โลโก้ของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธรLogo
logo
  • หน้าหลัก
  • วรรณคดี
  • ผู้แต่ง
  • ตัวละครและปกิณกะ
  • เกี่ยวกับโครงการ
    • เกี่ยวกับโครงการ
    • เกี่ยวกับโครงการ
    • นโยบายการใช้งาน
    • ติดต่อเรา
    • ศมส
ขยายขนาดตัวอักษร

ตัวละครและปกิณกะ

  1. หน้าหลัก
  2. ตัวละครและปกิณกะ
  3. สุริการ

สุริการ

  • สุริการ
  • ชื่อตัวละคร
รหัสข้อมูล
TLD-003-4705
ชื่อ
สุริการ ( ชื่อตัวละคร)
วรรณคดี
วงศ์เทวราช   วงศเทวราช 1  
คำอธิบายเนื้อเรื่อง

สุริการเป็นตัวละครในบทละครเรื่องวงศเทวราช  เป็นม้าทรง  พาหนะของวงศเทวราช*เจ้าเมืองเนาวรัตนนคร*

เมื่อครั้งที่พระอินทร์*ลงไปเนรมิตเมืองเนาวรัตนนครให้วงศเทวราชโอรสที่เกิดจากนางฟ้าเทพมนทา*ครอง  ก่อนจะพานางกลับสู่สวรรค์  ทรงเกรงว่าโอรสจะเปล่าเปลี่ยวพระทัยจึงนำเทียนสีผึ้งมาปั้นเป็นม้าและปั้นเป็นครุฑแล้วเอาน้ำกายสิทธิ์มาเป่ามนตร์รด  รูปปั้นก็มีชีวิต  พระอินทร์สั่งให้ม้าซึ่งชื่อสุริการและครุฑ*อยู่เป็นเพื่อนคอยช่วยเหลือวงศเทวราชให้มีอำนาจแผ่ไพศาล

วันหนึ่งวงศเทวราชประพาสป่า  ร่ายมนตร์เรียกบรรดาฝูงสัตว์ในป่ามาดูเล่น  สังขปัด*วานรก็มาด้วย  เกิดวิวาทกับคชสีห์*และราชสีห์*  เมื่อวงศเทวราชรู้ก็เกรงว่าวานรจะถูกฆ่าตาย  จึงให้ครุฑไปห้าม  แต่สังขปัดใคร่จะลองฤทธิ์ของวงศเทวราช  จึงเนรมิตกายให้ใหญ่สูงเทียมตะวัน  ถือตรีเพชร  ร้องตวาดวงศเทวราช  วงศเทวราชไม่ต้องการจะลดเกียรติสู้กับวานรจึงให้ม้าสุริการไปปราบ  สุริการเหาะขึ้นฟ้าเนรมิตกายใหญ่เท่าภูเขา  มีกีบเท้าเป็นกรด  หางเป็นเปลวไฟ  เข้าต่อสู้กับสังขปัด  สามารถสังหารสังขปัดและเหล่าพลวานรได้  วงศเทวราชสงสารช่วยชุบทุกชีวิตให้ฟื้นขึ้น  สังขปัดจึงยอมถวายตัวเป็นข้ารับใช้

ต่อมาวงศเทวราชเข้าไปในป่าเพื่อเสาะหาดอกบัวในสระตามสุบินนิมิต  สุริการและสังขปัดตามเสด็จด้วย  ส่วนครุฑอยู่เฝ้าเนาวรัตนนคร  ครั้นวงศเทวราชไม่พบดอกบัวในสระก็ทรงม้าสุริการเหาะขึ้นไป  เห็นยอดปรางค์ปราสาทจึงสั่งให้สุริการไปสืบดูว่าเป็นเมืองของผู้ใด  สุริการเข้าไปในป่าเห็นรอยเท้ายักษ์ก็ตามรอยไป  ได้พบกับอสูรคชเศียร*ขุนด่านที่เชิงเขาเมืองนนเกษ*  คชเศียรจะจับม้าสุริการกิน  สุริการแสร้งทำมารยาให้จับ  คชเศียรนำม้าสุริการไปให้ลูกขี่เล่น  พอได้จังหวะสุริการก็สำแดงฤทธิ์ปลายหางเป็นไฟฟาดลูกคชเศียรตกลงพื้นสิ้นชีวิต  แล้วเอาหางฟาดหลังคาบ้านเรือนอสูรไหม้  บรรดาอสูรหนีตายกันชุลมุน  ในที่สุดสุริการก็ตามไปสังหารคชเศียรได้

เมื่อวงศเทวราชและสังขปัดแปลงร่างเป็นนางยักขินีชื่อวงศวาด*และพุทชาติ*เพื่อเข้าไปยังเมืองสมุทคีรี*ของท้าวมหานพสูร*  เพราะสังขปัดสืบรู้ว่าในเวลานั้นได้มีการจัดพิธียกศรเพื่อหาโอรสกษัตริย์อภิเษกสยุมพรกับนางบุศบง*ธิดาท้าวมหานพสูรแต่ยังไม่มีผู้ใดยกศรได้  วงศเทวราชได้เสกม้าสุริการเป็นขี้ผึ้งแห้งแล้วซ่อนไว้ที่ขอดชายภูษาทรง  ทั้งสองนางแปลงหาช่องทางเข้าไปเป็นนางกำนัลของนางบุศบงได้  แต่ภายหลังโหรทูลท้าวมหานพสูรว่านางกำนัลใหม่ทั้งสองเป็นชายแปลงมา  ท้าวมหานพสูรกริ้วจึงสั่งให้นำนางบุศบงไปถ่วงน้ำและสั่งประหารสองนางกำนัล  แต่นางแปลงทั้งสองหนีออกมาได้  วงศวาดเสกขี้ผึ้งให้คืนกลับเป็นม้าสุริการ  แล้วสวมธำมรงค์ของพระมารดาที่นิ้วชี้คืนร่างเป็นวงศเทวราช  ส่วนพุทชาติก็ร่ายเวทคืนร่างเป็นสังขปัด  แล้ววงศเทวราชก็ทรงม้าสุริการเหาะออกไปนอกอ่าว

เมื่อท้าวสาตราสูร*อนุชาท้าวมหานพสูรยกทัพมาทำสงครามครั้งแรกกับวงศเทวราช  ได้แผลงศรเป็นนาคจำนวนมากมัดสุริการ  สังขปัด  และไพร่พลนอนนิ่งเกลื่อนแล้วยกทัพกลับ  ฝ่ายวงศเทวราชเห็นดังนั้นก็เศร้าโศกกลัวทั้งสองจะตาย  จึงขอให้ครุฑช่วยจิกนาคจนนาคคืนร่างเป็นลูกศรคลายรัด  สุริการ สังขปัดวานร  และบริวารจึงฟื้นคืนสติ

ฝ่ายท้าวมหานพสูรเมื่อเสียญาติวงศ์พงศ์ยักษ์ในการทำสงครามก็ออกสู้รบเอง  แต่ในที่สุดก็พ่ายแพ้  ถูกสังขปัดจับไปเฝ้าวงศเทวราช  ท้าวมหานพสูรไม่ยอมบังคมไหว้เพราะยังแคลงใจว่าวงศเทวราชมีฤทธิ์จริงหรือไม่  ขอให้วงศเทวราชไปยกศรพรหมสิทธิ์โดยสัญญาว่าถ้ายกได้จะยอมอ่อนน้อม  วงศเทวราชจึงทรงม้าสุริการเหาะไปยังยอดเขาหิรัญบรรพต*และยกศรได้โดยง่าย

(บทบาทของสุริการในฉบับหลวงพัฒนพงศ์ภักดีมีเพียงเท่านี้  ต่อไปนี้เป็นบทบาทในพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว)

ต่อมาเมื่อวงศเทวราช*จะแสดงฤทธิ์ให้เหมือนพระอินทร์ก็ได้ทรงม้าสุรกาฬ*   ถือดาบไล่ฟันผ่ากลางพระจันทร์  และแผลงศรไปในป่ารังได้ถึงหมื่นครั้งในวินาทีเดียว

ตอนที่สังขปัดเผาเมืองสมุทคีรีเพื่อพากวินไวต์*มเหสีของพระเจ้าโยเสฟ*ไปอยู่ด้วย  ผู้คนต่างพากันหนีไฟชุลมุน  ม้าสุรกาฬซึ่งเสร็จงานราชการก็กลับไปอยู่ป่าใกล้เมืองเพราะเข็ดที่ต้องนอนเกยเนรมิตของวงศเทวราช   เมื่อเห็นไฟไหม้ก็รีบไปช่วยพาวงศเทวราชเหาะหนีไฟ   ทั้งสองถูกเปลวเพลิงลุกไหม้  สุรกาฬถูกไฟไหม้ขนทั้งกาย  ครั้นถึงเขตเมืองบางซื่อ*  สุรกาฬพาวงศเทวราชเหาะลงแล้วล้มสลบทั้งคู่  ฝ่ายพระอินทร์ทิพอาสน์แข็งกระด้าง  เมื่อเล็งทิพเนตรก็เห็นวงศเทวราชและม้าสุรกาฬกำลังได้รับความเดือดร้อนจึงเสด็จลงมาใช้น้ำมันทิพย์ลูบทั่วกาย  พิษที่เกิดจากไฟไหม้ก็หายสิ้น  สุรกาฬทูลว่าจะพาวงศเทวราชไปยังเมืองที่อยู่ใกล้  วงศเทวราชซาบซึ้งในความดีของสุรกาฬตรัสว่าถ้าได้กลับไปบ้านเมืองสุรกาฬต้องการสิ่งใดจะประทานให้  สุรกาฬตอบว่า  “อย่าให้ต้องนอนเกยเลยเจ็บนัก   แข้งขาจะหักพระภูมี”  วงศเทวราชก็รับคำ  สุรกาฬพาวงศเทวราชเข้าเมืองบางซื่อซึ่งมีนางบุญนาคี*เป็นเจ้าเมือง  ภายหลังได้เกิดการต่อสู้ระหว่างวงศเทวราชกับเทพเป๋อ*หลานนางบุญนาคี  ในที่สุดวงศเทวราชเป็นฝ่ายชนะ

ต่อมาวงศเทวราชและสุรกาฬได้ไปพักอยู่กับพระธรรมภาณฤๅษี*  ฝ่ายท้าวมหานพสูร  ครุฑ  และท้าววิเรนทร*ซึ่งออกตามหาวงศเทวราชหลังจากเพลิงไหม้เมืองเดินทางมาถึงอาศรมพระฤๅษี  ได้พบกับสุรกาฬ   สุรกาฬพาทั้งสามไปเฝ้าวงศเทวราช

หลังจากเหตุร้ายในบ้านเมืองสิ้นสุดลง  วงศเทวราชปูนบำเหน็จให้สุรกาฬไปครองเมืองนนทเกศ* (นนเกษ) และยกนางกรี*ภรรยาของคชเศียรให้เป็นคู่ครอง

ผู้เรียบเรียง
ยุพร แสงทักษิณ 
เจ้าของสิทธิ์
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
รูปแบบลิขสิทธิ์
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170
ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงวัฒนธรรม
2021 © ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
www.sac.or.th
วันจันทร์-ศุกร์ : 08.00-17.00 น.
TELEPHONE
0-2880-9429
FAX
0-2880-9332
E-MAIL
webmaster@sac.or.th
E-MAIL (งานสารบรรณ)
saraban@sac.or.th

นิสา เชยกลิ่น

นิสา เชยกลิ่น
Content Manager

ช่องทางการรับฟังความคิดเห็น
Application : Smart SAC
ประเภท
  • วรรณคดี
  • ผู้แต่ง
  • ตัวละครและปกิณกะ
เกี่ยวกับ
  • เกี่ยวกับโครงการ
  • นโยบายการใช้งาน
ติดต่อ
  • ติดต่อเรา
  • ศมส.
  • นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล
  • ประกาศความเป็นส่วนตัว
SmartSAC in App Store
SCAN ME
open in App Store
SmartSAC in Play Store
SCAN ME
open in Play Store