TLD-003-4526
สีดา 2 (ชื่อตัวละคร)
สีดาเป็นตัวละครในบทละครเรื่องรามเกียรติ์ เป็นธิดาของทศกัณฐ์*กับนางมณโฑ* นางสีดาเป็นธิดาบุญธรรมของท้าวชนก* เป็นมเหสีของพระราม* มีโอรสชื่อมงกุฎ*
เมื่อพระนารายณ์*จะอวตารมาปราบยักษ์ ได้เชิญพระลักษมี*ร่วมอวตารด้วย ตอนท้าวทศรถ*ทำพิธีหุงข้าวทิพย์*เพื่อขอลูก นางมณโฑได้กลิ่นข้าวทิพย์ก็อยากเสวย ทศกัณฐ์จึงให้นางกากนาสูร*ไปชิงก้อนข้าวจากกรุงอยุธยา* ครั้นนางมณโฑเสวยก็ตั้งครรภ์โดยมีพระลักษมีมาเกิดเป็นธิดาของทศกัณฐ์ เมื่อแรกประสูติกุมารีร้องว่า “ผลาญราพณ์” ถึง 3 ครั้ง
พิเภก*ทำนายว่าพระธิดาจะเป็นภัยแก่กรุงลงกา* และทูลให้ทศกัณฐ์นำพระธิดาไปลอยน้ำ ทศกัณฐ์จึงมอบให้พิเภกจัดการ พิเภกให้นำนางใส่ผอบทองและให้สุกรสาร*นำไปลอยน้ำ สุกรสารเหาะไปจนถึงแม่น้ำวัลวา*ก็ทิ้งผอบลงน้ำ ด้วยบุญของพระธิดาก็เกิดมีดอกบัวมารับผอบไว้ ผอบทองลอยทวนน้ำไปจนถึงแม่น้ำเนรัญชรา*แล้วไปหยุดอยู่ที่ท่าน้ำ พระฤๅษีชนกมาพบจึงนำกุมารีไปเลี้ยงเป็นบุตรีบุญธรรม ครั้นเห็นว่าตนไม่มีเวลาปฏิบัติกิจของฤๅษีก็ให้นำนางไปฝังไว้ โดยฝากเทวดาให้ช่วยดูแล เมื่อท้าวชนกจะลาพรตกลับไปครองเมืองมิถิลา* ได้ให้ไถหาพระธิดาที่ฝังไว้ เมื่อเปิดผอบก็พบว่านางเจริญวัย อายุได้ 16 ปี เป็นหญิงงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ท้าวชนกให้นามพระธิดาว่าสีดา และพานางกลับเมืองมิถิลา
ท้าวชนกให้ทำพิธีสยุมพรเพื่อเลือกคู่ให้นางสีดาโดยให้ยกมหาธนูโมลี*ของพระอิศวร* นางสีดาอยู่บนปราสาทมองลงมาสบเนตรกับพระรามที่ดำเนินผ่านมา ในพิธีสยุมพรพระรามสามารถยกธนูได้จึงได้อภิเษกกับนางสีดา ท้าวทศรถให้จัดทัพจากกรุงอยุธยาไปรับนางสีดาที่เมืองมิถิลา ต่อมานางไกยเกษี*ขอพรท้าวทศรถให้พระพรต*ครองราชย์ และให้พระรามออกเดินป่า 14 ปี นางสีดาและพระลักษณ์*ขอตามเสด็จด้วย
เมื่อพระราม พระลักษณ์ และนางสีดาประทับอยู่ที่ริมฝั่งน้ำโคทาวารี* นางสำมนักขา*เห็นพระรามรูปงาม อยากได้เป็นสวามีจึงตามมาถึงอาศรม พบนางสีดาก็เข้าทำร้าย พระลักษณ์ออกมาช่วย และลงโทษนางสำมนักขา นางสำมนักขาไปทูลทศกัณฐ์ว่านางสีดางดงาม ทศกัณฐ์อยากได้นางเป็นชายา จึงให้มารีศ*แปลงเป็นกวางทองไปล่อให้พระราม