TLD-003-4405
สัพพมิต, พระเจ้า (ชื่อตัวละคร)
กุมภชาดก นิบาตชาดก
พระเจ้าสัพพมิตเป็นตัวละครในเรื่องกุมภชาดก ติงสนิบาต ในนิบาตชาดก
ในแผ่นดินพระเจ้าพรหมทัต*แห่งเมืองพาราณสี* พรานป่าผู้หนึ่งชื่อสุระ*เดินทางไปล่าสัตว์ในป่าหิมพานต์ ในป่านั้นมีต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ปลายลำต้นแตกเป็นค่าคบใหญ่ 3 ค่าคบ เกิดเป็นโพรงลึกคล้ายตุ่มน้ำ เมื่อฝนตกน้ำฝนก็ตกลงไปเต็มโพรงนั้น รอบๆ โพรงไม้มีต้นสมอ ต้นมะขามป้อม และเถาพริกไทย เมื่อผลสุกก็ร่วงลงไปในโพรง และยังมีรวงข้าวสาลีที่นกแขกเต้าคาบมากิน แล้วเมล็ดข้าวหลุดร่วงลงไปในโพรง เมื่อถูกแสงแดดเผา น้ำในโพรงไม้ก็มีรสมีสี ฝูงนกที่กระหายน้ำและบินมากินน้ำในโพรงต่างก็ม่อยหลับ พลัดตกจากต้นไม้ ครั้นรู้สึกตัวก็เปล่งเสียงร้องอย่างร่าเริง สัตว์ต่างๆ ที่กินน้ำในโพรงนั้นต่างก็มีอาการเช่นเดียวกัน พรานป่าสุระสังเกตเห็นก็คิดว่าหากน้ำในโพรงไม้มีพิษ สัตว์เหล่านั้นคงตายแล้ว แต่กลับมีอาการร่าเริงกว่าเดิม พรานสุระลองดื่มก็รู้สึกมึนเมาอยากกินเนื้อสัตว์ จึงจับนกมาย่างกินพลางลุกขึ้นร่ายรำด้วยความสนุกสนาน แล้วเดินไปชวนดาบสชื่อวรุณะ*ซึ่งอยู่ในบริเวณนั้นให้ดื่มน้ำในโพรงและกินเนื้อสัตว์ย่างอย่างสำราญใจ ทั้งสองเอากระบอกไม้ไผ่มาใส่น้ำนั้นหิ้วไปถึงปัจจันตนคร* เมื่อถวายให้พระราชาทรงดื่ม ก็เป็นที่พอพระทัยมาก น้ำนั้นต่อมาเรียกกันว่าสุราบ้าง วรุณีบ้างเพราะนายพรานป่าชื่อสุระและดาบสชื่อวรุณะเป็นผู้พบเห็น พระราชาเสวยได้เพียง 2-3 วัน น้ำสุราที่ทั้งสองตักไปก็หมดลง พระองค์จึงตรัสสั่งให้พรานป่ากับดาบสไปนำสุราจากป่าหิมพานต์มาเพิ่มเติม หลังจากขนสุรามาได้ 2-3 ครั้ง ทั้งสองคนก็คิดกันว่าคงจะลำบากที่ต้องเดินทางหลายเที่ยว จึงจดจำส่วนผสมทั้งปวง แล้วเก็บเอาเปลือกไม้ ผลไม้ ฯลฯ เข้าไปทำสุราในพระนคร ตั้งแต่นั้นมาชาวเมืองก็พากันดื่มสุราเมามาย จนประสบความทุกข์ยาก เมืองปัจจันตนครก็เหมือนเป็นเมืองร้าง พรานป่ากับดาบสจึงพากันไปเมืองพาราณสี แล้วทำสุราถวายพระเจ้าพรหมทัต ในไม่ช้าเมืองพาราณสีก็เกิดวิบัติเช่นกัน จากเมืองพาราณสีทั้งสองคนไปยังเมืองสาเกต* เมื่อเมืองสาเกตวิบัติก็ไปยังเมืองสาวัตถี*
พระเจ้าสัพพมิตแห่งเมืองสาวัตถีโปรดให้พรานป่าและดาบสทำสุราถวาย ทั้งสองคนใส่สุราลงในตุ่ม 500 ใบ เพื่อมิให้หนูลงไปในตุ่มจึงจับแมวมาผูกไว้ที่ตุ่มแต่ละใบ แมวเหล่านั้นพากันกินสุราในตุ่มจนเมาหมดสติไป พระเจ้าสัพพมิตเข้าพระทัยว่าแมวตายเพราะกินสุราซึ่งเป็นยาพิษจึงให้จับพรานป่ากับดาบสประหารชีวิต แต่ต่อมาเมื่อสร่างเมา แมวเหล่านั้นก็ลุกขึ้นวิ่งเล่นได้ พระราชาทรงเห็นว่าน้ำสุรามิใช่ยาพิษและคงจะมีรสอร่อยก็ทรงคิดจะลองเสวย
ท้าวสักกเทวราช (พระอินทร์) ทรงเห็นเช่นนั้นก็ทรงรำพึงว่า หากพระราชาได้เสวยสุรา ต่อไปทั้งชมพูทวีปก็จะพินาศ จึงเสด็จลงมาจากเทวโลก จำแลงร่างเป็นพราหมณ์ถือหม้อสุรายืนอยู่กลางอากาศตรงหน้าพระเจ้าสัพพมิตแล้วทรงแจกแจงโทษอเนกประการของน้ำสุราในหม้อนั้น เช่น ผู้ใดได้ดื่มเข้าไปแล้วจะกลายเป็นคนกักขฬะหยาบช้าด่าพ่อแม่ได้ พูดคำที่ไม่ควรพูด เดินเปลือยกาย มีใจฮึกเหิม ก่อการทะเลาะวิวาท ฯลฯ เมื่อพระเจ้าสัพพมิตทรงรู้โทษของสุราเช่นนั้นก็ได้พระสติ มิได้เสวยสุราดังที่ตั้งพระทัยแต่แรก ทรงสั่งให้ทำลายภาชนะสุราเสียให้สิ้น แต่ครั้นพระองค์สิ้นพระชนม์ไปเกิดในสวรรค์แล้ว การดื่มสุราก็เกิดแพร่หลายไปในชมพูทวีปต่อมา
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory