TLD-003-4330
สะมะยัง (ชื่อตัวละคร)
สะมะยังเป็นตัวละครในบทละครเรื่องวงศเทวราช (ฉบับพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) เป็นหลวงชีอยู่ในป่า
เมื่อสังขปัด*วานรขุนทหารของวงศเทวราช*เจ้าเมืองสมุทคีรี*เผาเมืองเพื่อพากวินไวต์*มเหสีของพระเจ้าโยเสฟ*ไปอยู่กับตน นางบุษบง*มเหสีของวงศเทวราชหนีเพลิงไหม้เข้าป่า ได้พบกับหลวงชี ถามว่าเหตุใดหลวงชีจึงมาอยู่ป่า หลวงชีตอบว่าเนื่องจากเห็นความอนิจจังและความอสัตย์ของผู้คนจึงมาอยู่ในถ้ำเขานางประจันต์*เพื่อให้ห่างไกลจากพวกใจบาป นางบุษบงเกิดความศรัทธาขอบวชเป็นศิษย์ชื่อแม่ชีเฟื่อง*เพื่อจะได้บำเพ็ญภาวนาให้ได้พบกับวงศเทวราช
ฝ่ายวงศเทวราชปลอมเป็นตลกชาวป่าชื่อคงญวน*ออกตามหานางบุษบงที่จากกันตอนเพลิงไหม้ ได้ให้เหล่าเสนาและบริวารปลอมตัวและเปลี่ยนชื่อใหม่ด้วย ท้าววิเรนทร*ซึ่งใช้ชื่อว่าขำโกร่ง*ออกตามหามาถึงเขานางประจันต์และได้พบหลวงชีสะมะยัง สอบถามได้ความว่ามีหญิงหนีไฟไหม้ในเมืองมาขอบวชเป็นแม่ชีอาศัยอยู่ด้วยในถ้ำ หลวงชีเล่าว่าแม่ชีเฟื่องมีความสุขสบายเพราะตนได้รดน้ำทิพย์ และให้นางกินกล้วยกำลังหรือกล้วยศักดิ์สิทธิ์ ขำโกร่งสงสัยว่าแม่ชีเฟื่องน่าจะเป็นนางบุษบง จึงขอไปเป็นศิษย์คอยปรนนิบัติหลวงชีสะมะยัง แต่นางไม่อนุญาต ขำโกร่งจึงนิมนต์หลวงชีไปยังกระท่อมที่พักเพื่อตักบาตร
เมื่อขำโกร่งไปถึงที่เพิงพักในป่าก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้คงญวนฟัง คงญวนดีใจให้ขำโกร่งพาหลวงชีเข้ามาหา หลวงชีสะมะยังเล่าความเป็นมาของตนอย่างเกินจริงว่าชาติที่แล้วนางเป็นมเหสีฝ่ายซ้ายของเจ้าเมืองผู้ยิ่งใหญ่ มีธิดา 2 องค์ ต่อมาทำความผิดหึงหวงกับมเหสีฝ่ายขวา จึงต้องมาเกิดใช้กรรมที่ทำไว้ ส่วนสวามีนั้นบำเพ็ญเพียรจนสำเร็จแล้วไปบรรพชาอยู่ที่วัดบนสวรรค์ นางได้ตามไปอยู่ด้วย แต่ต่อมานางทำความผิดอีกจึงถูกสวามีทำโทษตบตีเกือบตาย จึงมาอยู่ในป่านี้ได้ราวสามสี่ปีแล้ว ภายหลังสวามีให้ธิดาทั้งสองนำเครื่องทรงแก้วแหวนเงินทองและกระบองไม้วิเศษพร้อมทั้งคาถาเหาะได้มาให้ โดยกำชับว่าห้ามมิให้นางสงสัยอะไร แต่เมื่อมีผู้บอกว่าเป็นไปไม่ได้ นางก็แคลงใจ ทำให้สวามีกริ้วให้คนมาเอาสิ่งของและกระบองคืน ต่อเมื่ออีก 7 ปีเมื่อสิ้นกรรมแล้วจึงจะมารับนาง
คงญวนให้จัดอาหารมาถวายหลวงชีสะมะยัง แล้วบอกว่าตนอยากรับประทานกล้วยกำลังจะให้คนไปนำมา แต่หลวงชีบอกว่ากล้วยนี้ไม่มีใครจะได้มาง่าย ๆ ถ้าคงญวนอยากได้ตนจะกลับไปเอามาเอง คงญวนให้ขำโกร่งตามหลวงชีไป เมื่อถึงหน้าถ้ำหลวงชีสะมะยังให้ขำโกร่งรออยู่ด้านนอก ส่วนตนออกไปหากล้วยกำลังตามลำพัง เมื่อได้กล้วยมาแล้วก็นำมาให้ขำโกร่ง ขำโกร่งแสร้งเยินยอบารมีของหลวงชี แล้วถามถึงแม่ชีเฟื่องบอกว่าใคร่จะพบนางเพื่อกราบไหว้ หลวงชีสะมะยังบอกว่าแม่ชีเฟื่องขี้อาย จะไม่ยอมออกมาพบหน้าใคร แต่ตนจะหลอกให้นางออกมา
หลวงชีสะมะยังแสร้งทำอุบายให้แม่ชีเฟื่องออกมาช่วยดายหญ้าที่ริมธาร นางหลงเชื่อออกมาดายหญ้าแล้วหลับไป ส่วนขำโกร่งซึ่งแอบอยู่ใต้ศาลาเห็นแม่ชีเฟื่องอย่างชัดเจน รีบบอกลาหลวงชีสะมะยังเพื่อนำกล้วยกำลังกลับไป แต่หลวงชีตามไปส่งถึงที่พัก ขำโกร่งให้หลวงชีรออยู่ข้างล่างแล้วขึ้นไปเล่าเรื่องให้คงญวนฟัง คงญวนขอให้ขำโกร่งหาทางให้ตนได้นางชีเฟื่องมา ขำโกร่งบอกว่าหลวงชีสะมะยังเป็นคนพูดปดหลอกลวงเก่ง ตนจะให้หลอกแม่ชีเฟื่องมาให้
คงญวนพยายามแสดงให้หลวงชีสะมะยังเข้าใจว่านางเป็นผู้วิเศษ นางปลิดกล้วยกำลัง 3 ผลแล้วเสกให้คงญวนกิน บอกว่าที่เหลืออยู่ถ้ากินครบร้อยผลจะมีอายุยืนถึงร้อยปี คงญวนบอกว่าตนยังไม่มีคู่ครองขอให้หลวงชีช่วยชักนำแม่ชีเฟื่องให้เป็นคู่ หลวงชีบอกว่าแม่ชีเฟื่องคงไม่ยอม ต้องใช้อุบายจึงจะได้ผล ขอให้คงญวนแต่งกายเป็นเทวดามาบอกว่าจะพานางไปอยู่บนสวรรค์ ส่วนตนจะคอยช่วยหลอกให้แม่ชีเฟื่องเชื่อ คงญวนเห็นดีด้วยออกเดินทางตามหลวงชีไป
ฝ่ายแม่ชีเฟื่องตื่นขึ้นตอนค่ำก็ตกใจที่ยังดายหญ้าไม่เสร็จ วิ่งกลับที่พัก เมื่อคิดถึงวงศ เทวราชว่าคงสิ้นชีวิตแล้วมิฉะนั้นคงตามมา นางจึงคิดจะลาสิกขาหาคู่เพื่อให้คลายทุกข์ ครั้นหลวงชีมาถึงก็สั่งให้คงญวนรออยู่ที่ศาลา ส่วนนางเข้าไปในถ้ำ เห็นแม่ชีเฟื่องเศร้าโศกก็แสร้งร้องไห้ แม่ชีเฟื่องถามสาเหตุที่ร้องไห้ หลวงชีตอบว่าวันนี้นางได้พบกับเทวดา บอกว่าแม่ชีเฟื่องมีบุญมากจะพานางไปเป็นมเหสีพระอินทร์*บนสวรรค์จึงเสียใจที่ต้องจากกัน แม่ชีเฟื่องรู้ก็เศร้าโศกคร่ำครวญถึงพระบิดามารดาและวงศเทวราช
ฝ่ายคงญวนแต่งกายเป็นเทวดาไปที่ปากถ้ำกล่าวกับแม่ชีเฟื่องว่ามาพานางไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ แม่ชีเฟื่องอาลัยอาจารย์จึงขอให้เทวดาพาหลวงชีสะมะยังขึ้นสวรรค์ด้วย แต่เทวดาบอกว่าสวามีหลวงชีจะมารับเมื่อครบ 7 ปี จึงไม่ควรพาหลวงชีไปสวรรค์ก่อน หลวงชีสะมะยังสนับสนุนว่าวาสนาของตนไม่เหมือนแม่ชีเฟื่อง ฝ่ายเทวดาคงญวนก็อุ้มแม่ชีเฟื่องเหาะไปกระท่อมทันที
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory