TLD-003-0977
จิ๋นซีฮ่องเต้, พระเจ้า (ชื่อตัวละคร)
พระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้ หรือจิ๋นอ๋องเจ๋ง*เป็นตัวละครในเรื่องไซ่ฮั่น นามเดิมว่าเจ๋ง* เป็นบุตรลิปุดอุย*กับนางจูกี๋*
ลิปุดอุยยกนางจูกี๋ภรรยาให้อิหยิน*ซึ่งเป็นหลานของพระเจ้าจิ๋นเจี๋ยวอ๋อง* อิหยินสำคัญว่าเจ๋งเป็นบุตรของตน ต่อมาอิหยินขึ้นครองเมืองจิ๋น*ได้ 3 ปีก็สิ้นพระชนม์ ขุนนางทั้งปวงจึงยกเจ๋งซึ่งขณะนั้นมีอายุ 13 ปีขึ้นเป็นพระเจ้าจิ๋นอ๋องเจ๋ง* นางจูกี๋จึงมีตำแหน่งเป็นฮองไทเฮ้า ส่วนลิปุดอุยได้เป็นเสียงก๊กจังฮูตำแหน่งผู้สำเร็จราชการ
ต่อมาพระเจ้าจิ๋นอ๋องเจ๋งได้ให้เจียงหำ*กับอองเจียน*เป็นแม่ทัพไปปราบหัวเมืองใหญ่ 6 เมือง คือ เมืองฌ้อ* เมืองเตียว* เมืองเอี๋ยน* เมืองงุย* เมืองหัน* และเมืองเจ๋*ได้ทั้งหมด จากนั้นได้มีจดหมายต่อว่าเสียงก๊กจังฮูและให้ไปอยู่ที่เมืองชกเต้เสฉวน* เสียงก๊กจังฮูกินยาพิษฆ่าตัวตาย พระเจ้าจิ๋นอ๋องเจ๋ง จึงให้เอาศพไปฝังไว้นอกเมือง
เมื่อพระเจ้าจิ๋นอ๋องเจ๋งทรงยึดครองหัวเมืองทั้งหกได้ เห็นว่าพระองค์มีบุญมากจึงเปลี่ยนพระนามเป็นพระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้เป็นกษัตริย์ต้นวงศ์ เพื่อเชื้อพระวงศ์จะได้ครองราชสมบัติสืบเนื่องต่อไปเป็นยี่ซีฮ่องเต้* ซาซีฮ่องเต้* ไปจนสิ้นวงศ์ และได้ทรงจัดแบ่งหัวเมืองทั้งหมดเป็นเมืองเอก 36 หัวเมือง แล้วคัดเลือกผู้มีสติปัญญาเข้ามาอยู่ที่เมืองห้ำเอี๋ยง* ให้เอาทองคำหล่อเป็นรูปคนไว้ 12 คน เพื่อให้มีกิตติศัพท์เลื่องลือว่าเมืองห้ำเอี๋ยงบริบูรณ์ไปด้วยสมบัติ
ต่อมาพระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้ได้เสด็จเลียบพระนคร ครั้นเสด็จถึงเมืองไฝ่ไส*ได้ทอดพระเนตรเห็นนิมิตร้าย มีรัศมี 5 ประการ จึงเสด็จไปยังภูเขาโจเต๊กสาร*ให้ทำศิลาจารึกไว้ว่าจิ๋นซีฮ่องเต้ทรงมีบุญญาธิการแล้วเปลี่ยนชื่อภูเขาเป็นตังงักถายสาร* จากนั้นเสด็จกลับเมือง พระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้ ทรงพระสุบินร้ายว่าราชสมบัติของพระองค์จะตกเป็นของผู้อื่น จึงให้ซิวอก*ออกเดินทางหายาอายุวัฒนะ แต่ซิวอกหายไปไม่กลับมา พระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้จึงทรงให้หลอเสง*ขุนนางเดินทางไปตามหาแต่ไม่พบ หลอเสงได้พบผู้เฒ่าคนหนึ่งให้นำหนังสือมาถวาย พระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้ทอดพระเนตรแล้วอ่านไม่ออก จึงทรงให้ขุนนางชื่อหลีสือ*อ่าน ได้แต่ความว่าเมืองจิ๋นจะเสียเพราะปักเฮา* พระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้จึงให้มงเทียม*คุมไพร่พลไปสร้างกำแพงกั้นทางทิศเหนือ แล้วให้ถมทะเลทางทิศตะวันออก และสร้างพระราชวังอาป๋งจ๋ง*ทางทิศตะวันตกซึ่งทำความเดือดร้อนให้แก่ราษฎรเป็นอันมาก
พระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้ทรงเชื่อฟังหลีสือซึ่งทูลว่าผู้ที่เรียนรู้ตำรากลศึกจะเป็นศัตรูต่อแผ่นดินจึงสั่งให้เก็บตำราโบราณและตำรากลศึกมาเผาจนสิ้น และให้จับผู้ที่มีวิชาความรู้มาจำขัง ทั้งให้ประหารผู้ที่นินทาพระองค์ด้วย ฮูโซ*ราชบุตรองค์โตทูลขอให้ทรงยกเลิกคำสั่งเหล่านั้นเพราะข้าแผ่นดินได้รับความเดือดร้อน แต่พระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้ไม่ทรงฟังทั้งยังกริ้วจึงส่งฮูโซให้ไปกำกับมงเทียมแม่ทัพนายกองในการสร้างกำแพงใหญ่
ต่อมาพระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้ได้เสด็จประพาสอีก ในครั้งนี้ได้เสด็จมาทางเมืองเอียงบู๊กวาน*เตียวเหลียง*ได้วางอุบายให้ชังไหก๋ง*ลอบปลงพระชนม์พระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้แต่ไม่สำเร็จ ชังไหก๋งถูกจับและฆ่าตัวตายโดยไม่ยอมซัดทอดถึงเตียวเหลียง แต่เตียวเหลียงหลบหนีไปได้
ครั้นเสด็จมาถึงเมืองตั๋งกุ๋น*ได้พบศิลาจารึกไว้ว่าพระองค์จะสิ้นพระชนม์แผ่นดินจะแตกแยก พระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้ให้จับหาคนร้ายแต่ไม่ได้จึงทรงให้จับชาวบ้านใกล้เคียงมาจะฆ่าเสีย ครั้นพระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้เสด็จกลับมาถึงเมืองชองจิ๋ว* ทรงพระสุบินว่าพระองค์ได้ต่อสู้กับพญานาค พอตกพระทัยตื่นจึงเสด็จต่อไปยังตำบลสาขีว*ก็ทรงพระประชวรมากขึ้น จึงตรัสกับหลีสือฝากฝังบ้านเมือง แล้วทรงพระอักษรรับสั่งให้ฮูโซครองราชสมบัติแล้วมอบตราหยกให้หลีสือ
จากนั้นพระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้ก็สิ้นพระชนม์ในตำบลสาขีว พระชันษา 50 ปี อยู่ในราชสมบัติได้ 37 ปี เฮาไฮ*ราชบุตร เตียวโก๋*ขันที และหลีสือ ได้ร่วมมือกันปกปิดข่าวพระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้สิ้นพระชนม์แล้วให้นำปลาเน่ามาใส่ไว้ท้ายรถ อัญเชิญพระศพกลับเมืองห้ำเอี๋ยง
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory