TLD-003-4934
หัตถิปาลกุมาร (ชื่อตัวละคร)
หัตถิปาลชาดก นิบาตชาดก
หัตถิปาลกุมารเป็นตัวละครในเรื่องหัตถิปาลชาดก วีสตินิบาต ในนิบาตชาดก เป็นพระโพธิสัตว์
พระเจ้าเอสุการีราช*แห่งเมืองพาราณสีมีพราหมณ์ปุโรหิตผู้หนึ่งเป็นสหายมาตั้งแต่วัยเยาว์ ทั้งสองยังไม่มีผู้สืบสกุล วันหนึ่งพระราชาทรงตกลงกับปุโรหิตว่าหากปุโรหิตมีบุตรแต่ฝ่ายเดียว พระองค์ก็จะยกราชสมบัติให้บุตรปุโรหิตนั้น แต่หากพระองค์มีโอรสแต่ฝ่ายเดียว พระโอรสก็จะได้ครอบครองสมบัติของปุโรหิต ต่อมาปุโรหิตเห็นหญิงเข็ญใจคนหนึ่งเดินมากับบุตรชาย 7 คน จึงถามว่าทำอย่างไรจึงมีบุตรชายมากเช่นนั้น หญิงผู้นั้นไม่รู้จะตอบอย่างไร พอดีเหลือบไปเห็นต้นไทรข้างประตูวังจึงตอบไปว่าได้บวงสรวงขอบุตรจากเทพารักษ์ต้นไทร ปุโรหิตได้ฟังก็ลงไปเขย่าต้นไทรและกล่าวโทษว่าพระราชาทรงสละทรัพย์ให้คนมาทำพลีกรรมแก่เทพารักษ์ต้นไทรทุกปี แต่เทพารักษ์ไม่รู้จักบุญคุณ ไม่ให้โอรสแก่พระองค์ ส่วนหญิงเข็ญใจไม่ได้ทำอะไรให้เลยกลับได้บุตรถึง 7 คน แล้วปุโรหิตก็ข่มขู่ว่าหากไม่ให้โอรสแก่พระราชาภายใน 7 วันจะให้คนมาโค่นต้นไทรเสีย เทพารักษ์ร้อนใจจึงไปเฝ้าท้าวจาตุมหาราช เมื่อท้าวจาตุมหาราชไม่อาจช่วยได้ เทพารักษ์ก็ไปทูลขอจากท้าวสักกเทวราช ขณะนั้นในดาวดึงส์มีเทพบุตร 4 องค์ ซึ่งชาติก่อนเป็นช่างทอผ้าในเมืองพาราณสี เมื่อขายผ้าทอแล้วแบ่งทรัพย์เป็น 5 ส่วน ใช้จ่าย 4 ส่วนและทำบุญ 1 ส่วน เมื่อตายแล้วจึงได้ไปเกิดในดาวดึงส์ ท้าวสักกเทวราชบัญชาให้เทพบุตรทั้ง 4 องค์ลงมาเกิดในครรภ์มเหสีพระเจ้าเอสุการีราช เทพบุตรทูลว่าไม่ประสงค์จะเกิดในราชสกุล แต่จะขอเกิดในสกุลพราหมณ์ปุโรหิต เพื่อจะได้ออกบวชเมื่อเจริญวัย เมื่อครบกำหนด 7 วันที่ปุโรหิตคาดโทษไว้แก่เทพารักษ์ต้นไทร ปุโรหิตก็ไปเขย่าต้นไทรแล้วทวงขอโอรสแก่พระราชา เทพารักษ์ปรากฏกายแล้วบอกว่าจะให้บุตร 4 คนแก่ปุโรหิตเอง และบุตรนั้นเมื่อเติบโตก็จะออกบวชทั้ง 4 คน ปุโรหิตไม่อยากให้บุตรออกบวช เมื่อบุตรถือกำเนิดก็มอบให้ผู้อื่นไปเลี้ยงดู บุตรคนแรกชื่อหัตถิปาลอยู่กับคนเลี้ยงช้าง คนที่ 2 ชื่ออัสสปาล*อยู่กับคนเลี้ยงม้า คนที่ 3 ชื่อโคปาล*อยู่กับคนเลี้ยงวัว คนที่ 4 ชื่ออัชปาล*อยู่กับคนเลี้ยงแพะ ปุโรหิตพยายามกีดกันมิให้มีบรรพชิตเข้ามาอยู่ใกล้เพราะเกรงว่ากุมารจะพากันบวชตาม ในเมืองจึงไม่มีบรรพชิตแม้แต่รูปเดียว กุมารทั้งสี่จึงเติบโตขึ้นเป็นคนหยาบช้า เที่ยวแย่งชิงสิ่งของของผู้อื่น เมื่อหัตถิปาลกุมารมีอายุได้ 16 ปี พระเจ้าเอสุการีก็คิดจะยกราชสมบัติให้ตามที่สัญญาไว้กับปุโรหิต แต่ก็ประสงค์จะทดสอบก่อนว่าหัตถิปาลกุมารยินดีในราชสมบัติหรือไม่ พระราชากับปุโรหิตจึงปลอมเป็นฤๅษีเที่ยวภิกขาจารไปที่หน้าบ้านหัตถิปาลกุมาร หัตถิปาลกุมารต้อนรับฤๅษีทั้งสองอย่างดีเพราะเข้าใจว่าเป็นฤๅษีมาจากป่าหิมพานต์ ฤๅษีปุโรหิตบอกความจริงว่าต้องการลองใจกุมารว่าจะยินดีในเพศบรรพชิตหรือไม่ หัตถิปาลกุมารยืนยันว่าตนจะบวชแน่นอน เมื่อกล่าวคติธรรมแด่พระราชาและปุโรหิตถึงเรื่องความไม่เที่ยงแท้ของสังขารแล้ว หัตถิปาลกุมารก็ออกบรรพชา โดยมีมหาชนชาวพาราณสีทิ้งบ้านเรือนออกบวชตามเป็นจำนวนมาก
ฝ่ายพระเจ้าเอสุการีกับปุโรหิตเมื่อไม่อาจยับยั้งหัตถิปาลกุมารได้ ก็ใช้อุบายเดิมไปลองใจอัสสปาลกุมาร หากยินดีในราชสมบัติก็จะให้ครองราชย์ต่อไป อัสสปาลกุมารตอบปฏิเสธแล้วออกบรรพชาเช่นเดียวกับพี่ชาย พระราชากับปุโรหิตจึงไปลองใจโคปาลกุมารและอัชปาลกุมารตามลำดับ แต่ทั้งสองก็ปฏิเสธและออกบรรพชาเช่นเดียวกัน เมื่อบุตรทั้ง 4 คนออกบรรพชาหมดแล้ว ปุโรหิตก็ใคร่ครวญว่าตนเหมือนต้นไม้ที่ทิ้งกิ่งทิ้งใบหมดเหลือแต่ลำต้น ต่อไปก็จะยืนต้นตายเป็นตอไม้ สมควรจะออกบวชบ้างจึงจะดี แล้วปุโรหิตก็ชวนภรรยาและพราหมณ์อีก 60,000 ออกบวชพร้อมกัน ครั้นพระเจ้าเอสุการีทรงทราบว่าปุโรหิตพาบริวารทิ้งสมบัติออกบวชกันหมด ก็ให้ราชบุรุษไปขนทรัพย์สินของปุโรหิตมาเก็บไว้ในพระคลัง พระมเหสีเห็นว่าพระราชาทำเช่นนั้นเหมือนเก็บเอาก้อนเขฬะที่เขาถ่มทิ้งมาไว้กับตน พระนางจึงให้คนไปนำเนื้อสุนัขและเนื้อโคมากองไว้ที่หน้าพระลาน ฝูงแร้งเห็นกองเนื้อก็ลงมากิน แร้งที่มีปัญญากินอิ่มแล้วก็สำรอกออกเพื่อให้ตัวเบาบินไปได้ ส่วนแร้งที่โง่เขลากินจนอิ่มและตัวหนักมากไม่อาจบินพ้นตาข่ายที่เขาวางดักไว้ได้ พระมเหสีจึงให้จับแร้งนั้นไปให้พระราชาทอดพระเนตรแล้วทูลอธิบายเหตุแห่งหายนะของแร้ง พระราชาได้ทรงฟังก็ตกพระทัยจึงเสด็จออกบรรพชา ฝ่ายพระมเหสีและข้าราชบริพาร ตลอดจนชาวเมืองต่างก็พากันออกบวชด้วย กษัตริย์ต่างเมืององค์หนึ่งเห็นเมืองพาราณสีร้างผู้คน มีแต่สมบัติเกลื่อนอยู่เช่นนี้ก็ทรงรำพึงว่าบรรพชานี้ดีแท้ พระราชาจึงทรงละราชสมบัติออกผนวชได้ กษัตริย์องค์นั้นจึงพาไพร่พลออกบรรพชาตาม ทุกคนพากันไปอยู่ที่สำนักของหัตถิปาลดาบสซึ่งท้าวสักกเทวราชให้วิสสกรรมเทวบุตรลงมาสร้างอาศรมให้ที่ป่าหิมพานต์
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory