โลโก้ของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธรLogo
logo
  • หน้าหลัก
  • วรรณคดี
  • ผู้แต่ง
  • ตัวละครและปกิณกะ
  • เกี่ยวกับโครงการ
    • เกี่ยวกับโครงการ
    • เกี่ยวกับโครงการ
    • นโยบายการใช้งาน
    • ติดต่อเรา
    • ศมส
ขยายขนาดตัวอักษร

ตัวละครและปกิณกะ

  1. หน้าหลัก
  2. ตัวละครและปกิณกะ
  3. โชติกเศรษฐี

โชติกเศรษฐี

  • โชติกเศรษฐี
  • ชื่อตัวละคร
รหัสข้อมูล
TLD-003-1271
ชื่อ
โชติกเศรษฐี ( ชื่อตัวละคร)
วรรณคดี
ไตรภูมิโลกวินิจฉยกถา  ไตรภูมิกถา  
คำอธิบายเนื้อเรื่อง

โชติกเศรษฐีเป็นตัวละครในเรื่องไตรภูมิกถา เป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยมากที่สุดในกรุงราชคฤห์*มหานคร บ้านของโชติกเศรษฐีเป็นปราสาท 7 ชั้น ประดับด้วยแก้วสัตตพิธรัตนะ* พื้นบ้านเป็นแก้วผลึกใสงามราวกับกระจกที่ขัดไว้ 1,000 ครั้ง ปราสาทนี้ไม่ต้องจุดไต้ใช้ไฟให้แสงสว่างเลยเพราะอาศัยแสงอันสว่างรุ่งเรืองของรัศมีแห่งแก้วทั้งปวง รอบบ้านมีกำแพงแก้วสัตตพิธรัตนะ 7 ชั้น ระหว่างกำแพงแก้วแต่ละชั้นมีต้นกัลปพฤกษ์ซึ่งเป็นไม้ประจำอุตตรกุรุทวีป*เรียงรายอยู่เป็นแถวๆ ทั้ง 4 มุมบ้านเศรษฐีเป็นขุมทองขนาดใหญ่ กว้าง 2,000-8,000 วา ลึก 240,000 โยชน์ ทั้งแก้วทั้งทองกองสุมสูงขึ้นมาถึงปากขุม ขุมทรัพย์เหล่านี้แม้ตักเอาไปเท่าไร ๆ ก็ไม่มีพร่อง กลับเต็มขึ้นมาเหมือนเดิม ในปากประตูกำแพงบ้านของโชติกเศรษฐีทั้ง 7 ชั้นนั้นมียักษ์เฝ้าอยู่ 7 ตน มียักษ์บริวารอยู่เฝ้าอีกมากมาย ประตูชั้นนอกมียักษ์เฝ้า 1,000 ตน ชั้นที่ 2 มี 2,000 ตน จนถึงชั้นที่ 7 มียักษ์บริวาร 7,000 ตน

ภรรยาโชติกเศรษฐีเป็นนางแก้ว* “เมื่อมาแต่อุดรกุรุทวีปนั้นนางเอาหม้อข้าวแก้วมาด้วยลูกหนึ่ง แลเอาอันเป็นก้อนเส้าเท่าลูกฟักมาด้วย 3 ก้อน แลแก้วนั้นชื่อโชติปาสาณ” นอกจากนั้นนางได้นำข้าวสารชื่อสัญชาติสาลี*อันมีกลิ่นหอมมาด้วย นางใส่ข้าว 2 ทะนานลงในหม้อแก้วแล้วยกขึ้นตั้งบนก้อนเส้าโชติปาสาณ* “ครั้นเอาหม้อขึ้นตั้งบัดเดี๋ยว ไฟหากลุกขึ้นในก้อนเส้าแก้วนั้นเอง ครั้นว่าข้าวนั้นสุกไสร้ ไฟหากดับไปเองแล เมื่อแกงและทำขนมข้(าว)ต้มของกินอันใดๆ ก็ดุจเดียวแล”

ชาวบ้านชาวเมืองต่างพากันมาขอชมสมบัติของเศรษฐี โชติกเศรษฐีก็ให้หุงข้าว 2 ทะนานเลี้ยงฝูงชน ข้าวนั้นก็ไม่รู้จักหมด เศรษฐีนำเครื่องประดับมากมายจากต้นกัลปพฤกษ์มาประดับให้ฝูงชนทุกคน แล้วจึงเผยขุมทองให้ชมพลางกล่าวว่า “คนผู้ใดจะใคร่เอาเงินทองแก้วแหวนเท่าใดๆ ก็ดีแลให้เก็บเอาโดยใจท่านผู้ปรารถนาเถิด เพราะขุมทองนั้นก็ไม่พร่องไม่หมดเลย”

วันหนึ่งพญาพิมพิสารราช*ผู้ครองกรุงราชคฤห์มีพระทัยใคร่เห็นสมบัติของมหาเศรษฐีจึงเสด็จมา เมื่อชมปราสาทแล้วเศรษฐีก็ทูลเชิญให้เสวยอาหารที่ประกอบด้วยข้าวสารจากอุตตรกุรุทวีป พญาพิมพิสารเสวยอย่างเอร็ดอร่อยแล้วเศรษฐีก็เลี้ยงไพร่พลที่มาด้วยกับทั้งพวกชาวเมืองทั้งหลายโดยให้กินข้าวและแกงจากหม้อเดียวกันนั้นโดยไม่รู้จักหมดสิ้น พญาพิมพิสารตรัสถามถึงภรรยาโชติกเศรษฐี เศรษฐีจึงไปนำนางมาเข้าเฝ้า นางถือพัดวิชนีโบกให้พญาพิมพิสาร กลิ่นอายธูปจากเสื้อผ้าอาภรณ์ของพระองค์ซึ่งเกิดจากการอบร่ำด้วยควันของหอมได้เข้าตานางจนนางแก้วนั่งน้ำตาไหล เศรษฐีอธิบายให้พญาพิมพิสารฟังว่าในปราสาทนี้ไม่มีการใช้ไฟเลย แสงสว่างหรือการอบรมต่าง ๆ ล้วนเกิดจากแก้วมณีรัตนะแล้วจึงนำแก้วดวงหนึ่งใหญ่เท่าลูกแตงโมลูกใหญ่หาค่ามิได้มาถวายให้ทรงใช้แทนไฟ

ในวันที่พญาพิมพิสารเสด็จชมปราสาทแก้วของโชติกเศรษฐีนั้น พญาอชาตศัตรู*ผู้โอรสได้ตามเสด็จด้วยและคิดในใจว่า “วันใดกูได้เป็นพญาไส้แลกูจะชิงเอาปราสาทนี้แก่กูแล” เมื่อเสด็จกลับวังแล้วจึงชักชวนพระบิดาให้ชิงสมบัติเศรษฐี พญาพิมพิสารตรัสว่าสมบัติเหล่านั้นเกิดเพราะบุญของโชติกเศรษฐีไม่ใช่บุญของผู้อื่นจึงไม่ถูกต้องที่จะชิงเอามา วันเวลาล่วงเลยไปนานจนถึงกาลที่พญาอชาตศัตรูสังหารพระบิดาตามคำชักจูงของเทวทัต*แล้วจึงทรงคิดจะชิงปราสาทแก้วของโชติกเศรษฐี วันนั้นเป็นวันพระ เศรษฐีไปถือศีลฟังธรรมอยู่ในสำนักพระพุทธเจ้าที่เวฬุวัน* พญาอชาตศัตรูยกพลเข้าโจมตีบ้านเศรษฐีแต่ถูกยักษ์ที่รักษาประตูกำแพงแก้วชั้นนอกและบริวารยักษ์ 1,000 ตนขับไล่ออกมา พญาอชาตศัตรูวิ่งหนีไปถึงอารามของพระพุทธเจ้า โชติกเศรษฐีครั้นรู้ว่าพญาอชาตศัตรูจะชิงสมบัติก็กล่าวว่า “สมบัติแห่งกูสิ่งใดๆ ก็ดี... แลข้าบ่มิได้ให้แก่ผู้ใด แลผู้นั้นก็มิอาจเอาสมบัติข้าได้” แล้วกล่าวต่อว่าแม้แต่แหวน 20 วงที่นิ้วทั้ง 10 นี้ ถ้าพญาอชาตศัตรูสามารถถอดออกได้ก็จะยกให้ พญาอชาตศัตรูผู้มีพละกำลังได้พยายามทุกวิธี ที่จะถอดแหวนจากนิ้วเศรษฐีแต่ก็ไม่สำเร็จจึงนั่งลงอยู่ เศรษฐีจึงกล่าวอนุญาตว่าแหวน 20 วงนี้ยกให้พระองค์ เมื่อเอาผ้าเช็ดหน้ามาปูรองแล้ว เศรษฐีก็หยอดมือลงเหนือผ้านั้น แหวนทั้ง 20 วงได้ลอยออกจากนิ้วมาตกอยู่ที่ผ้านั้นทั้งหมด

โชติกเศรษฐีเกิดความสังเวชใจจึงทูลขอลาบวช พญาอชาตศัตรูดีพระทัยที่จะยึดเอาปราสาทแก้วเป็นของตน เมื่อโชติกเศรษฐีบวชแล้วได้บรรลุถึงอรหัตผล ทรัพย์สมบัติทั้งหลายที่เกิดมาด้วยบุญของโชติกเศรษฐีก็จมหายลงในแผ่นดินทั้งสิ้น ส่วนนางแก้วผู้เป็นภรรยานั้น เทวดาได้พากลับคืนไปสู่แผ่นดินอุตตรกุรุทวีปดังเดิม

ผู้เรียบเรียง
วัลยา ช้างขวัญยืน 
เจ้าของสิทธิ์
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
รูปแบบลิขสิทธิ์
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170
ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงวัฒนธรรม
2021 © ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
www.sac.or.th
วันจันทร์-ศุกร์ : 08.00-17.00 น.
TELEPHONE
0-2880-9429
FAX
0-2880-9332
E-MAIL
webmaster@sac.or.th
E-MAIL (งานสารบรรณ)
saraban@sac.or.th

นิสา เชยกลิ่น

นิสา เชยกลิ่น
Content Manager

ช่องทางการรับฟังความคิดเห็น
Application : Smart SAC
ประเภท
  • วรรณคดี
  • ผู้แต่ง
  • ตัวละครและปกิณกะ
เกี่ยวกับ
  • เกี่ยวกับโครงการ
  • นโยบายการใช้งาน
ติดต่อ
  • ติดต่อเรา
  • ศมส.
  • นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล
  • ประกาศความเป็นส่วนตัว
SmartSAC in App Store
SCAN ME
open in App Store
SmartSAC in Play Store
SCAN ME
open in Play Store