TLD-003-4877
หนูวอก (ชื่อตัวละคร)
หนูวอกเป็นตัวละครในบทละครเรื่องวงศเทวราช (ฉบับพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) เป็นนางวานรข้ารับใช้ใกล้ชิดสังขปัด*วานรขุนทหารของวงศเทวราช*เจ้าเมืองสมุทคีรี*
เมื่อตอนที่สังขปัดเขียนกลอนฝากรักถึงกวินไวต์*มเหสีของพระเจ้าโยเสฟ*ได้ให้นางหนูวอกเป็นผู้นำไปส่งให้นายประตูวัง แต่นางหนูวอกทำเกินคำสั่ง ปีนฝาตำหนักเข้าไปทางหน้าต่างแล้วนำจดหมายไปยื่นให้กวินไวต์เอง กวินไวต์เขียนสารตอบเชิงเชิญชวนให้สังขปัดไปหาในตอนดึกของคืนวันนั้น
สังขปัดไปตามนัด ให้นางหนูวอกอยู่เฝ้าพลับพลา นางหนูวอกม่อยหลับไป ตื่นขึ้นมาได้ยินเสียงคนคุยกันในห้องของนางบุษบง* เห็นวงศเทวราชบรรทมกอดนางบุษบงก็รีบไปบอกสังขปัดที่วังของกวินไวต์ นางหนูวอกเห็นสังขปัดกำลังปีนฝาตำหนักก็ตะกายตามขึ้นไปฉวยหางนายไว้แล้วแจ้งข่าว สังขปัดโกรธที่วงศเทวราชผิดสัญญาที่จะยังไม่อยู่ร่วมกับนางบุษบงจนกว่าพิธีอภิเษกสยุมพรจะผ่านพ้นไปเสียก่อน จึงรีบวิ่งกลับไปยังพลับพลา ต่อว่าวงศเทวราชจนวงศเทวราชต้องเสด็จกลับไปยังปราสาทที่ประทับ ส่วนสังขปัดก็หงุดหงิดงุ่นง่าน
นึกจะหาใครใครก็ไม่ออก เล่นหนูวอกเถิดค่อยง่ายกว่าคนอื่น
วัวพันหลักเหมือนเขาว่าตำรายืน มันก็เพรียวพอจะชื่นไปพลางพลาง
ต่อมาเมื่อสังขปัดถูกนางเวฬู*มเหสีท้าวสุวิทธิไชย*ซ้อนกล ร่วมมือกับเหล่าสาวใช้เทน้ำหมากและของโสโครกถูกหน้าตาเนื้อตัวสังขปัดที่กำลังปีนฝาตำหนักจนเปรอะเปื้อนไปทั้งตัว แม้จะไปที่แม่น้ำชำระขนขัดตัวมิให้มีสีมีกลิ่นก็ยังไม่สะอาด เมื่อกลับไปพลับพลาก็ตรงเข้าปลุกนางหนูวอก นางตกใจที่ “เห็นนายกลายเป็นชมพูพาล” จึงวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต สังขปัดวิ่งไล่ เมื่อเข้าตาจนนางหนูวอกก็นั่งลงไหว้แล้วถามสังขปัดว่า “นายแปลงตัวทำไมไม่ชอบกล ข้าเห็นขนเก่างามกว่านี้” สังขปัดรีบพานางหนูวอกและนายแห้ว*วานรรับใช้ไปท่าน้ำแล้วปรึกษาทั้งสองว่าจะทำอย่างไรสีน้ำหมากที่ขนจึงจะหาย นายแห้วมองเห็นต้นมะยมอยู่ใกล้แม่น้ำก็เสนอความเห็นว่าตนกับนางหนูวอกจะช่วยกันเก็บผลมะยมมาพ่นกายสังขปัดให้หายแดง สังขปัดเห็นดีด้วย นางหนูวอกกับนายแห้วช่วยกันเคี้ยวมะยมจนแหลกละเอียดพ่นทั่วตัวสังขปัด แล้วใช้น้ำล้างแต่สีก็ยังไม่หายเกลี้ยง ขนกลับกลายเป็นสีเหลือง
เมื่อไปเข้าเฝ้าวงศเทวราชสังขปัดโกรธที่ครุฑ*ถามถึงสีขนของตนจึงตบปากครุฑ มือถูกจะงอยปากของครุฑตำเลือดไหล สังขปัดจึงเหาะกลับพลับพลา นางหนูวอกเอาผ้าชุบน้ำมาพันมือให้สังขปัดตามคำสั่งแล้วอยู่เฝ้าพยาบาล
หลังจากพิธีอภิเษกสยุมพร คืนต่อมามีงานสโมสรสันนิบาตเลี้ยงฉลอง สังขปัดดื่มสุราเมาอาละวาด ครุฑและท้าววิเรนทร*ต้องช่วยกันใช้ผ้าป่านขาวดักจับสังขปัดห่อมัดไว้ วงศเทวราชสั่งให้กักตัวสังขปัดไว้ในพลับพลาเพื่อมิให้มาก่อเหตุวุ่นวายอีกในงานบอลลีลาศวันรุ่งขึ้น ท้าววิเรนทรสั่งนางหนูวอกและนายแห้วให้อยู่รักษาพยาบาล ห้ามมิให้สังขปัดไปงานบอล
หลังจากท้าววิเรนทรกลับไป วานรทั้งสองแก้มัดสังขปัดออกเฝ้าปรนนิบัติ ครั้นฟื้นขึ้นสังขปัดก็ไปอาละวาดในงานบอลอีกด้วยความโกรธแค้น จึงถูกจับมาส่งให้นางหนูวอกและนายแห้วเฝ้ารักษาพยาบาลอีกครั้ง เมื่อตื่นขึ้นก็เข้าทำร้ายทั้งสองและบรรดาพลวานร สังขปัดคิดแก้แค้นเจ้าเมืองทั้งหลายโดยจะเผาเมืองแล้วลักพากวินไวต์ไปอยู่ด้วย จึงสั่งให้นางหนูวอกและนายแห้ว*ไปเอาน้ำมันยางมาชโลมกายตนแล้วเอานุ่นติดทั่วตัว ส่วนที่หางให้พันด้วยผ้าขี้ริ้วให้แน่นแล้วชโลมน้ำมัน จากนั้นสังขปัดก็เหาะไปกลางเมือง จุดไฟที่ปลายหาง กระโจนไปเผาวังที่ประทับของเจ้าต่างเมืองและวังของวงศเทวราช แล้วสังขปัดก็ลงไปแช่ตัวที่ริมฝั่งน้ำ แต่ร่างกายที่ถูกไฟไหม้ยังคงปวดแสบปวดร้อนจึงเหาะกลับพลับพลา นางหนูวอกและนายแห้วเอาใบไม้มาเคี้ยวพ่นรักษาแผลที่เปื่อยเน่า ยกเว้นที่หางซึ่งพันผ้าไว้แน่นมากจนแก้ไม่ออก
ครั้นสังขปัดรู้ว่าวงศเทวราชกลับเข้าเมืองหลังจากหนีไฟไหม้ก็ให้บริวารหามเข้าเฝ้าทั้งเตียง แต่เหิมเกริมขอให้วงศเทวราชแจกบรรดามเหสียกเว้นนางบุษบงแก่ตนและขุนนางผู้ใหญ่ วงศเทวราชปฏิเสธ แต่จะช่วยรักษาแผลให้ถ้าสังขปัดสัญญาว่าจะไม่บีบบังคับพระองค์อีก สังขปัดไม่ยอมให้รักษา แล้วอาละวาดด้วยพลังโกรธจนในที่สุดต้องสิ้นชีพกลางอากาศเพราะเหาะหนีศรวงศเทวราชแล้วสิ้นแรง
เมื่อสังขปัดสิ้นชีวิตนางหนูวอกและนายแห้วก็พากันกลับไปอยู่ป่า นายแห้วเห็นว่านางหนูวอกเป็นม่าย จึงต้องการจะทำกุศลตอบแทนคุณของนายด้วยการครองคู่อยู่กับนางหนูวอกตามประสาวานรไพร
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory