TLD-003-4344
สังข์, พระ (ชื่อตัวละคร)
พระสังข์เป็นตัวละครในบทละครเรื่องสังข์ทอง เป็นโอรสของท้าวยศวิมล*กับมเหสีจันท์เทวี*
พระสังข์เป็นผู้มีบุญบารมี เนื่องจากเป็นเทพจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์จุติมาเกิด ก่อนที่พระสังข์จะมาเกิดนั้น ท้าวยศวิมลมีนิมิตสำคัญ โหรทำนายว่าจะได้โอรสที่มีบุญญาธิการจากมเหสี แต่จะพลัดพรากจากไป ภายหลังจึงจะคืนกลับมา เมื่อถึงเวลาประสูติ มเหสีจันท์เทวีประสูติโอรสเป็นหอยสังข์* นางจันทาเทวี*สนมเอกซึ่งริษยานางจันท์เทวีติดสินบนโหรใส่ความนางจันท์เทวี โดยให้ทำนายว่านางและโอรสจะทำให้บ้านเมืองวิบัติ นางจันท์เทวีและโอรสจึงถูกขับออกจากเมือง
นางจันท์เทวีพาโอรสหอยสังข์ไปขออาศัยอยู่กับตายายในป่า เวลาผ่านไป 5 ปี นางจันท์เทวีเลี้ยงดูหอยสังข์อย่างดี เทวดาสงสารนาง จึงแปลงเป็นไก่ป่าไปกินข้าวที่นางตากไว้ พระสังข์เห็นว่ามารดาไม่อยู่บ้านจึงออกจากหอยสังข์ไปไล่ไก่ป่า และหุงข้าวปลาอาหารเตรียมไว้ให้มารดา แล้วกลับเข้าไปอยู่ในหอยสังข์ดังเดิม เมื่อนางจันท์เทวีกลับมาเห็นข้าวปลาอาหารที่มีผู้เตรียมเอาไว้ให้ก็เกิดความสงสัย วันต่อมานางทำทีว่าจะเข้าป่าแล้ววกกลับมาแอบดู เมื่อนางเห็นพระสังข์ออกมาจากหอยสังข์ก็รีบวิ่งไปทุบหอยสังข์แตก พระสังข์เสียใจมากที่หอยสังข์ถูกทำลาย และคิดว่าเมื่อไม่มีหอยสังข์เป็นที่ซ่อนแล้วก็อาจมีอันตรายได้
เมื่อข่าวแพร่ไปว่าพระสังข์กลายเป็นคนและมีหน้าตาละม้ายคล้ายท้าวยศวิมล นางจันทาเทวีก็ใส่ความว่าพระสังข์เป็นลูกชู้ ท้าวยศวิมลจึงให้จับตัวพระสังข์ไปฆ่า เสนาพยายามฆ่าพระสังข์ด้วยวิธีต่างๆ ทั้งทุบด้วยท่อนจันทน์ เอาหอกและดาบฟันแทง ตลอดจนไสช้างให้แทงพระสังข์ แต่ก็ไม่สามารถทำอันตรายพระสังข์ได้ ในที่สุดท้าวยศวิมลสั่งให้นำพระสังข์ไปถ่วงน้ำ ด้วยบุญญาธิการของพระสังข์ทำให้เทพยดาดลใจให้พญานาคไปพบและช่วยเหลือพระสังข์เอาไว้ พญานาครู้ว่าพระสังข์เป็นผู้มีบุญแต่ไม่สามารถเลี้ยงได้จึงส่งพระสังข์ไปเมืองนางยักษ์ม่ายพันธุรัต*ซึ่งเป็นสหายของตน นางยักษ์พันธุรัตและบริวารได้แปลงกายเป็นมนุษย์และพาพระสังข์เข้าเมือง นางพันธุรัตรักพระสังข์เหมือนบุตรแท้ ๆ ของนาง
เมื่อพระสังข์อายุได้ 15 ปี นางพันธุรัตต้องการไปเที่ยวป่าหาอาหาร จึงลวงพระสังข์โดยบอกเวลากลับที่ไม่แน่นอน และสั่งห้ามพระสังข์ไปเล่นบริเวณบ่อน้ำซ้ายขวาและหอข้างหัวนอน วันหนึ่งพระสังข์แอบเข้าไปในบริเวณที่หวงห้าม เมื่อพบซากมนุษย์และสัตว์จำนวนมากก็รู้ว่านางพันธุรัตเป็นยักษ์ นอกจากนั้นยังพบของวิเศษ ได้แก่ บ่อเงิน บ่อทอง รูปเงาะ* เกือกแก้ว* และไม้เท้าทอง* เมื่อพระสังข์ลองสวมรูปเงาะแล้วเหาะได้ จึงคิดจะหนีไปตามหามารดา
วันหนึ่งเมื่อนางพันธุรัตไปเที่ยวป่า พระสังข์ไปชุบตัวในบ่อทอง สวมรูปเงาะและลักของวิเศษ แล้วเหาะหนีออกจากเมืองยักษ์ นางพันธุรัตติดตามไปจนพบและพยายามอ้อนวอนให้พระสังข์กลับไปกับนางแต่ก็ไม่สำเร็จ นางจึงเขียนมหาจินดามนตร์*ไว้ให้พระสังข์ที่แผ่นหิน และร้องไห้คร่ำครวญเสียใจจนอกแตกตายในที่สุด พระสังข์สั่งให้เสนายักษ์เชิญศพนางพันธุรัตเข้าเมืองรอให้ตนกลับมาจัดการพิธีศพให้สมเกียรติ แล้วพระสังข์ก็ออกเดินทางต่อไป
พระสังข์ในร่างของเจ้าเงาะเหาะไปถึงเมืองสามนต์*และอาศัยอยู่กับกลุ่มเด็กเลี้ยงโค ต่อมาท้าวสามนต์*เจ้าเมืองจัดพิธีเสี่ยงพวงมาลัยเลือกคู่ให้ธิดาทั้งเจ็ด ธิดาผู้พี่ทั้งหกเลือกคู่ครองได้หมด คงเหลือแต่นางรจนา*ซึ่งไม่พึงใจผู้ใด ในที่สุดเมื่อท้าวสามนต์ทราบว่ายังเหลือเงาะป่าอยู่คนหนึ่ง จึงให้นำมาให้นางรจนาดูตัว เมื่อพระสังข์เห็นนางรจนาก็หลงรัก จึงอธิษฐานว่าถ้าเคยเป็นคู่ครองกันมาขอให้นางเห็นรูปทองของตน นางรจนาเห็นรูปทองของเจ้าเงาะจึงเสี่ยงพวงมาลัยให้ ท้าวสามนต์โกรธและอับอายที่นางรจนาเลือกเงาะป่าเป็นคู่ครอง จึงขับไล่ทั้งสองไปอยู่กระท่อมปลายนา
เมื่ออยู่กับนางรจนาตามลำพัง เจ้าเงาะก็ถอดรูปเป็นพระสังข์ นางรจนาไม่ต้องการให้พระสังข์สวมรูปเงาะ จึงลักรูปเงาะไปทำลายแต่ก็ไม่สำเร็จ พระสังข์จึงสวมรูปเงาะไว้ตามเดิมและไม่ยอมถอดรูปเงาะอีก
ท้าวสามนต์ต้องการกำจัดเขยเงาะจึงสั่งให้เขยทั้งเจ็ดหาปลา 100 ตัว ใครหาได้ไม่ครบจะถูกประหาร พระสังข์จึงเหาะไปที่ริมฝั่งน้ำ ถอดรูปเงาะออกแล้วใช้มหาจินดามนตร์เรียกปลามาชุมนุมกัน หกเขยหาปลาไม่ได้เลย เมื่อมาพบพระสังข์รูปทองก็เข้าใจว่าเป็นเทวดา หกเขยจึงขอปลาจากพระสังข์ พระสังข์แกล้งหกเขยโดยขอตัดปลายจมูกเพื่อแลกกับปลาคนละ 2 ตัว ฝ่ายพระสังข์ก็สวมรูปเงาะนำปลาจำนวนมากไปถวายท้าวสามนต์ก่อนหกเขย เจ้าเงาะกับนางรจนาพากันไปเยาะเย้ยหกเขย ทำให้ท้าวสามนต์และหกเขยเจ็บใจมาก ต่อมาท้าวสามนต์สั่งให้เขยทั้งเจ็ดไปหาเนื้อทรายมาให้ พระสังข์เข้าป่า ถอดรูปเงาะออกแล้วร่ายมนตร์เรียกเนื้อมาชุมนุมกัน หกเขยพบพระสังข์จึงเข้าไปขอเนื้อ พระสังข์เชือดใบหูหกเขยแลกกับเนื้อเพียงคนละ 1 ตัว ส่วนตนเองนำเนื้อ 20 ตัวไปถวายท้าวสามนต์ได้ก่อนหกเขย และเยาะเย้ยหกเขยให้อับอายอีกครั้งหนึ่ง
พระอินทร์*สงสารนางรจนา ต้องการให้พระสังข์มีโอกาสเปิดเผยรูปที่แท้จริงและแสดงความสามารถ จึงแปลงเป็นกษัตริย์ต่างเมืองยกทัพไปล้อมเมืองสามนต์ และท้าตีคลีพนันเอาบ้านเมือง ท้าวสามนต์ให้หกเขยไปตีคลีแต่ก็สู้ไม่ได้ พระอินทร์ถามถึงเขยสุดท้อง ท้าวสามนต์จึงให้นางมณฑา*ขอร้องเจ้าเงาะให้ออกไปตีคลี นางมณฑาขอให้นางรจนาช่วยอ้อนวอน เจ้าเงาะจึงถอดรูปออกเป็นพระสังข์ แล้วไปตีคลีกับพระอินทร์ พระสังข์สามารถตีคลีชนะพระอินทร์ ท้าวสามนต์จึงยกบ้านเมืองให้
วันหนึ่งพระสังข์ออกเลียบพระนครเห็นหญิงชราคนหนึ่งรูปลักษณ์คล้ายมารดาของตนก็คิดถึงมารดา หญิงผู้นี้คือนางจันท์เทวีซึ่งมากับท้าวยศวิมลเพื่อตามหาโอรส ต่อมาได้เสวยแกงฟักซึ่งมีชิ้นฟักสลักเป็นเรื่องราวต่างๆ ของพระสังข์ตั้งแต่กำเนิดจนถูกถ่วงน้ำ พระสังข์จึงให้หาตัววิเสท (ผู้ทำกับข้าวของหลวง) ผู้แกงฟัก ก็รู้ว่าคือนางจันท์เทวีมารดาของตน หลังจากนั้นพระสังข์และนางรจนาก็เดินทางไปเมืองยศวิมล*พร้อมกับท้าวยศวิมลและนางจันท์เทวี
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory