TLD-003-4297
สร้อยฟ้า (ชื่อตัวละคร)
สร้อยฟ้าเป็นตัวละครในเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน เป็นธิดาเจ้าเชียงอินทร์*หรือเจ้าเชียงใหม่*กับนางอัปสรสุมาลี*
เจ้าเชียงใหม่ได้ข่าวว่านางสร้อยทอง*ธิดาเจ้าล้านช้าง*งดงามมากจึงส่งสารไปสู่ขอนาง เจ้าล้านช้างไม่ให้ อ้างว่านางยังเป็นเด็กแต่ส่งสารมาถึงสมเด็จพระพันวษา*ขอถวายนางสร้อยทอง พระพันวษาจึงให้พระท้ายน้ำ*ยกทัพไปรับนางสร้อยทอง เจ้าเชียงใหม่รู้ข่าวส่งกองทัพไปชิงนางและจับพระท้ายน้ำขังไว้ ทั้งยังส่งสารท้าทายมายังกรุงศรีอยุธยาด้วย เจ้าเชียงใหม่ดูแลนางสร้อยทองอย่างดี มิได้นำนางมาเป็นสนมเพราะเห็นว่ายังเด็กมาก
พลายงาม*อาสาสู้ศึกเชียงใหม่และทูลขอขุนแผน*บิดาซึ่งต้องโทษจำคุกไปเป็นที่ปรึกษาในกองทัพด้วย ทั้งสองคนยกทัพไปต่อสู้สามารถบุกเข้าไปจนถึงห้องบรรทมของเจ้าเชียงใหม่ ทั้งสองพ่อลูกชนะศึก เจ้าเชียงใหม่ยอมถวายนางสร้อยทองคืน เจ้าเชียงใหม่ มเหสี และนางสร้อยฟ้าก็ถูกกวาดต้อนมาถวายพระพันวษา
เจ้าเชียงใหม่ยอมอ่อนน้อมและถวายนางสร้อยฟ้าแด่พระพันวษา โดยให้นางไหม*สาวใช้ลาวมาอยู่คอยรับใช้นางสร้อยฟ้าด้วย พระพันวษาโปรดให้เจ้าเชียงใหม่กลับไปครองเชียงใหม่ตามเดิม พระพันวษารับสั่งให้นางสร้อยทองและนางสร้อยฟ้าเข้าเฝ้า พระองค์โปรดนางสร้อยทองแต่ไม่โปรดนางสร้อยฟ้าเพราะทรงเห็นว่าแม้นางจะงามแต่ก็ปราดเปรียวเกินไป
หูตากลอกกลมคมคายเหลือ พิศแล้วเมื่อดูได้แต่ร่อนร่อน
จะเปรียบก็เหมือนอย่างนางละคร งามงอนอ้อนแอ้นบั้นเอวกลม
เพราพริ้งเพรียวเหลือดังเรือแข่ง กล้องแกล้งพายจิบก็เจียนล่ม
ดูริมฝีปากบางลูกคางกลม เห็นลาดเลาเจ้าคารมเป็นมั่นคง
พระพันวษารับนางสร้อยทองไว้เป็นสนม ส่วนนางสร้อยฟ้านั้นประทานให้พลายงามซึ่งขณะนั้นได้เป็นจมื่นไวย เจ้าเชียงใหม่เสียใจที่ลูกสาวจะได้สามีเป็นเพียงหัวหมื่นมหาดเล็กแต่พระพันวษาก็ทรงปลอบโยนโดยทรงรับรองว่า “กูไซร้จะเป็นพ่อออสร้อยฟ้า” และ “อย่าเสียใจว่าได้กับต่ำศักดิ์ อ้ายพลายงามก็รักเหมือนลูกข้า เป็นหัวหมื่นมหาดเล็กเด็กชา จงนึกว่าเราทั้งสองเกี่ยวดองกัน” ส่วนนางสร้อยฟ้าเองก็รู้สึกเป็นทุกข์ว่าตนไม่รู้ประเพณีฝ่ายไทย สามีก็มิได้รักใคร่กันมาก่อนเพราะเป็นภรรยาประทาน เจ้าเชียงใหม่จัดคนให้อยู่เป็นเพื่อนและสั่งเถรขวาด*ซึ่งรู้เวทมนตร์ให้อยู่ที่อยุธยาคอยช่วยเหลือนางหากทุกข์ร้อน
พระพันวษาส่งนางสร้อยฟ้าไปให้จมื่นไวยในวันแต่งงานจมื่นไวยกับนางศรีมาลา* นางสร้อยฟ้าไปถึงขณะที่คู่บ่าวสาวกำลังร่วมกันตักบาตร ทำให้นางรู้สึกโกรธแต่พยายามระงับไว้ จมื่นไวยพยายามจัดบ้านให้ภรรยาทั้งสองอย่างยุติธรรมและป้องกันการกระทบกระทั่งกัน วันหนึ่งจมื่นไวยสั่งให้ภรรยาทั้งสองคนทำขนมเบื้อง นางศรีมาลาทำได้อย่างชำนาญแต่นางสร้อยฟ้าทำไม่เป็นเพราะบ้านเมืองของนางไม่มีทำขนมชนิดนี้ พลายชุมพลและนางทองประศรีพากันเสียดสีเยาะเย้ยฝีมือทำขนมเบื้องของนางสร้อยฟ้าทำให้นางสร้อยฟ้าโกรธมากเลิกทำเข้าห้องไป ตอนค่ำก็ทะเลาะกับนางศรีมาลา วันรุ่งขึ้นทะเลาะกันอีกจนเข้าตบตีกัน พลายชุมพลเข้าห้ามถูกนางสร้อยฟ้าผลักตกร่อง นางทองประศรีโกรธที่หลานชายคนโปรดบาดเจ็บจึงด่าว่านางสร้อยฟ้าอย่างรุนแรง นางทนไม่ได้โต้ตอบไปพอ ๆ กัน จมื่นไวยกลับมาได้ยินพอดีรู้เรื่องทั้งหมดก็โกรธมากฉวยไม้ไล่ตีนางสร้อยฟ้า จนนางศรีมาลาต้องเข้าห้าม
นางสร้อยฟ้าคิดแค้นนางศรีมาลา จึงไปหาเถรขวาดขอให้ช่วยทำเสน่ห์ให้จมื่นไวยหลงรักตน ให้เกลียดชังนางศรีมาลา และให้นางทองประศรีรักใคร่ตน นางสร้อยฟ้าแสร้งก่อเรื่องให้จมื่นไวยทุบตีนางศรีมาลา พลายชุมพลเข้าห้ามจึงถูกตีไปด้วย นางทองประศรีก็ด่าว่าทำให้นางศรีมาลาทุกข์ใจมาก
เมื่อจมื่นไวยทูลพระพันวษาเรื่องร้าวฉานในครอบครัว พระพันวษาโปรดให้นางศรีมาลาไปตามขุนแผนมา นางสร้อยฟ้าเกรงว่าตนจะมีความผิด จึงสั่งบ่าวไพร่ราว 10 คนให้ไปดักรอทำร้ายนางศรีมาลาแต่ขุนแผนสั่งนางพราย 2 ตนคอยรักษานางศรีมาลา พรายจึงไปจับตัวบ่าวของนางสร้อยฟ้าไว้ก่อน พลายชุมพลอาสาไปจับตัวผู้ทำเสน่ห์
จมื่นศรีเสาวรักษ์*กับพลายชุมพลปลอมเป็นแขกไปขอให้เถรขวาดทำเสน่ห์ เถรขวาดเผลอคุยว่าตนทำเสน่ห์ให้นางสร้อยฟ้า นางสร้อยฟ้าจึงถูกเรียกตัวมาชำระความ นางเข้าใจว่าเถรขวาดตายแล้วดังนั้นก็ไม่มีประจักษ์พยานอีก นางจึงปฏิเสธอย่างแข็งขันว่าไม่ได้ทำเสน่ห์ ทั้งยังทูลใส่ความศรีมาลาว่าเป็นชู้กับพลายชุมพลด้วย นางศรีมาลาปฏิเสธ แต่ต่างไม่มีพยานยืนยันจึงต้องอาศัยกฎหมายที่ใช้น้ำหรือไฟช่วยตัดสิน นางศรีมาลาขอลุยไฟพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน นางสร้อยฟ้าจึงต้องลุยไฟด้วย นางศรีมาลาลุยไฟได้โดยไม่มีอันตราย ส่วนนางสร้อยฟ้าลุยไปนิดเดียวถูกไฟไหม้เท้าจนพอง นางต้องกระโจนออกจากรางไฟทำให้ทุกคนเชื่อว่านางผิดจริง พระพันวษาทรงตัดสินให้ประหารชีวิตนางสร้อยฟ้า นางทองประศรีสงสารจึงบอกให้นางศรีมาลาขออภัยโทษให้ นางศรีมาลาทูลขอชีวิตนางสร้อยฟ้าและบอกว่านางมีครรภ์ได้ 7 เดือนแล้ว พระพันวษาทรงยกโทษประหารชีวิตให้แต่ให้เนรเทศไปจากเมือง
นางสร้อยฟ้าขอขมาทุกคนแล้วพาบ่าวไพร่ลงเรือเดินทางไป ระหว่างทางได้ยินชาวบ้านลือกันว่ามีจระเข้ใหญ่ตัวยาวถึง 1 เส้น อีกตัวหนึ่งยาว 9 วา นางสร้อยฟ้าตกใจกลัวตายเพระเรือของนางลำเล็กนิดเดียวเมื่อเทียบขนาดกับจระเข้ นางทุกข์ใจร้องไห้คร่ำครวญ จระเข้ทั้งสองก็คือเถรขวาดและเณรจิ๋วได้ยินจึงขึ้นมาหา แล้วเป็นเพื่อนร่วมเดินทางกับนางขึ้นบกต่อไปจนถึงเชียงใหม่
นางสร้อยฟ้าคลอดลูกที่เชียงใหม่ เจ้าเชียงอินทร์พระเจ้าตาประทานชื่อให้ว่าพลายยง* ส่วนเถรขวาดได้รับการตอบแทนอย่างดี ได้เป็นถึงสังฆราช วันหนึ่งส่องกระจกเห็นแผลเป็นที่แสกหน้าก็คิดแค้นพลายชุมพลผู้ทำร้าย จึงไปลานางสร้อยฟ้าเพื่อจะไปแก้แค้น นางสร้อยฟ้าขอเถรขวาดไม่ให้ฆ่าจมื่นไวย แต่เมื่อเถรขวาดบอกจะไปฆ่าพลายชุมพลเท่านั้น นางสร้อยฟ้าก็เห็นชอบด้วย นางจัดหาสิ่งของให้เถรขวาดตามที่ต้องการและเตือนให้เถรขวาดระมัดระวังในการต่อสู้ แต่เมื่อเถรขวาดมาถึงอยุธยาและได้ต่อสู้กับพลายชุมพลก็ถูกพลายชุมพลสังหารในที่สุด
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory