TLD-003-4729
สุวรรณกุมาร (ชื่อตัวละคร)
สุวรรณกุมารชาดก ปัญญาสชาดก
สุวรรณกุมารเป็นตัวละครในเรื่องสุวรรณกุมารชาดก ในปัญญาสชาดก เป็นพระโพธิสัตว์
เมื่ออดีตชาติสุวรรณกุมารเคยเกิดเป็นบุตรเศรษฐีผู้ยินดีในการทำทาน ได้ถวายภัตตาหารอย่างดีแด่ภิกษุสาวกของพระพุทธเจ้าวิปัสสีทุกวัน อีกทั้งยังประพฤติตนตามธรรมที่ได้ฟังภิกษุเทศนาอันมีศีล 5 เป็นต้น เมื่อสิ้นอายุจึงได้เกิดเป็นพระอินทร์ เมื่อกาลสมควรได้จุติมาเกิดเป็นโอรสของพระเจ้าภัตตราช*และนางจันทาเทวี*แห่งเมืองพาราณสี* เมื่อแรกประสูติ พระโอรสมีผิวพรรณเป็นสีทอง และมีรูปทรงสัณฐานดังพระพุทธปฏิมากรที่ช่างฝีมือเลิศหล่ออย่างสวยงาม ทุกคนจึงขนานนามพระโอรสว่าสุวรรณกุมาร
เมื่อสุวรรณกุมารเจริญวัยได้ 16 ปี มีกำลังกายแข็งแกร่ง และมีปัญญารอบรู้ในสรรพวิชา ครั้นวันประชุมเสนาทหารประมาณแปดหมื่นสี่พัน สุวรรณกุมารปรารภว่าต้องการชมมหาสมุทร เหล่าเสนาจึงสนับสนุน และเมื่อพระเจ้าภัตตราชและพระนางจันทาเทวีรู้ก็ให้จัดเตรียมกระบวนไพร่พลพรักพร้อมและร่วมเสด็จไปยังมหาสมุทรด้วย สุวรรณกุมารเห็นมหาสมุทรแล้วปรารถนาจะเดินบนมหาสมุทร เทวดาทั้งหลายรู้ความปรารถนานั้นจึงนำช้างเผือกที่มีมงคลลักษณะประดับเครื่องทรงสวยงามมาให้สุวรรณกุมารใช้เป็นพาหนะ เมื่อสุวรรณกุมารขับช้างนั้นไปบนมหาสมุทร มหาสมุทรก็แหวกออกเป็นช่อง เหล่านาคทั้งหลายพากันออกมาสักการะสุวรรณกุมาร และจัดอาหารรสเลิศดังอาหารทิพย์มาถวาย สุวรรณกุมารจึงเพลิดเพลินอยู่ในมหาสมุทร จนพระบิดาพระมารดาส่งคนมาตามให้เสด็จกลับ ก่อนกลับพญานาคราชได้มอบแก้วนานาชนิดให้ และให้สุวรรณกุมารป่าวประกาศให้มหาชนที่ตามมานำแก้วมีค่ากลับไปได้ เมืองพาราณสีจึงบริบูรณ์ด้วยแก้วนานาชนิด และเป็นที่เลื่องลือไปทั่วว่าเป็นเพราะบุญญาธิการของสุวรรณกุมาร
ข่าวลือเรื่องเดชานุภาพของสุวรรณกุมารรู้ไปถึงพระเจ้าสิงหล*จนเกิดความริษยา จึงส่งสารมาขอให้พระเจ้าภัตตราชส่งเครื่องบรรณาการมาให้ มิฉะนั้นจะยกทัพมาโจมตีพาราณสี พระเจ้าภัตตราชได้ฟังสารแล้วหวั่นใจยิ่ง แต่สุวรรณกุมารได้อาสาไปทวีปสิงหลแทน พระเจ้าภัตตราชจึงอภิเษกสุวรรณกุมารเป็นพระราชาแห่งเมืองพาราณสี เมื่อสุวรรณกุมารจัดเตรียมทัพพร้อมแล้ว ได้ให้ไพร่พลสมาทานศีล และกรวดน้ำให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว จากนั้นยกพลมาถึงชายฝั่งมหาสมุทรเตรียมลงเรือไปทวีปสิงหล ระหว่างพักรออยู่นั้นก็รำพึงว่าพระเจ้าสิงหลจะมีอานุภาพปานใด ด้วยการยึดมั่นในศีลและการกตัญญูต่อบิดามารดาของสุวรรณกุมารจึงทำให้พิภพพระอินทร์ร้อน พระอินทร์เสด็จลงมามอบธนูพร้อมลูกศร 5 ลูกที่เมื่อแผลงออกไปจะมีฤทธิ์ต่างกันคือ ลูกหนึ่งทำให้เกิดยวดยานและวิมานปราสาท ลูกหนึ่งทำให้เกิดเพลิงลุกสว่างเผาเมืองเป็นจุณได้ ลูกหนึ่งสามารถทะลุเกราะเพชรได้ และอีกลูกหนึ่งทำให้ข้าศึกแตกพ่ายไป
สุวรรณกุมารนำทัพลงเรือ ระหว่างนั้นเทวดาที่รักษาท้องสมุทรได้ช่วยทำให้คลื่นลมสงบเพื่อให้สุวรรณกุมารเดินทางสะดวก พร้อมทั้งนำเสบียงมาให้จนกองทัพของสุวรรณกุมารมีความสุขกันถ้วนหน้า เมื่อถึงทวีปสิงหลแล้ว สุวรรณกุมารนำลูกศรที่มีฤทธิ์วิเศษของพระอินทร์มาใช้ จนเอาชนะพระเจ้าสิงหลได้ พระเจ้าสิงหลต้องเป็นฝ่ายแต่งเครื่องบรรณาการมาถวายแด่สุวรรณกุมาร และมอบราชสมบัติให้ แต่สุวรรณกุมารกล่าวว่าไม่ต้องการราชสมบัติแต่ต้องการจับดวงใจของพระเจ้าสิงหลมากกว่า พระเจ้าสิงหลฟังความดังกล่าวก็หวาดกลัวยิ่ง สุวรรณกุมารจึงอธิบายว่าการจับดวงใจหมายถึงการต้องการเป็นมิตรกับพระเจ้าสิงหล เพราะผู้ที่เป็นมิตรกันนั้นต้องมีความรักใคร่กันซึ่งต้องอาศัยใจ การมีกัลยาณมิตรจึงมีค่ามากกว่าแก้วจินดามณีที่บันดาลประโยชน์ตามความคิดในภพปัจจุบันเท่านั้น แต่กัลยาณมิตรให้ประโยชน์ทั้งภพนี้และภพหน้า เมื่อพระเจ้าสิงหลได้ฟังโอวาทดังกล่าวก็เลื่อมใสศรัทธาสุวรรณกุมารยิ่ง จึงได้จัดเตรียมกระบวนไพร่พลที่ตกแต่งอย่างตระการตาเพื่อส่งสุวรรณกุมารกลับพาราณสี ระหว่างทางในมหาสมุทร เทวดาได้เนรมิตกายเป็นนาวาแก้วที่มีโภชนาหารเต็ม เดินทางร่วมไปกับกระบวนเรือ เหล่านางนาคและเทพธิดาที่รักษาท้องสมุทรเนรมิตกายเป็นสาวงามคอยบำรุงบำเรอสุวรรณกุมารจนกระทั่งถึงฝั่งเมืองพาราณสี พระเจ้าภัตตราชได้จัดเตรียมการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่และเสด็จมารับสุวรรณกุมารเข้าพระนคร
ชัยชนะที่สุวรรณกุมารมีเหนือพระเจ้าสิงหลที่มีอำนาจขจรไกลนี้ ยิ่งทำให้เดชานุภาพของสุวรรณกุมารเป็นที่เล่าขานกันยิ่งขึ้นไปอีก จนกษัตริย์น้อยใหญ่ในชมพูทวีปเกรงกลัว และพากันมาขออยู่ในอำนาจของสุวรรณกุมาร สุวรรณกุมารจึงได้ให้โอวาทแก่บรรดากษัตริย์ว่าการที่ตนดำรงอยู่ในสิริราชสมบัติดังทิพยสมบัติเช่นนี้เพราะได้รักษาศีล 5 มาตั้งแต่กาลก่อน หากกษัตริย์ทั้งหลายดำรงอยู่ในศีล 5 จะพบแต่ความสุขความเจริญเช่นกัน ทั้งนี้สุวรรณกุมารแม้จะเสวยสุขบริบูรณ์แล้วยังทำบุญทำทานอย่างสม่ำเสมอ โดยสร้างโรงทาน 6 แห่ง และบริจาคทานวันละ 6 แสน จนตราบสิ้นอายุจึงได้ไปเกิดบนเทวโลกมีบริวารพรั่งพร้อม
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory