อาบูหะซัน หรืออาซัน*เป็นตัวละครในบทละครเรื่องอาบูหะซัน เป็นบุตรพ่อค้าแห่งเมืองอาหรับ

วันหนึ่งขณะนั่งอยู่ที่เชิงสะพานกลางเมือง  อาบูหะซันได้พบพระเจ้ากาหลิบ*ซึ่งปลอมพระองค์เป็นชาวเมืองมาเดินเที่ยว  อาบูหะซันจำได้ว่าเคยพบชายผู้นี้มาก่อน และเป็นเหตุให้ตนต้องประสบเคราะห์ร้าย จึงไม่ยอมทักทายและคบเป็นเพื่อนอีก  พระเจ้ากาหลิบขอโทษและขอให้พาไปที่บ้านอีกครั้งหนึ่ง  ทั้งสองกินอาหารและดื่มสุรากันอย่างเพลิดเพลิน  เมื่อได้โอกาสพระเจ้ากาหลิบก็ลอบวางยาอาบูหะซัน และสั่งให้ผู้ติดตามหามร่างอาบูหะซันเข้าไปในวัง ให้นางกำนัลเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบูหะซันเป็นเครื่องทรงกษัตริย์และให้คอยเฝ้าถวายงาน

นางกำนัลชื่อชื่นจิตต์* เป็นผู้มาปลุกอาบูหะซัน  ต่อจากนั้นนางกำนัลชื่อดาวพระศุกร์* และไข่มุกด์* ก็มายืนยันจนอาบูหะซันหลงเชื่อว่าตนเป็นกษัตริย์จริงๆ   อาบูหะซันเต้นรำกับเหล่านางกำนัลอย่างสนุกสนาน  ในที่สุดพระเจ้ากาหลิบซึ่งแอบดูอยู่ก็แสดงพระองค์และเล่าแผนการทั้งหมดให้ฟัง  เมื่อพระเจ้ากาหลิบจะโปรดให้อาบูหะซันรับราชการในวัง  อาบูหะซันทูลขอไว้ว่า

ประการหนึ่งไม่ว่าเวลาไร             จะเข้าไปเฝ้าองค์ทรงธรรม์

ขออย่ามีกฎกำหนดห้าม                จงปล่อยตามสบายผายผัน

พระเจ้ากาหลิบโปรดอาบูหะซันมาก  ได้จัดการแต่งงานอาบูหะซันกับอัวดัด* นางกำนัลของพระมเหสี   อาบูหะซันมีความสุขสบายอยู่ในวังไม่ทันนานทรัพย์สินที่พระเจ้ากาหลิบประทานให้ก็หมดลง  พ่อค้าที่เป็นเจ้าหนี้ก็พากันมาทวงหนี้  อาบูหะซันไม่มีเงินใช้หนี้จึงคิดอุบายให้นางอัวดัดไปทูลพระมเหสีว่าสามีตาย  ส่วนตนไปทูลพระเจ้ากาหลิบว่าภรรยาตาย  ทั้งสองต่างก็ได้ผ้าห่อศพและทองคนละร้อยลิ่มมาเป็นค่าทำศพ  ต่อมาพระเจ้ากาหลิบกับพระมเหสีทรงโต้เถียงกันไม่เป็นที่ยุติว่าผู้ใดตาย  พระเจ้ากาหลิบทรงส่งเมศเรอ*ขุนนางผู้ใหญ่ไปดู  เมศเรอกลับมาทูลยืนยันว่านางอัวดัดตาย  พระมเหสีไม่ทรงเชื่อจึงส่งแม่นมคนชราไปดู  แม่นมกลับมาทูลยืนยันว่าอาบูหะซันตาย  ทั้งสองพระองค์จึงเสด็จไปพิสูจน์ความจริง และพบว่าทั้งสองสามีภรรยาตายจึงประกาศว่าหากใครบอกได้ว่าใครตายก่อนจะได้ทองพันลิ่ม  อาบูหะซันจึงลุกขึ้นมาทูลว่าตนเองตายก่อนและได้รับทองเป็นรางวัลไป