TLD-003-2527
เปาซกแหย (ชื่อตัวละคร)
เปาซกแหยเป็นตัวละครในเรื่องเลียดก๊ก เป็นครูของก๋งจูเสียวแปะ*บุตรก๋งจูหยี*เจ้าเมืองเจ๋* ก๋งจูเสียวแปะกล่าวเปรียบเปรยก๋งจูหยีถึงเรื่องของนางบุนเกียง*จนก๋งจูหยีโกรธขับก๋งจูเสียวแปะไป เปาซกแหยพาก๋งจูเสียวแปะมาอยู่ที่เมืองกี๋*
ต่อมากวนต๋ง*ได้พาก๋งจูกิว*บุตรชายคนโตของก๋งจูหยีหนีมาอาศัยอยู่กับเปาซกแหยที่นอกเมืองกี๋ เปาซกแหยชวนกวนต๋งไปเยี่ยมก๋งจูเสียวแปะผู้เป็นหลานของเจ้าเมืองกี๋ ก๋งจูเสียวแปะได้ให้ทองคำแท่งหนึ่ง เปาซกแหยจึงนำมาตัดแบ่งให้กวนต๋งสองส่วน ตนเองเก็บไว้ส่วนหนึ่ง วันหนึ่งเปาซกแหยถามกวนต๋งว่าทั้งสองต่างเป็นครูของบุตรเจ้าเมืองเจ๋ ถ้ามีผู้กำจัดก๋งจูดี*แล้วจะให้ผู้ใดครองราชสมบัติสืบไป กวนต๋งจึงว่าการจะเป็นเจ้าเมืองนั้นจะมีแต่สติปัญญาและมีวิชาเท่านั้นไม่ได้แล้วแต่บุญวาสนา เปาซกแหยเห็นด้วย ครั้นกวนต๋งรู้ว่าก๋งจูดีให้คนตามหาตนก็เกรงอันตราย กวนต๋งจึงลาเปาซกแหยนำก๋งจูกิว*เดินทางไปเมืองฬ่อ* เมื่อยงสิม*ฆ่าก๋งจูดีตายแล้วกอฮี*แนะนำให้ไปเชิญก๋งจูกิวกลับมาครองสมบัติเมืองเจ๋ เขงหู*รู้เรื่องจึงนำก๋งจูกิวและกวนต๋งเดินทางมาเมืองเจ๋
ฝ่ายเปาซกแหยรู้ว่าก๋งจูดีถูกฆ่าตายเมืองเจ๋ไม่มีผู้ปกครอง จึงแนะนำให้ก๋งจูเสียวแปะรีบเดินทางกลับไปเมืองเจ๋ ครั้นก๋งจูกิวและก๋งจูเสียวแปะเดินทางมาพบกันที่ทางต่อแดน กวนต๋งถามก๋งจูเสียวแปะจะเดินทางไปไหน เมื่อรู้ว่าจะเดินทางไปเมืองเจ๋ กวนต๋งจึงเอาธนูยิงถูกท้องของก๋งจูเสียวแปะ ก๋งจูเสียวแปะแกล้งบาดเจ็บ เปาซกแหยรู้จึงรีบพาก๋งจูเสียวแปะเข้าเมืองเจ๋ได้เป็นเจ้าเมืองมีนามว่าเจ๋ฮวนก๋ง* ฝ่ายเจ้าเมืองฬ่อคิดว่าก๋งจูเสียวแปะตายจึงนำก๋งจูกิวเดินทางมาเมืองเจ๋
ครั้นมาใกล้ได้พบกองทัพของยงหลิม*ตั้งทัพรับศึกอยู่จึงรู้ว่าก๋งจูเสียวแปะได้เป็นเจ๋ฮวนก๋งเจ้าเมืองเจ๋จึงเกิดการรบพุ่งกัน กองทัพเมืองฬ่อแตกพ่ายกลับเมืองไป กองทัพเมืองเจ๋ยกทัพตามไปประชิดเมืองแล้วให้เจ้าเมืองฬ่อตัดศีรษะกวนต๋ง ก๋งจูกิว และเตียวคุด*ส่งให้จึงจะเลิกทัพ เจ้าเมืองฬ่อจำต้องตัดศีรษะก๋งจูกิวและเตียวคุดแล้วให้คุมตัวกวนต๋งส่งให้กองทัพเมืองเจ๋ กองทัพเมืองเจ๋จึงถอยทัพกลับไป เมื่อกวนต๋งไปถึงค่ายทหารเปาซกแหยจึงให้ปล่อยตัวออกมาแล้วบอกว่าจะช่วยพูดกับเจ๋ฮวนก๋งไม่ให้เอาผิดกวนต๋ง ครั้นเปาซกแหยกลับถึงเมืองก็อ้อนวอนเจ๋ฮวนก๋งให้อภัยโทษกวนต๋ง เจ๋ฮวนก๋งเกรงว่าถ้าขืนดื้อดึงลงโทษกวนต๋งเปาซกแหยจะเสียใจจึงอภัยให้ ต่อมาเจ๋ฮวนก๋งจะตั้งให้เปาซกแหยเป็นเสียงเขงผู้สำเร็จราชการ เปาซกแหยปฏิเสธว่าตนขออยู่รับราชการไปจนกว่าจะตายเท่านั้นและแนะนำให้ตั้งกวนต๋งแทน เจ๋ฮวนก๋งจึงออกไปรับกวนต๋งที่นอกเมืองแล้วแต่งตั้งให้เป็นเสียงเขงว่าการทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน
ต่อมาเมื่อกวนต๋งสิ้นชีวิตเจ๋ฮวนก๋งจึงตั้งกองซุนสิบผอง*เป็นเสียงเขงสำเร็จราชการแผ่นดินตามคำแนะนำของกวนต๋ง กองซุนสิบผองทำหน้าที่ได้เดือนหนึ่งก็สิ้นชีวิต เจ๋ฮวนก๋งจึงให้หาเปาซกแหยเข้ามาจะตั้งให้เป็นขุนนางผู้ใหญ่ เปาซกแหยบิดพลิ้วไม่ยอม เจ๋ฮวนก๋งจึงถามว่าควรจะตั้งผู้ใด เปาซกแหยจึงว่าหากเจ๋ฮวนก๋งขับขุนนางสอพลอ 3 คนคือ ซูเตียว* เอ็ดแหย* และไคหอง*ออกจากเมืองตามที่กวนต๋งสั่งไว้ ตนก็จะยอมเป็นขุนนางทำราชการสืบไป เจ๋ฮวนก๋งขับไล่ขุนนางทั้งสามออกจากเมือง แล้วตั้งเปาซกแหยเป็นขุนนางผู้ใหญ่สำเร็จราชการในเมือง อาณาประชาราษฎรทั้งปวงก็เป็นสุขมาช้านาน แต่ครั้นเจ๋ฮวนก๋งขับขุนนางทั้งสามออกไปแล้วก็ไม่สบายใจจึงให้ตามเอ็ดแหย ซูเตียว และไคหอง กลับมาอีก เปาซกแหยเห็นเจ๋ฮวนก๋งไม่ฟังคำของตนก็เสียใจกลับมาบ้าน ทุกข์ตรอมใจไม่เป็นอันกินอันนอนจึงเกิดโรคกำเริบขึ้นและสิ้นชีวิต ขุนนางสอพลอทั้งสามจึงได้เป็นขุนนางผู้ใหญ่ในเมืองเจ๋
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory