โลโก้ของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธรLogo
logo
  • หน้าหลัก
  • วรรณคดี
  • ผู้แต่ง
  • ตัวละครและปกิณกะ
  • เกี่ยวกับโครงการ
    • เกี่ยวกับโครงการ
    • เกี่ยวกับโครงการ
    • นโยบายการใช้งาน
    • ติดต่อเรา
    • ศมส
ขยายขนาดตัวอักษร

วรรณคดี

  1. หน้าหลัก
  2. วรรณคดี
  3. กากีคำกลอน

กากีคำกลอน

  • TLD-001-014
  • นิทาน
รหัสข้อมูล
TLD-001-014
ชื่อเรื่องหลัก
กากีคำกลอน
ยุคสมัย
รัตนโกสินทร์ ,รัชกาลที่ 1 
ผู้แต่ง
เจ้าพระยาพระคลัง (หน) 
คำประพันธ์
นิทาน
เนื้อเรื่องย่อ
กากีคำกลอนเป็นวรรณคดีนิทานที่เจ้าพระยาพระคลัง (หน) แต่งในสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์  โดยนำเรื่องมาจากนิบาตชาดก  ขุททกนิกาย  พระสุตตันปิฎกในพระไตรปิฎก ซึ่งมีชาดกเรื่องกากีปรากฏอยู่ 3 เรื่องด้วยกันคือ กากาติชาดก  สุสันธีชาดก  และกุณาลชาดก
 
เรื่องกากีคำกลอนเริ่มด้วยการกล่าวถึงอดีตชาติของพระโพธิสัตว์ที่เป็นพญาครุฑแล้วจึงเล่าชาดกเรื่องนี้ว่า ท้าวพรหมทัตแห่งกรุงพาราณสีมีพระมเหสีชื่อกากี  นางมีรูปงาม มีกลิ่นกายหอมฟุ้งดั่งดอกไม้ทิพย์ ชายใดได้สัมผัสกลิ่นกายนางก็จะติดกายชายนั้นนานไปถึงเจ็ดวัน ท้าวพรหมทัตจึงสิเน่หานางยิ่งนัก 
 
ท้าวพรหมทัตโปรดเล่นสกาเป็นที่สุด  บางครั้งเล่นจนลืมวันลืมคืน  ครั้งหนึ่งนางกากีไม่เห็นเสด็จมาหาดังเคยก็สงสัย นางกากีจึงมาแอบดูและได้สบเนตรกับมาณพหนุ่มที่กำลังทรงสกากับท้าวพรหมทัต เกิดความปฏิพัทธ์ซึ่งกันและกัน  ส่วนมาณพหนุ่มคือพญาครุฑแปลงกา เมื่อถึงเวลาพลบค่ำก็ลาท้าวพรหมทัตแล้วคืนรูปเป็นพญาครุฑดังเดิม บันดาลให้เกิดพายุใหญ่แล้วบินมาอุ้มนางกากีไปเสพสุขอยู่ ณ วิมานฉิมพลี 
 
ส่วนทางเมืองพาราณสี  หลังจากเกิดมหาพายุแล้วนางกากีหายไป  ท้าวพรหมทัตโทมนัสพระทัยยิ่งนัก  ทรงคร่ำครวญถึงนางจนสลบ  เมื่อฟื้นคืนสติคนธรรพ์พี่เลี้ยงทูลเล่าว่าได้เห็นนางกากีกับมาณพหนุ่มสบเนตรกัน  ต่อมาเกิดความโกลาหลบนฟ้าแล้วนางก็หายไป  ชะรอยว่าพญาครุฑจะแปลงกายมาลักพานางไป  จึงขออาสาไปสืบหาความจริง  
 
เจ็ดวันต่อมาพญาครุฑแปลงกายเป็นมาณพหนุ่มมาเล่นสกากับท้าวพรหมทัตตามปกติเพื่อกลบเกลื่อนพิรุธ เมื่อพญาครุฑกลับ คนธรรพ์ก็แปลงเป็นไรแทรกขนพญาครุฑไปยังวิมานฉิมพลี  ครั้นรุ่งเช้าพญาครุฑออกไปเที่ยวป่าหิมพานต์  ไรก็คืนร่างเป็นคนธรรพ์ดังเดิม นางกากีเห็นคนธรรพ์ก็ถามถึงท้าวพรหมทัต คนธรรพ์แสร้งโกหกว่าพระองค์มิได้ทรงอาลัยอาวรณ์นางแต่อย่างใด  แต่ตนต่างหากคือผู้ที่เป็นทุกข์จึงมาตามหานางด้วยความรัก ครั้นคนธรรพ์เล้าโลมนางก็ยินยอมพร้อมใจ ถึงเวลาเย็นพญาครุฑกลับมา คนธรรพ์ก็หลบซ่อนตัว เป็นเช่นนี้จนครบ 7 วัน  เมื่อพญาครุฑถึงกำหนดลงเล่นสกากับท้าวพรหมทัต คนธรรพ์ก็แปลงกายเป็นไรแทรกขนพญาครุฑกลับไปด้วย
 
ท้าวพรหมทัตทรงเล่นสกากับพญาครุฑร่างแปลงอย่างเป็นปกติ ครั้นเมื่อพญาครุฑกลับไปจึงได้สืบสาวความจริง คนธรรพ์เล่าโดยเบี่ยงเบนความจริงว่า ตนได้พบนางกากี แต่นางไม่ยินดียินร้าย  และเกรงว่านางจะบอกพญาครุฑ  จึงต้องปิดปากนางโดยอยู่ร่วมกับนาง  ท้าวพรหมทัตเสียพระทัยยิ่งนัก  แต่ก็ไม่ปรารถนาจะจองเวร  ขอแต่ให้คนธรรพ์ช่วยให้ได้นางกากีกลับคืนมา  เมื่อครบกำหนดอีก 7 วันต่อมา  พญาครุฑมาเล่นสกาตามเคย  คนธรรพ์ได้บรรเลงพิณขับร้องเพลงที่มีเนื้อหาเสียดเย้ยเกี่ยวกับกลิ่นกายของกากี  พญาครุฑจึงรู้ความจริง  รู้สึกทั้งสลดใจและเสียหน้าเสียเชิงชาย  รีบลากลับมาเค้นถามแต่นางไม่ยอมรับ  พญาครุฑจึงอุ้มนางมาวางไว้ที่หน้าพระลานเมืองพาราณสี  และกล่าวตัดขาดจากนางอย่างสิ้นเยื่อใย
 
ฝ่ายท้าวพรหมทัตเมื่อเห็นนางกากีก็ตรัสเสียดสีเย้ยหยันนางอย่างสาแก่ใจ  ส่วนนางกากีทูลความเท็จจนท้าวพรหมทัตกริ้ว  จึงให้ลอยแพนางกากีไปเสีย  เพราะสตรีเยี่ยงนางถ้าเลี้ยงไว้ก็หนักแผ่นดิน
 
นอกจากเนื้อหาที่โลดโผนสนุกสนาน  และฉากที่ตื่นตาตื่นใจแเล้ว  กากีคำกลอนของเจ้าพระยาพระคลัง (หน)  ยังนำเสนอแก่นเรื่องหรือแนวคิดสำคัญคือ “มารยาของสตรีชั่วร้าย” ได้อย่างชัดเจนยิ่ง ผ่านบทบาทและพฤติกรรมของนางกากีซึ่งเป็นตัวละครที่มีสีสัน มีชีวิตชีวาที่สุด
 
อย่างไรก็ตาม  เรื่องกากีมิใช่จะแสดงมารยาของหญิงชั่วร้ายเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นข้อบกพร่องด้านจริยธรรมของบรรดาบุรุษไว้ด้วย  โดยเฉพาะพญาครุฑซึ่งต้องได้รับบทเรียนที่เจ็บปวดแสนสาหัสกับการประพฤติผิดศีล  คือการเป็นชู้กับภรรยาของชายอื่นจนถึงขั้นลักพาตัวไปไว้ครอบครอง จึงถูกกรรมสนองกรรม  คือ  คนธรรพ์วางแผนซ้อนกลอย่างที่เรียกว่า  “หนามยอกเอาหนามบ่ง” จนถึงกับครวญออกมาด้วยความสลดใจในพฤติกรรมของตนเองว่า
 
ครั้งนี้เสียรักก็ได้รู้   ถึงเสียชู้ก็ได้เชาวน์ที่เฉาฉงน
เป็นชายหมิ่นชายต้องอายคน  จำจนจำพรากอาลัยลาน
 
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้กากีคำกลอนของเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ประทับใจผู้อ่านผู้ฟังนั้นคือความเป็นเลิศทางกวีโวหาร  มีผู้นำบทกลอนจากเรื่องนี้ไปขับร้องกันอย่างแพร่หลาย  โดยเฉพาะบทที่คนธรรพ์ขับร้องเสียดเย้ยพญาครุฑเป็นนัย ๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างตนกับนางกากี  ว่า
 
รื่นรื่นชื่นจิตพี่จำได้   เหมือนเมื่อไปร่วมภิรมย์ประสมศรี
ในสถานพิมานสิมพลี   กลิ่นยังซาบทรวงพี่ทั้งวรกาย
นิจจาเอ๋ยจากเชยมาเจ็ดวัน   กลิ่นสุคันธรสรื่นก็เหือดหาย
ฤาว่าใครแนบน้องประคองกาย  กลิ่นสายสวาทซาบอุรามา
 
ด้วยคุณค่าทางด้านเนื้อหาและวรรณศิลป์ที่โดดเด่นดังกล่าวมาโดยสังเขปย่อมยืนยันได้ว่าเหตุใดเรื่องกากีคำกลอนของเจ้าพระยาพระคลัง (หน) จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นบทนิพนธ์ร้อยกรองชิ้นเอกเรื่องหนึ่ง
 
ผู้เรียบเรียง
บุหลง ศรีกนก 
เอกสารอ้างอิง

ราชสมบัติ (การเวก  รัตนกุล), พระยา. กลอนนิราศเกาะแก้วกาลกัตตา. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร, 2463. (มหาอำมาตย์ตรี  พระยารัตนกุลอดุลยภักดี (จำรัส รัตนกุล) พิมพ์ครั้งแรกในงานปลงศพสนองคุณมารดา  เมื่อปีวอก พ.ศ. 2463)

รูปแบบลิขสิทธิ์
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)

คำสำคัญ

  • กากี
  • ท้าวพรหมทัต
  • พญาครุฑ
  • คนธรรพ์
  • เมืองพาราณสี
  • กลิ่นกาย
  • กลิ่นกายหอม
20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170
ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงวัฒนธรรม
2021 © ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
www.sac.or.th
วันจันทร์-ศุกร์ : 08.00-17.00 น.
TELEPHONE
0-2880-9429
FAX
0-2880-9332
E-MAIL
webmaster@sac.or.th
E-MAIL (งานสารบรรณ)
saraban@sac.or.th

นิสา เชยกลิ่น

นิสา เชยกลิ่น
Content Manager

ช่องทางการรับฟังความคิดเห็น
Application : Smart SAC
ประเภท
  • วรรณคดี
  • ผู้แต่ง
  • ตัวละครและปกิณกะ
เกี่ยวกับ
  • เกี่ยวกับโครงการ
  • นโยบายการใช้งาน
ติดต่อ
  • ติดต่อเรา
  • ศมส.
  • นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล
  • ประกาศความเป็นส่วนตัว
SmartSAC in App Store
SCAN ME
open in App Store
SmartSAC in Play Store
SCAN ME
open in Play Store