ก๋งจูบุน หรือจิ๋นมกก๋ง*เป็นตัวละครในเรื่องเลียดก๊ก เป็นเจ้าเมืองจิ๋น*
ก๋งจูบุนเป็นเจ้าเมืองจิ๋น 6 ปียังไม่มีภรรยาจึงให้ก๋งจูจี*ไปขอนางเป๊กกี*บุตรีจิ้นเฮียนก๋ง*เจ้าเมืองจิ้น* จิ้นเฮียนก๋งก็ยอมยกให้ ก๋งจูบุนจึงแต่งเครื่องบรรณาการไปให้จิ้นเฮียนก๋งและรับนางเป๊กกีมา
ต่อมาก๋งจูบุนยกทัพไปรบกับเกียกเงา*ผู้รักษาตำบลกัวจิว*เป็นทหารเอกของเงาลี*เจ้าเมืองเกียงหยง* เกียกเงาแพ้ ตำบลกัวจิวจึงขึ้นกับเมืองจิ๋น ครั้นเซ็กปัน*เจ้าเมืองไซหยง*รู้ข่าวจึงส่งอิวอี*นำเครื่องบรรณาการมาผูกไมตรีกับเมืองจิ๋น ก๋งจูบุนใคร่ได้อิวอีมาอยู่ด้วยจึงปรึกษากับไลสูเหลียว*ออกอุบายให้อิวอีแตกกับเซ็กปันจนอิวอียอมมาอยู่เมืองจิ๋น
ก๋งจูบุนยกทัพไปตีเมืองไซหยง เซ็กปันเจ้าเมืองไซหยงสู้ไม่ได้ก็ยอมขึ้นกับเมืองจิ๋น ก๋งจูบุนจัดงานเลี้ยงฉลองชัยชนะเสพสุรามากจนหลับไปถึง 3 วัน ฝันว่าได้พบหญิงงามซึ่งบอกให้ตนไปนั่งหน้าวิมานและพบเทวดาบอกให้ไปปราบเมืองจิ้น สั่งความถึง 3 ครั้ง หญิงนั้นบอกว่าชื่อโปฮูหยิน*อยู่ที่เขาไทแปะสัน* นางบอกให้ปลูกศาลจะทำให้เมืองจิ๋นเป็นเมืองเอกปรากฏไปถึงหมื่นปี ต่อมาก๋งจูบุนพาขุนนางไปเที่ยวเขาไทแปะสันให้ปลูกศาลเทพารักษ์บนเขานั้น เมืองจิ๋นก็บริบูรณ์ขึ้นกว่าแต่ก่อน
ต่อมาเมืองจิ้นเกิดจลาจล ก๋งจูบุนรู้ข่าวจึงจะยกทัพไปช่วยปราบปรามแต่ไม่รู้ว่าจะสนับสนุนใครดีระหว่างต๋งนี*กับอีฮู*จึงใช้ก๋งจูจีไปสืบ อีฮูเสนอว่าจะยกเมืองริมน้ำ 5 หัวเมืองกับแผ่นดินอีกส่วนหนึ่งให้เจ้าเมืองจิ๋นเพื่อเป็นการตอบแทน ก๋งจูบุนจึงเกณฑ์ทัพให้ไปส่งอีฮูเข้าเมืองจิ้น เมื่อเข้าเมืองได้แล้วขุนนางจึงตั้งอีฮูเป็นจิ้นฮุยก๋ง* เมื่ออีฮูได้เป็นเจ้าเมืองจิ้นแล้วเสียดายหัวเมืองที่ต้องยกให้จึงทำหนังสือผัดผ่อนขอเวลาจัดการบ้านเมืองก่อน เมื่อก๋งจูบุนได้หนังสือของจิ้นฮุยก๋งก็โกรธจึงวางแผนหาทางสนับสนุนต๋งนีให้ได้เป็นเจ้าเมืองจิ้นแทน ครั้นเมืองจิ้นเกิดข้าวแพงจิ้นฮุยก๋งจึงขอซื้อข้าวจากก๋งจูบุน ก๋งจูบุนจึงให้นำข้าวไปแจกชาวเมืองจิ้น ปีต่อมาเมืองจิ๋นเกิดข้าวแพงบ้าง ครั้นไปขอซื้อข้าวจิ้นฮุยก๋ง จิ้นฮุยก๋งไม่ยอมขายให้ ก๋งจูบุนจึงยกทัพไปตีเมืองจิ้น จิ้นฮุยก๋งนำทัพออกมารบกับทัพเมืองจิ๋น ระหว่างรบก๋งจูบุนถูกทหารเมืองจิ้นล้อมไว้ มีโจรประมาณสามร้อยยกมาช่วยไว้ได้ ก๋งจูบุนสามารถจับจิ้นฮุยก๋งได้ เมื่อจิ้นฮุยก๋งมอบเมืองที่สัญญาไว้ให้แล้วก๋งจูบุนจึงปล่อยจิ้นฮุยก๋งกลับเมือง
ต่อมาต๋งนีเดินทางไปถึงเมืองจิ๋น ก๋งจูบุนเจ้าเมืองจิ๋นออกไปต้อนรับแล้วรับว่าจะช่วยให้ได้เมืองจิ้น ทั้งยังยกนางป๋วยเอง*ซึ่งเป็นบุตรีให้ต๋งนีด้วย ต่อมาจิ้นฮุยก๋งตายก๋งจูหึง*ผู้เป็นบุตรได้เป็นเจ้าเมืองแทนได้สองเดือนเศษ ต๋งนีกับทหารเมืองจิ๋นยกทัพมาตีเมืองจิ้นได้ ก๋งจูหึงหนีไป ต๋งนีจึงได้เป็นเจ้าเมืองจิ้นมีนามว่าจิ้นบุนก๋ง*
ก๋งจูบุนมีบุตรีคนหนึ่งชื่อนางหยก*อายุ 15 ปี รูปโฉมงดงามและมีความสามารถในการเป่าปี่ไม่มีใครเสมอ ก๋งจูบุนจึงให้ช่างเจียระไนท่อนหยกเป็นปี่ให้บุตรี ชื่อเสียงของนางเลื่องลือไปถึงเมืองหลวง พระเจ้าจิวเซียงอ๋อง*จึงให้มาขอให้กับพระราชบุตร แต่นางหยกไม่ยอมอ้างว่าได้เคยสาบานไว้ว่าจะแต่งงานกับชายที่รู้วิชาเป่าปี่ได้เหมือนตน วันหนึ่งนางหยกฝันถึงชายคนหนึ่งมีความสามารถในการเป่าปี่และบอกให้นางไปหาที่เขาไทฮอซัว* ก๋งจูบุนจึงให้ขุนนางไปตามหาก็พบจึงพากลับมาหาก๋งจูบุน แล้วให้ชายผู้นั้นลองเป่าปี่ก็สามารถเป่าได้เหมือนกับนางหยก ก๋งจูบุนจึงยกนางหยกให้เป็นภรรยาชายผู้นั้น ต่อมาจึงชวนนางหยกไปด้วยกัน
ก๋งจูบุนคิดถึงบุตรีไม่มีความสบายจนซูบผอมป่วยไข้จึงประชุมขุนนางว่าหากตนสิ้นชีวิตให้ยกซีจู*ขึ้นว่าราชการแทน ก๋งจูบุนสิ้นชีวิตเมื่ออายุได้ 96 ปี