พระลักษณ์ออกจากอาศรม นางสีดาเห็นกวางทองก็อยากได้จึงให้พระรามตามกวางไป พระรามแผลงศรไปถูกกวางทอง กวางกลายร่างเป็นมารีศ มารีศร้องเป็นเสียงพระราม นางสีดาจึงให้พระลักษณ์ตามไปช่วย ทศกัณฐ์จึงลักพานางไปได้ นางสีดาได้ฝากนกยูงไปทูลพระราม และฝากผ้าสไบให้วานรไปถวายพระราม ระหว่างทางพญานกสดายุ*ได้เข้าขัดขวางต่อสู้กับทศกัณฐ์ แต่ทศกัณฐ์ใช้แหวนของนางสีดาขว้างไปถูกพญานกสดายุบาดเจ็บสาหัส สดายุคาบแหวนของนางรอพระราม
ครั้นไปถึงกรุงลงกา ทศกัณฐ์ให้นางสีดาอยู่ในอุทยาน เพราะเกรงใจนางมณโฑมเหสี แล้วให้เหล่านางกำนัลคอยรับใช้นางสีดา ทศกัณฐ์ไม่สามารถเข้าใกล้นางได้เพราะกายนางร้อน ทศกัณฐ์โกรธนางกำนัลที่ไม่ช่วยเกลี้ยกล่อมนางสีดา เหล่านางกำนัลจึงด่าว่านาง นางสีดาแค้นใจจึงผูกศอกับกิ่งโศก แต่หนุมาน*ซึ่งพระรามใช้ให้ไปสืบข่าวช่วยไว้ได้ทัน เมื่อหนุมานอาสาจะพานางกลับไปหาพระราม นางสีดาปฏิเสธเพราะเกรงจะถูกครหา ขอให้หนุมานไปทูลพระรามให้รีบตามมาสังหารทศกัณฐ์และเผ่าพงศ์ยักษ์ พระรามก็ยกทัพและจองถนนมากรุงลงกา
ครั้งศึกอินทรชิต* พระลักษณ์ถูกศรพรหมาสตร์* พระรามเห็นก็สลบไป ทศกัณฐ์ให้นางตรีชฎา*พานางสีดาขึ้นบุษบกแก้ว*ไปที่สนามรบเพื่อดูศพพระราม นางสีดาเข้าใจว่าพระราม พระลักษณ์สิ้นพระชนม์ก็เศร้าโศก นางตรีชฎาจึงทูลว่า พระรามยังไม่สิ้นพระชนม์เพราะบุษบกแก้วจะไม่ลอยถ้าหญิงม่ายนั่ง
นางสีดาอยู่ในกรุงลงกาจนท้าวมาลีวราช*ให้เชิญนางไปเป็นพยานข้อพิพาทของพระรามกับทศกัณฐ์ ครั้นให้การเสร็จแล้วท้าวมาลีวราชก็ให้พานางสีดากลับไปส่งที่กรุงลงกา
ครั้นพระรามสังหารทศกัณฐ์แล้ว พิเภกให้นางมณโฑและเหล่านางกำนัลของกรุงลงกาเชิญนางสีดาจากอุทยานไปเฝ้าพระราม พระอินทร์*ให้นางอัปสรชื่อรัมภา*กับนางอรุณวดี*พร้อมเหล่านางอัปสรนำเครื่องทรงมาถวายนางสีดา และให้ตามเสด็จไปเฝ้าพระรามด้วย พระรามเกรงว่านางจะเป็นที่ติฉินของผู้อื่นเพราะอยู่ในกรุงลงกาหลายปี จึงทำอุบายถามถึงของที่ทศกัณฐ์ประทานให้นาง นางสีดาจึงขอพิสูจน์ความบริสุทธิ์ด้วยการลุยไฟ ขณะที่นางสีดาลุยไฟเกิดดอกบัวทิพย์ผุดขึ้นมารองรับ เหล่าเทวดาและพลวานรเห็นดังนั้นก็สรรเสริญความซื่อสัตย์ของนาง พระรามพานางสีดากลับกรุงอยุธยา
ต่อมานางยักษ์อดูลปีศาจ*ญาติของทศกัณฐ์คิดจะแก้แค้นแทนทศกัณฐ์ จึงแปลงเป็นนางกำนัลลวงให้นางสีดาวาดภาพทศกัณฐ์ พระรามเข้าใจผิดว่านางสีดายังระลึกถึงทศกัณฐ์อยู่ จึงให้พระลักษณ์นำนางสีดาไปประหาร พระลักษณ์ไม่อาจประหารนางได้เพราะพระขรรค์กลายเป็นพวงมาลัยคล้องศอนาง พระลักษณ์จึงปล่อยนางไว้ในป่ากาลวาต* พระอินทร์เห็นดังนั้นก็แปลงเป็นกระบือพานางไปอยู่กับฤๅษีวัชมฤค*
นางสีดาอาศัยอยู่กับพระฤๅษีจนประสูติโอรส วันหนึ่งนางฝากพระกุมารไว้กับพระฤๅษี แต่ก็กลับมาอุ้มพระกุมารไปโดยที่พระฤๅษีไม่รู้ พระฤๅษีไม่เห็นพระกุมาร จึงวาดรูปกุมารเพื่อจะชุบโอรสใหม่ให้นาง ครั้นเห็นนางอุ้มโอรสกลับมาก็จะลบรูปเขียนทิ้ง แต่นางสีดาขอให้ชุบรูปเขียนให้เป็นเพื่อนกับโอรส พระฤๅษีให้ชื่อโอรสนางสีดาว่าพระมงกุฎ*และโอรสที่ชุบชื่อพระลบ*
ต่อมาพระมงกุฎลองศร พระรามได้ยินเสียงเห็นเป็นอัศจรรย์จึงปล่อยม้าอุปการและให้หนุมานตามไปดู หนุมานรบแพ้พระมงกุฎ พระรามจึงให้พระพรตและพระสัตรุดจับพระมงกุฎไปขังไว้ในกรุงอยุธยา นางสีดาประทานแหวนให้พระลบไปช่วยพระมงกุฎหนีออกมาได้ ครั้นพระรามรู้ว่าพระมงกุฎเป็นโอรสก็ขอพระมงกุฎและพระลบเข้ากรุงอยุธยา ส่วนนางสีดาไม่ยอมกลับ พระรามจึงคิดอุบายลวงนางสีดากลับกรุงอยุธยา โดยให้หนุมานไปทูลว่าพระรามสิ้นพระชนม์ นางสีดาจึงมากรุงอยุธยาแต่เมื่อรู้ว่าเป็นอุบายก็โกรธหนีไปเมืองบาดาล
พระอินทร์เห็นว่าพระรามและนางสีดาเข้าใจผิดกัน จึงทูลให้พระอิศวรช่วยไกล่เกลี่ย พระอิศวรให้เชิญพระรามและนางสีดาไปที่เขาไกรลาส*และไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองคืนดีกัน นางสีดาเห็นว่าเป็นบัญชาของพระอิศวรก็ยอมคืนดีกับพระราม พระอิศวรให้ทำพิธีอภิเษกพระรามกับนางสีดาอีกครั้ง
ครั้นพระราม พระลักษณ์ พระพรต และพระสัตรุด*ปราบยักษ์สิ้นแล้ว นางสีดาก็ประทับอยู่ในกรุงอยุธยากับพระราม พระมงกุฎ และพระลบจนสิ้นไตรดายุค*
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
Attribution-NonCommercial-NoDerivs (CC BY-NC-ND)
Copyright © 2015 ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย : Thai Literature Directory