทรงตั้งจิตอธิษฐานในศีลบารมีว่าถึงหากพราหมณ์จะฆ่าพระกุมาร พระองค์ก็จะไม่ตีด่าฆ่าฟันตอบ  ชูชกก็ฉุดคร่า 2 กุมารไปจากที่นั้น

ฝ่ายพระมัทรีทรงหาผลไม้ด้วยพระทัยที่หวาดหวั่น ทรงรู้สึกว่าธรรมชาติรอบข้างเปลี่ยนไป  ผลไม้ที่เคยมีก็ไม่มี  อากาศมืดมัวจึงรีบเสด็จกลับ  แต่ไปไม่ได้เพราะมีราชสีห์  เสือโคร่ง และเสือเหลืองนอขวางทางอยู่  สัตว์ทั้งสามนี้แท้จริงเป็นเทวดาแปลงมาเพื่อถ่วงเวลาไม่ให้พระนางเสด็จไปพบชูชกกับพระกุมาร  พระนางพยายามอ้อนวอน ขอร้องสัตว์ทั้งสาม  จนถึงเวลาค่ำสัตว์ทั้งสามก็ลุกขึ้นหลีกไป  ครั้นกลับถึงอาศรมไม่พบสองกุมาร  พระนางก็ตกพระทัยเกรงจะมีเหตุร้ายจึงไปทูลถามพระเวสสันดร   พระเวสสันดรประสงค์จะให้พระนางคลายความโศกจึงตรัสประชดว่าพระนางไปลุ่มหลงใครหรือสิ่งใดในป่า   พระนางก็ทูลไปตามความจริง พระเวสสันดรประทับนิ่งอยู่ไม่ตรัสอีกจนรุ่งเช้า  พระนางมัทรีรำพันถึงโอรสธิดาตลอดคืน  แล้วจึงออกไปเที่ยวตามหาในที่ต่างๆ   เมื่อไม่พบก็คร่ำครวญด้วยความทุกข์จนล้มสลบไป  พระเวสสันดรทรงแก้ไขให้ฟื้นขึ้น   แล้วบอกพระนางว่าพระองค์ได้ยกสองกุมารให้เป็นทาสแก่พราหมณ์ผู้หนึ่งไปแล้ว  พระนางมัทรีก็ทรงอนุโมทนาทาน  ทวยเทพทั้งหลายก็พร้อมใจกันมาอนุโมทนา

ท้าวสักกเทวราชทรงดำริว่าอาจมีผู้มาขอพระนางมัทรีจึงแปลงองค์เป็นพราหมณ์มาขอประทานพระมเหสี  พระเวสสันดรก็ยกให้  พระอินทร์ทรงสรรเสริญที่พระเวสสันดรได้ให้สิ่งที่ให้ได้ยาก  การบริจาคบุตร ภรรยาเป็นทานอันเลิศล้ำ  จึงแสดงพระองค์ให้ประจักษ์แล้วถวายพระนางมัทรีคืน

ชูชกตั้งใจพาสองกุมารไปกลิงครัฐ  แต่เมื่อถึงทาง 2 แพร่ง  เทพเจ้าดลใจให้เลี้ยวไปทางเมืองเชตุดร  คืนก่อนที่สองกุมารจะมาถึง  พระอัยกาสญชัยสุบินว่ามีบุรุษดำนำดอกบัว 2 ดอกมาถวาย  พราหมณ์ทำนายฝันว่าเผ่าพงศ์ของพระองค์ที่จากไปนานจะมาเฝ้า  เทวดาชักนำให้ชูชกและสองกุมารเดินมาหยุดที่พระลานหลวง  พระราชาจึงให้อำมาตย์ไปพามาเฝ้า  เมื่อทุกคนได้รู้เรื่องเหล่าอำมาตย์ก็ติเตียนพระ เวสสันดรว่าน่าจะบริจาคทรัพย์สินอื่น  ไม่ควรบริจาคโอรสธิดา  พระชาลีจึงทูลพระอัยกาว่าถ้าไม่มีทรัพย์สินใดๆ เลยแล้วจะให้อะไร  พระอัยกาเรียกให้ประทับบนพระเพลาเช่นเคย  พระชาลีทูลว่าตนยังเป็นทาสของพราหมณ์อยู่  พระอัยกาจึงโปรดให้นำทรัพย์มาไถ่ตัวสองกุมาร  ประทานปราสาท 7 ชั้นให้ชูชกพัก  ให้ทรัพย์ และบริวาร  พร้อมโภชนาหาร  ชูชกบริโภคอาหารเกินประมาณจนอาหารไม่ย่อยจึงตาย  พระเจ้าสญชัยให้ประกาศหาญาติทั่วเมืองก็ไม่มี  จึงเก็บพระราชทรัพย์คืนคลัง  หลังจากนั้นพระเจ้าสญชัยโปรดให้ประชุมพลยกไปรับพระเวสสันดร  โดยให้พระชาลีนำทาง  พระนางผุสดีเสด็จไปด้วย  เมื่อกษัตริย์ทั้ง 6 พระองค์ได้พบกันก็สลบไป  ขณะนั้นก็เกิดอัศจรรย์  แผ่นดินไหวสะเทือนโกลาหลไปจนถึงสวรรค์ 6 ชั้น  พระอินทร์จึงบันดาลให้ฝนโบกขรพรรษตกลงมา  กษัตริย์ทั้งหกจึงฟื้นขึ้น  ประชาราษฎร์ก็วิงวอนให้พระเวสสันดรรับเป็นพระราชา  ด้วยอานุภาพแห่งเมตตาของพระโพธิสัตว์บันดาลให้สัตว์ในป่าบริเวณนั้นเลิกเบียดเบียนกัน  พระเจ้าสญชัยโปรดให้ตกแต่งหนทางสำหรับเสด็จจากเขาวงกตจนถึงกรุงเชตุดร  มีฝูงชนต้อนรับตลอดทาง  เมื่อเสด็จถึงพระนครคืนนั้นพระอินทร์ก็บันดาลให้ฝนรัตนะ 7 ประการตกลงมาเต็มพระราชนิเวศน์  ตกหน้าบ้านใครก็ให้เป็นสมบัติของบ้านนั้น  ที่เหลือเก็บเข้าพระคลังไว้บริจาคต่อไป  พระเวสสันดรทรงครองราชสมบัติ  บำเพ็ญทานตลอดพระชนม์ชีพ  เมื่อสิ้นพระชนม์แล้วได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต

ผู้เรียบเรียง
วิพุธ โสภวงศ์ 
เจ้าของสิทธิ์
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
รูปแบบลิขสิทธิ์
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170
ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงวัฒนธรรม
2021 © ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
www.sac.or.th
วันจันทร์-ศุกร์ : 08.00-17.00 น.
TELEPHONE
0-2880-9429
FAX
0-2880-9332
E-MAIL
webmaster@sac.or.th
E-MAIL (งานสารบรรณ)
saraban@sac.or.th

นิสา เชยกลิ่น

นิสา เชยกลิ่น
Content Manager

ช่องทางการรับฟังความคิดเห็น
Application : Smart SAC
ประเภท
  • วรรณคดี
  • ผู้แต่ง
  • ตัวละครและปกิณกะ
เกี่ยวกับ
  • เกี่ยวกับโครงการ
  • นโยบายการใช้งาน
ติดต่อ
  • ติดต่อเรา
  • ศมส.
  • นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล
  • ประกาศความเป็นส่วนตัว
SmartSAC in App Store
SCAN ME
open in App Store
SmartSAC in Play Store
SCAN ME
open in Play Store