TLD-003-4292
สรรพสิทธิ์ (ชื่อตัวละคร)
สรรพสิทธิ์เป็นตัวละครในเรื่องสรรพสิทธิ์คำฉันท์ เป็นพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพระโอรสของพระเจ้าวิชัย*กับนางอุบล*แห่งอลิกธานี*
เมื่อพระสรรพสิทธิ์ประสูติ ฟ้าคะนองทั่วทั้งแผ่นดิน พราหมณ์ทำนายว่าจะเป็นผู้กอปรด้วยสติปัญญา มีความเฉลียวฉลาดรอบรู้ในวิทยาการเหนือกว่าผู้ใด ครั้นเจริญวัยพระสรรพสิทธิ์ไปศึกษาวิชาต่างๆ รวมทั้งวิชาถอดดวงจิต ณ เมืองตักศิลา เมื่อศึกษาสำเร็จและเดินทางกลับบ้านเมือง พระบิดาก็ให้ป่าวร้องให้ประชาชนมาชุมนุมกันที่หน้าพระลาน แล้วพระสรรพสิทธิ์แสดงวิชาให้ประชาชนดู ต่อจากนั้น พระบิดาก็ประทานนามว่าสรรพสิทธิ์ และเวนราชสมบัติให้
พระสรรพสิทธิ์ได้ยินกิตติศัพท์ความงามของนางสุพรรณโสภา*ธิดาท้าวอุศุภราช*แห่งกรุงคิริพัชร*จากนายวาณิช และได้ข่าวว่านางไม่ยอมพูดกับชายใด จึงเดินทางไปเมืองคิริพัชรพร้อมกับอำมาตย์ชื่อจิตเสน* และอาสาเข้าไปทำให้นางพูดด้วย พระสรรพสิทธิ์ใช้อุบายถอดดวงจิตของจิตเสนไปไว้ในที่ต่างๆ ในห้องบรรทมของนาง ในยามที่ 1 ถอดจิตไว้ที่ดวงประทีป ในยามที่ 2 ย้ายดวงจิตไว้ที่แท่นบรรทม ในยามที่ 3 ย้ายไปไว้ที่ที่นอน ในยามที่ 4 ย้ายไปไว้ที่พระเขนย แล้วเล่านิทานต่างๆ เป็นปริศนาที่ไม่มีคำตอบที่ถูกต้องแน่นอนให้ฟังในแต่ละยาม เมื่อเล่านิทานแต่ละเรื่องจบลง พระสรรพสิทธิ์ก็ตั้งถามให้ดวงจิตของจิตเสนตอบ นางสุพรรณโสภาได้ยินคำตอบที่ไม่ตรงพระทัยก็แย้งขึ้นทุกครั้ง พระสรรพสิทธิ์สามารถทำให้นางพูดด้วยได้ จึงได้อภิเษกกับนาง
ฝ่ายท้าวพรหมทัต*เจ้าเมืองพาราณสี* ท้าวเการพ*เจ้าเมืองกุรุนคร* และท้าวโกศล*เจ้าเมืองมิถิลา* ซึ่งเคยอาสาทำให้นางพูดด้วย แต่ไม่สำเร็จ ไม่พอใจ จึงยกทัพมา พระสรรพสิทธิ์อาสาสู้ศึก ถอดดวงจิตกษัตริย์ทั้งสามออกจากร่าง เมื่อกษัตริย์ทั้งสามสำนึกผิดและแสดงความอ่อนน้อม พระสรรพสิทธิ์ก็ประทานดวงจิตคืนให้ แล้วพานางสุพรรณโสภาไปอลิกธานี
ระหว่างทางยักษ์กาลจักร*เหาะผ่านมาเห็นนางสุพรรณโสภางดงามก็หลงรักจึงร่ายเวทสะกดให้ทั้งสองหลับแล้วอุ้มนางไป พระสรรพสิทธิ์ตื่นมาไม่เห็นนางก็คร่ำครวญแล้วไปขอความช่วยเหลือจากฤๅษีนรเชษฐ* พระฤๅษีเล็งญาณเห็นนางสุพรรณโสภาอยู่ในเมืองยักษ์ จึงให้ม้าแก่พระสรรพสิทธิ์ขี่ไปเมืองกาฬกูฏ* และเนรมิตอาวุธวิเศษให้
พระสรรพสิทธิ์เดินทางไปถึงเมืองกาฬกูฏ ท้าทายและต่อสู้กับยักษ์กาลจักร พระสรรพสิทธิ์แผลงศรไปตัดกายของกาลจักร ทำให้กายยักษ์ขาดและกลายเป็นยักษ์เพิ่มจำนวนไม่รู้จบ กาลจักรแผลงศรเป็นไฟ พระสรรพสิทธิ์ก็แผลงศรเป็นฝนดับไฟ กาลจักรแผลงศรเกลื่อนกลาดเต็มท้องฟ้า พระสรรพสิทธิ์แผลงศรเป็นพายุพัดศรไป กาลจักรแผลงศรเป็นนาค พระสรรพสิทธิ์แผลงศรเป็นครุฑ กาลจักรแผลงศรเป็นหินขนาดใหญ่เท่าภูเขาทุ่มใส่ พระสรรพสิทธิ์แผลงศรเป็นเทพฑัณฑทำลายก้อนหิน กาลจักรแผลงศรเป็นช้าง พระสรรพสิทธิ์แผลงศรเป็นราชสีห์ กาลจักรแผลงศรเป็นความมืด พระสรรพสิทธิ์แผลงศรเป็นแสงจันทร์ แล้วแผลงศรก็ไปตัดกายกาลจักรเกิดเป็นกายใหม่นับหมื่นแสน พระสรรพสิทธิ์เห็นว่ากาลจักรไม่ตาย จึงถอดดวงจิตกาลจักรออกจากร่างไปไว้ที่ภูเขา ยักษ์กาลจักรยอมแพ้ ขอลุแก่โทษ คืนนางสุพรรณโสภา และขอเป็นทาสรับใช้ พระสรรพสิทธิ์จึงคืนดวงจิตให้ พระสรรพสิทธิ์สั่งสอนให้กาลจักรรักษาศีลห้าอย่างเคร่งครัด กาลจักรถวายเมืองแก่พระสรรพสิทธิ์ แต่พระสรรพสิทธิ์ปฏิเสธแล้วพานางสุพรรณโสภากลับไปครองอลิกนครอย่างมีความสุข
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory