โลโก้ของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธรLogo
logo
  • หน้าหลัก
  • วรรณคดี
  • ผู้แต่ง
  • ตัวละครและปกิณกะ
  • เกี่ยวกับโครงการ
    • เกี่ยวกับโครงการ
    • เกี่ยวกับโครงการ
    • นโยบายการใช้งาน
    • ติดต่อเรา
    • ศมส
ขยายขนาดตัวอักษร

ตัวละครและปกิณกะ

  1. หน้าหลัก
  2. ตัวละครและปกิณกะ
  3. สุวรรณสังข

สุวรรณสังข

  • สุวรรณสังข
  • ชื่อตัวละคร
รหัสข้อมูล
TLD-003-4753
ชื่อ
สุวรรณสังข ( ชื่อตัวละคร)
วรรณคดี
สุวรรณสังขชาดก   ปัญญาสชาดก  
คำอธิบายเนื้อเรื่อง

สุวรรณสังขเป็นตัวละครในเรื่องสุวรรณสังขชาดก ในปัญญาสชาดก  เป็นพระโพธิสัตว์

สุวรรณสังขเป็นพระโพธิสัตว์จุติมาปฏิสนธิในครรภ์นางจันทาเทวี*ที่รักษาอุโบสถศีลอย่างเคร่งครัด เมื่อนางจันทาเทวีตั้งครรภ์พระโพธิสัตว์ได้ถูกมเหสีฝ่ายซ้ายใส่ร้ายว่ามีชู้  นางจึงถูกขับไล่ออกจากเมือง   นางไปพักอยู่กับตายาย เมื่ออยู่ในครรภ์พระมารดาพระโพธิสัตว์เห็นว่าพระมารดากำลังตกยากอยู่ภายนอกวังเพราะถูกพระบิดาขับไล่มา หากเกิดมาเป็นทารกดังปกติพระมารดาจะดูแลลำบาก พระโพธิสัตว์จึงได้ทำสัจจาธิษฐานขอกลายเป็นรูปหอยสังข์ ดังนั้นเมื่อออกจากครรภ์พระมารดา พระโพธิสัตว์จึงมีรูปพรรณเป็นหอยสังข์ ทำให้พระมารดาไม่ต้องลำบากในการเลี้ยงดู เมื่อเจริญวัยจึงออกจากหอยสังข์มาช่วยพระมารดาทำกิจการต่างๆ ในเรือน แต่เมื่อพระมารดารู้ว่าหอยสังข์เป็นเพียงเปลือกห่อหุ้มกุมารรูปงาม จึงทุบหอยสังข์เสีย ชาวบ้านที่เห็นสุวรรณสังขต่างชื่นชมในความสง่างามและนำไปโจษจันกัน จนรู้ถึงพระเจ้าพรหมทัตผู้เป็นบิดา จึงให้คนมาเชิญนางจันทาเทวีกับสุวรรณสังขกลับเข้าวัง แต่อยู่มาไม่นานพระมารดาและสุวรรณสังขก็ถูกนางสุวรรณจัมปากเทวี*มเหสีฝ่ายซ้ายใส่ร้ายว่าเป็นกาลกิณี จึงต้องถูกพระเจ้าพรหมทัตลอยแพ เคราะห์ร้ายซ้ำเมื่อมีพายุพัดจนแพแตก สุวรรณสังขพลัดกับพระมารดา แต่ด้วยบุญญาธิการของพระโพธิสัตว์ พญานาคจึงเนรมิตเรือทองมีกูฏาคารให้อาศัยลอยไปจนถึงเกาะแห่งหนึ่ง ได้พบพระดาบสที่บอกทางไปเมืองพาราณสีให้ แต่จะต้องผ่านเมืองยักษ์ก่อน

สุวรรณสังขลอยเรือมาจนพบนางยักษิณี  นางยักษิณีก็นึกเอ็นดูสุวรรณสังข จึงรับไปเลี้ยงเป็นบุตร สุวรรณสังขอยู่ในปราสาทนางยักษิณีอย่างสุขสบาย แต่สุวรรณสังขได้ฝืนข้อห้ามของนางยักษิณีออกไปเที่ยวในสวนทางทิศเหนือ จึงเห็นกองกระดูกกองใหญ่ รู้สึกสลดใจที่นางยักษิณีกินเนื้อสดๆ และเมื่อขึ้นไปชั้นบนของปราสาทได้พบบ่อเงินบ่อทอง เกราะรูปเงาะ เกือกแก้ว และพระขรรค์  เมื่อสุวรรณสังขทดลองจิ้มนิ้วในบ่อทอง ทองก็ติดและล้างไม่ออก เมื่อสวมชุดเงาะก็จะกลายรูปเป็นเงาะป่า เมื่อสวมเกือกแก้วและถือพระขรรค์จะเหาะได้ สุวรรณสังขจึงคิดหนีจากนางยักษ์ แต่รอเวลาที่เหมาะสม นางยักษิณีรู้ว่าสุวรรณสังขขึ้นไปบนปราสาทเพราะเห็นนิ้วมีสีทองนางใช้น้ำลายบ้วนลงไป สีทองก็หายไป จากนั้นสุวรรณสังขจึงถูกนางยักษิณีดูแลอย่างใกล้ชิดมากขึ้น จนสบโอกาสวันหนึ่งที่นางยักษิณีออกไปหาอาหาร สุวรรณสังขจึงได้อาบน้ำในบ่อทองแล้วสวมชุดเงาะและเกือกแก้ว ถือพระขรรค์เหาะจากปราสาทไป

นางยักษิณีตามไปทันสุวรรณสังขที่ฝั่งน้ำ แต่ต้องอยู่คนละฝั่งน้ำเพราะสุดเขตแดนของยักษ์นางจึงข้ามไปไม่ได้ สุวรรณสังขไม่ยอมตามนางกลับไป นางยักษิณีเสียใจมาก แต่ด้วยความเป็นห่วงสุวรรณสังข นางจึงสอนมนตร์เรียกเนื้อและปลาให้เพื่อนำไปใช้ประโยชน์  สุวรรณสังขจำมนตร์ได้แล้ว จึงลานางยักษิณี นางยักษิณีเสียใจจนขาดใจตาย สุวรรณสังขได้จัดการเผาศพนางจนเรียบร้อยแล้วเดินทางต่อไป

สุวรรณสังขเหาะมาถึงเมืองพาราณสีเห็นว่าอุดมสมบูรณ์ดีจึงเข้าไปขออาศัยในบ้านของนายคามโภชก โดยช่วยเลี้ยงโค จนวันหนึ่งพระราชาให้มารับตัวไปในพิธีเลือกคู่ของนางคันธาเทวี*   เพราะต้องการประชดนางคันธาเทวีที่ไม่ยอมเลือกเจ้าชายองค์ใดเป็นคู่ ในขณะที่พี่สาวทั้งหกของนางล้วนมีคู่ครองแล้วทุกคน

สุวรรณสังขและนางคันธาเทวีเคยเป็นคู่กันมาตั้งแต่อดีตชาติ  เมื่อได้เห็นนางคันธาเทวีก็มีจิตปฏิพัทธ์ทันที และเมื่อนางคันธาเทวีอธิษฐานเสี่ยงพวงมาลัยมาสวมที่ข้อมือของสุวรรณสังขในรูปเงาะ พระราชาจึงจำยอมให้สุวรรณสังขในรูปเงาะอภิเษกกับนางคันธาเทวี เมื่อพระราชาจะทรงรดน้ำในพิธีอภิเษกให้ สุวรรณสังขในรูปเงาะปฏิเสธเพราะเกรงจะทำให้เห็นรูปทอง พระราชากริ้วมากจึงไล่สุวรรณสังขกับนางคันธาเทวีไปอยู่นอกเมือง

บรรดาเขยทั้งหกที่เป็นเจ้าชายพากันรังเกียจสุวรรณสังขในรูปเงาะ จึงทูลยุยงพระราชาให้หาทางกำจัดเสีย พระราชาจึงคิดอุบายต่างๆ คือให้เขยทั้งเจ็ดไปหาเนื้อบ้าง สุกรบ้าง และปลาบ้าง แต่ทุกครั้งสุวรรณสังขในรูปเงาะก็หามาได้ ฝ่ายหกเขยต้องไปขอเนื้อ สุกร และปลาจากสุวรรณสังขที่ถอดรูปเงาะออก ทุกคนจึงเข้าใจว่าเป็นพระอินทร์ โดยแต่ละครั้งสุวรรณสังขขอสิ่งแลกเปลี่ยนจากหกเขย คือเมื่อครั้งขอเนื้อก็ขอแลกกับใบหูคนละนิด ครั้งที่ขอสุกรก็ขอแลกกับนิ้วคนละนิด และครั้งที่ขอปลาก็ขอแลกกับจมูกหน่อยหนึ่ง

พระราชาไม่อาจกำจัดสุวรรณสังขในรูปเงาะได้ด้วยวิธีดังกล่าวจึงคิดหาวิธีใหม่ ทำให้ร้อนถึงพระอินทร์ พระอินทร์จึงลงมาช่วยสุวรรณสังขให้ได้แสดงความสามารถให้พระราชาเห็น ด้วยการถามปัญหาพระราชา 2 ข้อ คือแสงสว่างยิ่งได้แก่สิ่งใด สิ่งมืดมัวยิ่งได้แก่สิ่งใด และเมื่อครบ 7 วันขอให้พระราชาเหาะมาตีคลีให้ชนะพระอินทร์ หากหาคนไขปัญหาไม่ได้ และหาคนตีคลีชนะพระอินทร์ไม่ได้จะฆ่าพระราชาเสีย พระราชาหวั่นวิตกมากเพราะไขปัญหาไม่ได้และตีคลีกับพระอินทร์ในอากาศไม่ได้

พระมเหสีทูลให้เรียกสุวรรณสังขในรูปเงาะมาช่วย เพราะครั้งให้หาเนื้อหาปลายังทำได้ ครั้งนี้ก็น่าจะทำได้ พระราชาไม่มีหนทางจึงจำต้องยอมอ้อนวอนสุวรรณสังขในรูปเงาะให้ช่วยเหลือ หากทำสำเร็จจะยกราชสมบัติให้ เมื่อครบกำหนดวันที่ 7 สุวรรณสังขถอดรูปเงาะออก  แล้วไขปัญหาว่าแสงสว่างยิ่งคือบุคคลที่อยู่ในศีล 5 ศีล 8 และบริจาคทาน รวมทั้งยึดมั่นในพระรัตนตรัย ส่วนสิ่งมืดมัวยิ่งคือผู้กล่าวโทษผู้ไม่มีความผิด ทำให้คนอื่นวิวาทกัน ทำปัญจานันตริยกรรม และไม่ฟังคำสอนของปราชญ์  เมื่อตอบปัญหาได้แล้วสุวรรณสังขเหาะขึ้นไปตีคลีจนชนะพระอินทร์

หกเขยเห็นสุวรรณสังขเอาชนะพระอินทร์ได้ก็ริษยาจึงหาเรื่องใส่ร้ายว่าสุวรรณสังขปิดบังความจริงไว้เพื่อลวงเอาราชสมบัติ สุวรรณสังขจึงเผยความจริงเรื่องที่หกเขยเคยขอความช่วยเหลือตนครั้งหาเนื้อ สุกร และปลาโดยนำหลักฐานส่วนใบหู นิ้ว และจมูกมาให้พระราชาดู พระราชากริ้วหกเขยมาก และยกย่องสุวรรณสังขว่ามีบุญญาธิการ พร้อมกับเชิญขึ้นครองเมือง

เมื่อสุวรรณสังขขึ้นเป็นพระราชาแล้วจึงไปรับพระมารดาไปอยู่ที่เมืองพาราณสี เมืองพาราณสีมีความเจริญรุ่งเรืองเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่สุวรรณสังขปกครอง จนความทราบถึงพระเจ้าพรหมทัต จึงส่งราชทูตพร้อมเครื่องบรรณาการมาเชิญสุวรรณสังขกลับไปครองเมืองพรหมนคร สุวรรณสังขกลับไปพรหมนครพร้อมกับพระมารดาและนางคันธาเทวี ปาลก*เสนาบดีกลัวความผิดที่เคยร่วมมือกับมเหสีฝ่ายซ้ายใส่ร้ายสุวรรณสังขและพระมารดาจึงไปยุยงให้พระเจ้าปัญจาลราชยกทัพมาโจมตีพรหมนคร  สุวรรณสังขได้ไปขอความช่วยเหลือจากนางยักษิณีที่ไปเกิดยังดาวดึงส์ นางให้พระขรรค์ที่เพียงแต่แกว่งข้างหน้าข้าศึก ข้าศึกก็จะแตกพ่ายไป สุวรรณสังขจึงมีเกียรติยศเลื่องลือมากยิ่งขึ้น เมืองพรหมนครจึงสงบสุขร่มเย็นด้วยบุญญาธิการของสุวรรณสังข

ผู้เรียบเรียง
สุมาลี ลิ้มประเสริฐ 
เจ้าของสิทธิ์
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
รูปแบบลิขสิทธิ์
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170
ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงวัฒนธรรม
2021 © ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
www.sac.or.th
วันจันทร์-ศุกร์ : 08.00-17.00 น.
TELEPHONE
0-2880-9429
FAX
0-2880-9332
E-MAIL
webmaster@sac.or.th
E-MAIL (งานสารบรรณ)
saraban@sac.or.th

นิสา เชยกลิ่น

นิสา เชยกลิ่น
Content Manager

ช่องทางการรับฟังความคิดเห็น
Application : Smart SAC
ประเภท
  • วรรณคดี
  • ผู้แต่ง
  • ตัวละครและปกิณกะ
เกี่ยวกับ
  • เกี่ยวกับโครงการ
  • นโยบายการใช้งาน
ติดต่อ
  • ติดต่อเรา
  • ศมส.
  • นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล
  • ประกาศความเป็นส่วนตัว
SmartSAC in App Store
SCAN ME
open in App Store
SmartSAC in Play Store
SCAN ME
open in Play Store