TLD-003-4680
สุมุขหงส์ 2 (ชื่อตัวละคร)
จุลหังสชาดก นิบาตชาดก
สุมุขหงส์เป็นตัวละครในเรื่องมหาหังสชาดก อสีตินิบาต ในนิบาตชาดก
ในแผ่นดินพระเจ้าสังยมะ*แห่งเมืองพาราณสี* พระอัครมเหสีชื่อพระนางเขมา*ทรงสุบินว่ามีเหล่าสุพรรณหงส์บินมาจับที่ราชบัลลังก์แล้วแสดงธรรมด้วยเสียงไพเราะก่อนที่จะบินกลับออกไปทางช่องพระแกล พระนางเขมาตื่นบรรทมก็รู้สึกเสียดายอยากฟังธรรมจากสุพรรณหงส์อีก จึงทูลพระสวามีว่าพระนางประชวรพระครรภ์และประสงค์จะฟังธรรมจากสุพรรณหงส์ พระเจ้าสังยมะตรัสถามถึงหงส์ที่มีสีเหมือนทองคำ พราหมณ์ทูลว่าตามตำราหงส์ในตระกูลธตรฐมีสีเหมือนทองคำและเป็นสัตว์ฉลาดประกอบด้วยญาณ
พระเจ้าสังยมะสอบถามต่อไปจนได้ความจากพรานคนหนึ่งว่าหงส์ตระกูลธตรฐอยู่ที่เขาจิตรกูฏ*ในหิมวันตประเทศ พวกพราหมณ์ช่วยออกอุบายที่จะให้เหล่าสุพรรณหงส์บินมาให้จับใกล้เมือง ไม่ต้องออกไปตามหาถึงเขาจิตรกูฏ พระราชาจึงมีรับสั่งให้ขุดสระใหญ่ประมาณ 3 คาพยุต (1 คาพยุต = 1 ใน 4 ของโยชน์) ทางทิศเหนือของพระนครชื่อว่าสระเขมะ ให้มีน้ำเต็มเปี่ยม ปลูกธัญชาติต่างๆ รวมทั้งบัว 5 ชนิด ให้หานายพรานผู้หนึ่งคอยดูแลรักษาอย่าให้มีมนุษย์เข้าไปใกล้สระนั้น เมื่อพวกหงส์ได้ข่าวสระอันอุดมนี้และพากันมาหากิน ให้คอยจับหงส์เหล่านั้นด้วยบ่วง
นายเนสาท (พราน) ผู้หนึ่งทำหน้าที่ดูแลเขมสระจึงได้ชื่อว่าเขมกเนสาท* แต่นั้นมาได้มีนกต่างๆ พากันมาหากินที่สระนั้นรวมทั้งหงส์ประเภทต่างๆ เช่น ติณหงส์ บัณฑุหงส์ มโนศิลาวรรณหงส์ เสตหงส์ และปากหงส์ พระเจ้าสังยมะรับสั่งให้ตีกลองประกาศทั่วพระนครว่า ห้ามบุคคลอื่นนอกจากนายเขมกเนสาทเข้าใกล้สระโดยเด็ดขาด
พวกปากหงส์อาศัยอยู่ในกาญจนคูหาใกล้เขาจิตรกูฏ มีรูปร่างผิวพรรณไม่ต่างกับหงส์ตระกูลธตรฐ จึงส่งธิดาซึ่งมีสีงดงามราวกับทองคำไปเป็นชายาของพญาธตรฐราชหงส์*โพธิสัตว์ หงส์ทั้งสองตระกูลจึงสนิทสนมกันดี พวกปากหงส์เล่าให้หงส์ตระกูลธตรฐฟังถึงความอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพรรณธัญญาหารและความปลอดภัยของเขมสระ ทำให้เหล่าหงส์บริวารของพญาธตรฐอยากไปหากินที่สระนั้นบ้าง แต่พญาหงส์ห้ามไว้เพราะสระนั้นมนุษย์ขุดไว้เพื่อจะจับพวกหงส์ หงส์บริวารให้สุมุขหงส์เสนาบดีไปขออนุญาตพญาหงส์ถึง 2-3 ครั้ง ในที่สุดพญาหงส์ก็ยอมพาพวกบริวาร 96,000 ตัวบินไปหากินที่เขมสระแล้วกลับมาที่เขาจิตรกูฏ
พระราชาสั่งให้นายเขมกเนสาทพยายามจับสุพรรณหงส์ให้ได้ตัวหนึ่งหรือสองตัว นายเขมกเนสาทเข้าไปนั่งอยู่ในเรือนกรงคอยสังเกตดูพวกหงส์ก็เห็นว่ามีพญาหงส์ตัวหนึ่งงามมากกว่าหงส์ตัวอื่นๆ ลงมากินอาหารแต่พอสมควร ไม่มักได้ จึงคิดจะจับหงส์ตัวนั้น นายเขมกเนสาททำบ่วงด้วยหางม้าสีดำดักไว้ใต้น้ำ พญาหงส์ติดบ่วงนั้นได้รับความเจ็บปวดทรมานเพราะบ่วงรัดหนังข้อเท้าจนเลือดไหลอาบ เมื่อพยายามดึงขาให้พ้นบ่วง บ่วงก็รัดเข้าไปจนถึงกระดูก พญาหงส์ไม่อยากให้ขาขาดพิการจึงมิได้ดิ้นรนอีก พญาหงส์ทนความเจ็บปวดไม่ปริปากร้องเพราะเห็นว่าบริวารกำลังกินอาหาร เกรงว่าจะแตกตื่นพากันบินหนี และเมื่อบินข้ามทะเลก็จะหมดแรงตกลงเพราะความหิว พญาหงส์คอยจนบริวารกินอิ่มแล้วจึงร้องขึ้นด้วยเสียงอันดัง บริวารตกใจกลัวพากันบินหนีไปหมด สุมุขหงส์เสนาบดีก็บินหนีมาจากสระนั้นด้วย แต่เมื่อรู้ว่าพญาหงส์โพธิสัตว์มีภัยก็บินกลับไปที่สระ และขอสละชีวิตของตนแทน พญาหงส์บอกให้สุมุขหงส์หนีกลับไป แต่สุมุขหงส์ไม่ยอมกลับยังคงยืนยันว่าจะไม่ละทิ้งพญาหงส์และบอกว่าตนนั้นเป็นมิตรแท้ที่จะยอมสละชีพให้พญาหงส์ได้
นายเขมกเนสาทเห็นพวกหงส์บินหนีไปหมดเหลือแต่พญาหงส์ก็ดีใจถือไม้ค้อนลุยน้ำตรงเข้าไปหา สุมุขหงส์เสนาบดีร้องเสียงดังรีบเข้าไปใกล้นายเนสาทแล้วกล่าวเป็นภาษามนุษย์อย่างไพเราะจับใจว่าหงส์ที่ติดบ่วงนี้ไม่ใช่หงส์ธรรมดา แต่เป็นพญาธตรฐราชสุพรรณหงส์ที่ประกอบด้วยศีลาจารวัตร ไม่สมควรทำให้ตาย สุมุขหงส์บอกว่าตนก็มีสีดังทองคำเหมือนกัน ตนขอยอมสละชีวิตแทนพญาหงส์เพียงผู้เดียว ถ้าต้องการอวัยวะส่วนใดก็จงเอาที่ตน ถ้าต้องการให้ไปเป็นหงส์ระบำก็จงทำแก่ตน หรือถ้าต้องการทรัพย์ก็จงนำพญาหงส์ไปขายเป็นๆ อย่าได้ฆ่า เพราะจะทำให้ต้องตกนรก แล้วสุมุขหงส์ก็กล่าวถึงภัยในนรก เขมกเนสาทได้ฟังถ้อยคำอันไพเราะก็ชื่นชมที่สัตว์ยังมีมิตรธรรมต่อกันมากกว่ามนุษย์
สุมุขหงส์เสนาบดีเห็นว่านายเขมกเนสาทมีใจอ่อนโยนลงแล้วจึงกล่าวว่าพญาหงส์เป็นพระราชาผู้มีพระคุณต่อตนซึ่งเป็นเสนาบดี ตนจงรักภักดีต่อพญาหงส์จึงไม่อาจละทิ้งไปในยามทุกข์ยาก นายเนสาทกล่าวว่าจะปล่อยพญาหงส์เป็นรางวัลแก่สุมุขหงส์เสนาบดี แล้วนายเนสาทก็ปลดพญาหงส์ออกจากบ่วงอุ้มขึ้นจากสระไปวางบนพื้นหญ้าแพรกอ่อน ตักน้ำมาล้างโลหิตแล้วลูบคลำแผลนั้น ด้วยอานุภาพความเมตตาของนายเขมกเนสาท แผลจึงหายเป็นปกติ สุมุขหงส์เสนาบดีเห็นว่านายเนสาทมีไว้ชีวิตตนและพญาหงส์ จึงคิดจะตอบแทนคุณ นายเนสาทเล่าว่าพระนางเขมาปรารถนาจะฟังธรรมจากสุพรรณหงส์ พระราชาจึงสั่งให้ตนจับหงส์ให้ได้แล้วจะประทานลาภยศให้เป็นอันมาก สุมุขหงส์เสนาบดีคิดว่าหากนายเนสาทปล่อยตนและพญาหงส์กลับไปที่เขาจิตรกูฏ อานุภาพแห่งปัญญาของพญาหงส์ธตรฐและมิตรธรรมของตนก็จะไม่ปรากฏ นายเนสาทจะไม่ได้ลาภยศ พระราชาจะไม่ได้รับเบญจศีล ทั้งพระนางเขมาก็จะไม่สมประสงค์ สุมุขหงส์เสนาบดีจึงบอกให้นายเนสาทพาตนและพญาหงส์ใส่กรงหามไปเฝ้าพระราชา กรงหนึ่งขนาดใหญ่ทำด้วยเถาวัลย์อ่อนประดับดอกบัวขาวสำหรับพญาหงส์อยู่ด้านหน้า อีกกรงหนึ่งขนาดเล็กกว่าประดับด้วยดอกบัวแดงสำหรับสุมุขหงส์เสนาบดีอยู่ด้านหลังและอยู่ต่ำกว่ากรงพญาหงส์
เมื่อนายเนสาทนำหงส์ทั้งสองไปถวาย พระเจ้าสังยมะดีพระทัยมาก ประทานรางวัลมากมายแก่นายเนสาท นายเนสาททูลเล่าว่าจับสุพรรณหงส์ทั้งสองมาได้อย่างไร แล้วก็กล่าวสรรเสริญสุมุขหงส์เสนาบดีที่กลับมาช่วยพญาหงส์ พระราชาได้ฟังก็มีพระประสงค์จะฟังธรรมจากสุมุขหงส์เสนาบดี สุมุขหงส์กล่าวว่าถ้าพระราชามั่นคงอยู่ในความสัตย์ตนจึงจะแสดงธรรม เพราะที่แล้วมาพระราชาสั่งให้ขุดสระประกาศว่าให้เป็นเขตอภัยทาน ไม่เบียดเบียนนกทั้งหลายที่มาลงหากิน แต่แล้วพวกตนก็ต้องติดบ่วงที่ดักไว้ ถือว่าพระราชามีมุสาวาท มีความโลภ พระราชาตอบว่าจับหงส์มาเพราะต้องการฟังธรรม สุมุขหงส์เสนาบดีจึงแสดงธรรมแด่พระราชา แล้วขอให้ปล่อยพญาหงส์ธตรฐ พระราชาปล่อยพญาหงส์ให้จับบนตั่งทองคำและให้สุมุขเสนาบดีจับที่เก้าอี้ทองคำ แล้วเลี้ยงอาหารในภาชนะทองคำ พญาหงส์เห็นความเลื่อมใสที่พระราชามีต่อตนและสุมุขหงส์เสนาบดีก็กล่าวปฏิสันถารถามทุกข์สุขของพระราชาและพระมเหสีรวมทั้งเหตุการณ์บ้านเมือง พระเจ้าสังยมะกล่าวว่าพระองค์ดำรงอยู่ในทศพิธราชธรรม บำเพ็ญทาน ศีล บริจาค มีความซื่อตรง ความไม่โกรธ ความไม่เบียดเบียน ฯลฯ มาตลอด พญาหงส์โพธิสัตว์แสดงธรรมแก่พระราชาอยู่จนรุ่งเช้า ถวายโอวาทไม่ให้ทรงประมาท ให้ตั้งอยู่ในศีล 5 แล้วพญาหงส์กับสุมุขหงส์ก็กลับไปยังเขาจิตรกูฏ
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory