กากนาสูรเป็นตัวละครในบทละครเรื่องรามเกียรติ์ เป็นยักษ์แต่มีปากเป็นกา มีศักดิ์เป็นอัยกีของทศกัณฐ์* เป็นมารดาของสวาหุ*และมารีศ* เมื่อนางกากนาสูรจะแสดงฤทธิ์จะแปลงร่างเป็นกายักษ์
ครั้งหนึ่งท้าวทศรถ*ทำพิธีหุงข้าวทิพย์ในกรุงอยุธยา* นางมณโฑ*ซึ่งอยู่ในกรุงลงกา*ได้กลิ่นหอมของข้าวทิพย์ปรารถนาจะกินข้าวทิพย์นั้น ทศกัณฐ์จึงใช้ให้นางกากนาสูรไปชิงก้อนข้าวทิพย์ในกรุงอยุธยามาให้นางมณโฑเสวย นางกากนาสูรสามารถชิงข้าวทิพย์มาได้กึ่งปั้น
ต่อมาทศกัณฐ์อิจฉาเหล่าฤๅษีและเกรงว่าฤๅษีจะสอนให้เหล่ากษัตริย์มีฤทธิ์แล้วจะเป็นภัยต่อเหล่าอสูร ทศกัณฐ์สั่งนางกากนาสูรให้พาบริวารไปทำลายพิธีบำเพ็ญพรตของเหล่าฤๅษีทุก ๆ 7 วัน นางกากนาสูรก็นำอสูรกามากวนฤๅษีตามคำบัญชาของทศกัณฐ์โดยได้โจมตีฤๅษีอย่างหนัก ดังความว่า
มาถึงซึ่งอาศรมบท แห่งพระนักพรตทั้งหลาย
บินว่อนร่อนร้องวุ่นวาย ตาหมายฉาบโฉบลงมา
เย่อแย่งหลังคาอาศรม หักถล่มดั่งต้องพายุกล้า
ไล่ขยิกจิกตีพระสิทธา ฉวยเฉี่ยวชฎาวุ่นไป
พวกฤๅษีเดือดร้อนจากการก่อกวนของนางกากนาสูรและบริวาร ไม่อาจประกอบกิจพิธีของนักพรตได้จึงพากันไปเฝ้าฤๅษีวสิษฐ์*และฤๅษีวิศวามิตร* ฤๅษีทั้งสองจึงเดินทางมากรุงอยุธยาเพื่อเชิญพระราม*ไปสังหารอสูรกาที่มาเบียดเบียนเหล่าฤๅษี พระรามและพระลักษณ์*ตามฤๅษีทั้งสองมาในป่า ได้เวลาพระรามแผลงศรสังหารเหล่ากา ส่วนพระลักษณ์ก็แผลงศรเป็นไฟเผา ทำให้อสูรกาล้มตายเป็นจำนวนมาก
นางกากนาสูรเห็นเหล่าบริวารล้มตายก็โกรธจึงเข้าต่อสู้กับพระรามและพระลักษณ์ ทั้งสองใช้ศรตีถูกปีกของนางกากนาสูร ในที่สุดพระรามก็แผลงศรยิงนางกากนาสูรตกลงในน้ำ เมื่อนางกากนาสูรสิ้นชีวิตก็คืนร่างเป็นยักขินีดังเดิม