TLD-003-4383
สัตถวาหโพธิสัตว์ 2 (ชื่อตัวละคร)
อปัณณกชาดก นิบาตชาดก
สัตถวาหโพธิสัตว์เป็นตัวละครในเรื่องอปัณณกชาดก เอกนิบาต ในนิบาตชาดก เป็นพระโพธิสัตว์
ในสมัยพระเจ้าพรหมทัตครองเมืองพาราณสี ครั้งนั้นพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติในตระกูลสัตถวาหะคือหัวหน้าของพ่อค้าเกวียน มีอาชีพค้าขายโดยใช้เกวียน 500 เล่มบรรทุกของไปค้าขายในทิศต่างๆ หัวหน้าพ่อค้าเกวียนบางคนเป็นคนเขลา ไม่มีไหวพริบ ครั้งหนึ่งพระโพธิสัตว์จัดสินค้าบรรทุกเกวียน 500 เล่มเตรียมเดินทาง บุตรหัวหน้าพ่อค้าเกวียนซึ่งเป็นคนเขลาก็จัดเกวียนไปค้าเช่นเดียวกัน พระโพธิสัตว์ตรองดูแล้วเห็นว่าถ้าเดินทางพร้อมกันจะเป็นเกวียนถึง 1,000 เล่ม หนทางแคบ ไม่สะดวก ฟืนและน้ำสำหรับคนก็จะขาดแคลน หญ้าสำหรับโคก็จะหายาก ดังนั้นควรจะให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเดินทางไปก่อน บุตรหัวหน้าพ่อค้าเกวียนคิดว่าตนจะไปก่อน เพราะหนทางก็ยังไม่ถูกเกวียนบดให้เป็นฝุ่น โคจะได้กินหญ้าก่อน ผักและฟืนก็ยังไม่มีใครเก็บ น้ำก็ยังใสสะอาด และเมื่อขบวนเกวียนไปถึงก่อนก็จะตั้งราคาสินค้าได้ตามชอบใจ
ฝ่ายพระโพธิสัตว์ไม่ขัดข้องเพราะเห็นประโยชน์ของการเดินทางไปทีหลังคือผู้ที่ไปก่อนจะทำให้ทางเรียบ โคก็กินหญ้าแก่ไปแล้ว โคของพระโพธิสัตว์ก็จะได้กินหญ้าอ่อนที่งอกใหม่ ถ้าที่ใดไม่มีน้ำ คนที่ไปก่อนก็จะต้องขุดบ่อไว้ และเมื่อไปทีหลังก็ขายของตามราคาที่ผู้ไปก่อนตั้งไว้
บุตรหัวหน้าพ่อค้าเกวียนอีกกลุ่มหนึ่งจึงออกเดินทางไปจนถึงทางที่กันดาร ทางที่กันดารนั้นมี 5 อย่าง คือ ทางที่มีโจรซ่องสุม ทางที่มีสัตว์ร้าย ทางที่ไม่มีน้ำสำหรับอาบกิน ทางที่มีอมนุษย์สิงสู่อยู่ และสถานที่ซึ่งปราศจากพืชผลที่จะใช้บริโภค บุตรหัวหน้าพ่อค้าเกวียนเตรียมเรื่องกันดารน้ำมาอย่างดี มีเกวียนบรรทุกตุ่มใส่น้ำเต็ม เมื่อเดินทางมาถึงแดนอมนุษย์ที่มียักษ์สิงอยู่ ยักษ์ต้องการลวงให้ชาวกองเกวียนทิ้งน้ำเสียให้หมดจะได้อิดโรย แล้วยักษ์จะกินคนเหล่านี้ พวกยักษ์จึงพากันแปลงตัวเป็นกลุ่มคนเดินทางสวนมา แต่ละคนล้วนมีศีรษะ ผม เสื้อผ้าเปียกน้ำ ถือดอกบัวหลากชนิด ทั้งสองฝ่ายทักทายกัน ยักษ์แปลงบอกว่าป่านี้เต็มไปด้วยน้ำ เพราะฝนตกอยู่เสมอ มีลำธารและสระที่มีน้ำมากมาย ไม่ควรจะขนตุ่มน้ำไปให้หนัก บุตรหัวหน้าพ่อค้าเกวียนหลงเชื่อยักษ์ จึงสั่งให้ต่อยตุ่มน้ำทั้งหมด เดินทางไปก็ไม่พบแหล่งน้ำ คนที่มาด้วยก็อดน้ำ ได้รับความลำบากมาก ตอนกลางคืนพวกยักษ์ก็มากินคนเหล่านั้นรวมทั้งโคแล้วเหลือกระดูกไว้ ทุกคนตายหมดเหลือบุตรหัวหน้าพ่อค้าเกวียนคนเดียว
พระโพธิสัตว์รออยู่ประมาณเดือนครึ่ง จึงพาหมู่เกวียน 500 เล่มออกเดินทางจนมาถึงแดนกันดาร สั่งให้หยุดพัก มีน้ำที่เตรียมไว้เต็มตุ่ม ให้ตีกลองเรียกทุกคนมาประชุมและกำชับว่าใครจะใช้น้ำให้บอกตนก่อน และห้ามบริโภคต้นไม้ผลไม้ที่ไม่รู้จักมาก่อนเพราะอาจมีพิษ เมื่อถึงเขตกันดารที่อมนุษย์สิงสู่อยู่ ยักษ์ก็ทำอุบายเช่นเดิม แต่พระโพธิสัตว์รู้ทันจึงบอกยักษ์ว่าถ้ายังไม่เห็นน้ำก็จะยังไม่ทิ้งน้ำที่เตรียมมา ยักษ์ก็กลับเมืองไป พวกบริวารของพระโพธิสัตว์ยังข้องใจเรื่องที่มีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์ตามที่ยักษ์กล่าว พระโพธิสัตว์จึงสั่งให้หยุดเกวียนแล้วชี้แจงด้วยเหตุผล พร้อมห้ามทิ้งน้ำ เมื่อเดินทางต่อไปก็ได้พบเกวียนทั้ง 500 เล่มบรรทุกของเต็มของบุตรหัวหน้ากองเกวียนซึ่งเดินทางมาก่อนพร้อมกระดูกคน กระดูกโคกองอยู่เกลื่อน จึงให้หยุดเกวียนแล้วล้อมเป็นวงทำเป็นค่ายพัก ปลดโคให้โคและคนกินอาหารแต่วัน แล้วจัดให้โคนอนกลาง คนนอนนอก ส่วนพระโพธิสัตว์พาหัวหน้าที่แข็งแรงผลัดกันถือดาบอยู่ยามตลอดคืน จนรุ่งเช้าทั้งคนและโคกินอาหารแล้วให้สำรวจเกวียน ทิ้งเกวียนที่พัง เลือกเฉพาะเกวียนที่แข็งแรงเดินทางไปจนถึงปลายทาง ขายสินค้าได้ราคาสูง แล้วจึงพาบริวารกลับเมือง
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory